xs
xsm
sm
md
lg

“สหรัฐฯ” แอบแฮกระบบคอมพิวเตอร์ของ “หัวเหว่ย” บ.สื่อสารยักษ์ใหญ่ของจีน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


รอยเตอร์ส – หน่วยงานความมั่นคงสหรัฐฯ หรือ NSA แอบเจาะเข้าระบบคอมพิวเตอร์บริษัททางด้านการสื่อสารของจีน รวมทั้งบริษัท หัวเหว่ย เทคโนโลยี ที่เป็นผู้ผลิตอุปกรณ์เครือข่ายและโทรคมนาคมรายใหญ่ที่สุดของจีน เพื่อรวบรวมข้อมูลและสอดแนมการสนทนาของเหล่าผู้บริหารระดับสูง หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์ส สื่อสหรัฐฯ รายงานเมื่อวานนี้ (22)

โดยหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์ สื่อสหรัฐฯ ที่ได้รายงานเมื่อวานนี้ (22) ที่รวมไปถึงสื่อเยอรมัน Der Spiegel ที่เปิดเผยผ่าออนไลน์ด้วย ซึ่งพบว่าหน่วยงาน NSA สหรัฐฯ ได้สอดแนมบริษัทโทรคมนาคมของจีนครั้งนี้กระทำภายใต้รหัสปฎิบัติการ “Shotgiant” ซึ่งรายงานนี้ได้อ้างอิงจากเอกสารลับของหน่วยงาน NSA ที่ถูกเปิดเผยโดย เอ็ดเวิร์ด สโนว์เดน อดีตนักวิเคราะห์ระบบของ NSA ที่ปัจจุบันยังลี้ภัยอยู่ในรัสเซีย

และพบว่าหนึ่งในจุดมุ่งหมายของปฎิบัติการShotgiant คือ “การหาความสัมพันธ์ระหว่าง บ.หัวเหว่ย เทคโนโลยีและกองทัพประชาชนจีน” อ้างจากเอกสารลับ NSA ในปี 2010 ที่เปิดเผยโดยไทมส์ ซึ่งสื่อสหรัฐฯได้กล่าวอธิบายว่าปฏิบัติการ Shotgiant นี้มีเป้าประสงค์เพื่อต้องการสอดแนมหัวเหว่ยอย่างครอบคลุมด้วย จากเอกสารลับชี้ให้เห็นว่า NSA ตั้งเป้าสอดแนมผ่านระบบคอมพิวเตอร์และระบบเครือข่ายโทรศัพท์ของหัวเหว่ยที่ได้ขายให้กับชาติอื่น และหากได้รับคำสั่งจากประธานาธิบดีสหรัฐฯ ทาง NSA มีแผนที่จะมีปฏิบัติการสอดแนมทางโลกไซเบอร์อีกด้วย

นอกจากนี้ ไทม์สยังได้เปิดเผยว่า NSA สามารถควบคุมการเข้าสู่เซิร์ฟเวอร์ของสำนักงานใหญ่ของหัวเหว่ยในเซินเจิ้น มณฑลกวางตุ้ง ได้สำเร็จ และได้ทำการรวบรวมข้อมูลการทำงานของเราท์เตอร์ขนาดใหญ่และดิจิตอลสวิตต์ที่ซับซ้อนที่ทางหัวเหว่ยอ้างว่าใช้เชื่อมถึง 1 ใน 3 ของคนทั้งโลกไว้ และนอกจากนี้ อ้างจากไทม์ส NSA ยังได้แอบสอดแนมการสนทนาของเหล่าผู้บริหารระดับสูงของหัวเหว่ยอีกด้วย

และ Der Spiegel ได้รายงานว่า NSA ได้แฮกระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ของหัวเหว่ย และได้รวบรวมรายชื่อลูกค้าของบริษัทจำนวนมากกว่า 1,400 รายชื่อ และรวมไปถึงเอกสารการเทรนนิงภายในองค์กรสำหรับวิศวกรของบริษัท “เราได้เข้าถึงข้อมูลจำนวนมหาศาลที่ทางเราไม่ยังไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไรกับมัน” Der Spiegeได้อ้างคำพูดที่กล่าวไว้ในเอกสารลับของหน่วยงานความมั่นคงสหรัฐฯ

นอกจากนี้ สื่อเยอรมันยังได้รายงานต่อว่า ยังมีรายงานว่า NSA ได้แอบเก็บความเคลื่อนไหวผู้นำระดับสูงของจีน เช่น อดีตนายกรัฐมนตรีจีน หู จิ่นเทา และรัฐมนตรีการค้า และรัฐมนตรีต่างประเทศของจีน เป็นต้น

“เป้าหมายของเรานั้นใช้ผลิตภัณฑ์ของหัวเหว่ย เราต้องทำให้แน่ใจว่าเรารู้จักผลิตภัณฑ์พวกนี้อย่างดีที่สุดเพื่อสามารถเจาะระบบเครือข่ายได้ครอบคลุมทั้งโลก” ไทม์สรายงานโดยอ้างจากเอกสารลับของสโนว์เดน

และไทม์สยังรายงานต่อว่า “หากทาง NSA สามารถรู้ถึงแผนงานและเป้าหมายของหัวเหว่ย ทางสหรัฐฯหวังว่าจะทำให้เข้าใจย้อนไปถึงแผนการและเป้าหมายของรัฐบาลจีนได้” นักวิเคราะห์ให้ความเห็นผ่านรายงาน NSAในปี 2010

นอกจากนี้สื่อสหรัฐฯยังได้เปิดเผยว่า หัวเหว่ยได้ลงทุนในเทคโนโลยีใหม่และวางสายเคเบิลใต้ทะเลเพื่อเชื่อมระบบปฎิบัตการเครือข่ายของบริษัทที่มีมูลค่า 40 พันล้านดอลลาร์ต่อปี ซึ่งทำให้สหรัฐฯสนใจรวบรวมข้อมูลของบุคคลสำคัญในจีน และรวมถึงเป้าหมายพิเศษของหน่วยงานที่รวมถึง อิหร่าน อัฟกานิสถาน ปากีสถาน เคนยา และคิวบา

โดย วิลเลียม พลัมเมอร์ เจ้าหน้าที่บริหารระดับสูงของหัวเหว่ยในสหรัฐฯได้กล่าวผ่านไทมส์ว่า ทางบริษัทหัวเหว่ยไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าได้ตกเป็นเป้าหมายของหน่วยงานความมั่นคงสหรัฐฯ “มันเป็นเรื่องเหลือเชื่อในสิ่งที่ NSA ทำกับหัวเหว่ยเหมือนกับที่ทางสหรัฐฯได้กล่าวอ้างว่า จีนได้แอบจารกรรมสหรัฐฯ” และกล่าวต่อไปว่า “และหากมีการแอบจารกรรมข้อมูลจากหัวเหว่ยจริง ก็คงได้รับรู้ว่า หัวเหว่ยไม่เกี่ยวข้องกับรัฐบาลชาติใด และสิ่งนี้ควรถูกเปิดเผยให้ทราบทั่วไปเพื่อยุติยุคแห่งข้อมูลที่ผิดพลาดและการให้ข้อมูลที่ไขว้เขว”

และไทม์สยังระบุว่า ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่สหรัฐฯมองหัวเหว่ยเหมือนเป็น “ภัยคุกคามทางความมั่นคงอเมริกา” และได้ปิดกั้นไม่ให้บริษัทสัญชาติจีนแห่งนี้ทำธุรกิจกับหน่วยงานสหรัฐฯ เพราะเกรงว่าทางหัวเหว่ยอาจแอบสอดไส้เพื่อเอื้อประโยชน์ให้เหล่าแฮกเกอร์ของรัฐบาลจีนและกองทัพประชาชนจีนแอบจารกรรมความลับหน่วยงานสหรัฐฯและบริษัทเอกชนของอเมริกา

ซึ่งการเปิดเผยเอกสารลับของสโนว์เดนครั้งนี้มีขึ้นก่อนที่ประธานาธิบดีจีน สี จิ้นผิง จะเดินทางเยือนยุโรปและเข้าพบกับนายกรัฐมนตรีเยอรมัน อังเกลา แมร์เคิล ซึ่งตัวเธอเองก็ตกเป็นเหยื่อดักฟังของ NSA

และทั้งหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์ส และ Der Spiegel ได้เผยแพร่ปฎิบัติการ Shotgiant ของ NSA ในช่วงที่ นางมิเชล โอบามา พร้อมบุตรสาวทั้งสอง และมารดาของเธอเดินทางเยือนจีนในขณะนี้ ซึ่งเธอได้พบปะกับสีอย่างไม่คาดหมายที่กรุงปักกิ่ง และเมื่อวานนี้ (22) สุภาพสตรีหมายเลข 1 ของสหรัฐฯได้กล่าวสุนทรพจน์กับนักศึกษาจีนหัวข้อ “เสรีภาพทางการแสดงความเห็น” โดยเธอย้ำว่าการเข้าถึงข้อมูลโดยเฉพาะทางออนไลน์เป็น “เสรีภาพพื้นฐานของมนุษย์”
กำลังโหลดความคิดเห็น