เซาท์ไชน่า มอร์นิ่งโพสต์ - วงการค้าไวน์จีน-ยุโรปชื่นมื่น หลังสองฝ่ายเจรจายกเลิกมาตรการตอบโต้การทุ่มตลาดแดนมังกรสำเร็จผล รับขวัญผู้นำสูงสุดเดินทางกระชับสัมพันธ์กับอียู
รายงานข่าว (22 มี.ค.) กล่าวว่า บริษัทผู้ผลิตไวน์ของจีนและกลุ่มประเทศยุโรปบรรลุข้อตกลงที่จะยุติกระบวนการตรวจสอบการตอบโต้การทุ่มตลาดและการอุดหนุนในสินค้าไวน์นำเข้าจากยุโรป หลังในปีก่อนรัฐบาลจีนดำเนินการไต่สวนว่ายุโรปกำลังพยายามจำหน่ายไวน์ภายในประเทศจีนด้วยราคาต่ำอย่างไม่เป็นธรรมหรือไม่
นายเกา หู่เฉิง รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ของจีน กล่าว (21 มี.ค.) ว่า เขารู้สึกยินดีที่ข้อโต้แย้งเรื่องสินค้าไวน์จากยุโรปได้รับความร่วมมือในการเจรจาแก้ไข
“นับตั้งแต่ปัญหาการค้าแผงโซลาร์เซลล์ได้รับการพูดคุยจนลุล่วงด้วยดีในปีก่อน จีนและยุโรปต่างเดินอยู่บนเส้นทางที่ถูกต้องเพื่อจัดการปัญหาความไม่ลงรอยทางการค้าระหว่างกัน” เกากล่าว
หลายฝ่ายมองว่ามาตรการตอบโต้การทุ่มตลาดฯ สินค้าไวน์ของทางการจีนก่อนหน้านี้ เป็นการเอาคืนยุโรปหลังพยายามตั้งกำแพงภาษีนำเข้าสำหรับผลิตภัณฑ์แผงโซลาร์เซลล์ที่มาจากจีน
อนึ่งปริมาณการส่งออกไวน์ยุโรปมายังแดนมังกรและเกาะฮ่องกงได้เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยปี 2555 แตะระดับ 257 ล้านลิตร คิดเป็นมูลค่าเกือบ 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งปริมาณไวน์มากกว่าครึ่งหนึ่งส่งออกมาจากประเทศฝรั่งเศส
ทั้งนี้ นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน ซึ่งอยู่ระหว่างการเดินทางเยือนสหภาพยุโรป หรืออียู (EU) ในฐานะผู้นำจีนเป็นครั้งแรก จะเยี่ยมเยียนประเทศเนเธอร์แลนด์ ฝรั่งเศส เยอรมัน เบลเยี่ยม พร้อมกับสำนักงานใหญ่สหภาพยุโรป และร่วมประชุมสุดยอดผู้นำกับนางอังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมัน และนายฟร็องซัว ออล็องด์ ประธานาธิบดีฝรั่งเศส ตลอดจนพบปะกับนายบารัค โอบามา ผู้นำสหรัฐฯ ในการประชุมสุดยอดผู้นำว่าด้วยความมั่นคงทางนิวเคลียร์ ณ กรุงเฮก เนเธอร์แลนด์อีกด้วย
ขณะที่บรรดานักวิเคราะห์มองว่าผู้นำแดนมังกรคงจะไม่ยกประเด็นความขัดแย้งของยูเครนมาพูดคุยในทริปกระชับความสัมพันธ์ครั้งนี้ แต่พวกเขาเชื่อว่าจีนก็ไม่สามารถอยู่ในสถานะผู้เฝ้าดูเหตุการณ์เฉยๆ ได้ตลอดไป
“จีนพยายามหลีกเลี่ยงการเข้าไปมีบทบาทในสถานการณ์ที่ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อประเทศ” โทมัส คอนิก เจ้าหน้าที่จากสภาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศแห่งสหภาพยุโรป (European Council on Foreign Relations) กล่าว
“ทว่าความรู้สึกในหมู่ประเทศยุโรปกลับมองว่าอนาคตอันใกล้จีนจะไม่สามารถเป็นแค่มหาอำนาจที่เลือกไม่แทรกแซงกิจการภายในอย่างที่เคยเป็นมาได้อีกต่อไป”