ASTVผู้จัดการออนไลน์--ไม่กี่ปีมานี้ ภาพตึกอาคารที่ทำการรัฐบาลท้องถิ่นหลังมหึมา แบบหรูหรา ในเขตต่างๆของจีน ได้ตกเป็นข่าวให้เห็นถี่ๆในสื่อท้องถิ่น ตัวอย่างที่น่าตื่นตาตื่นใจ ได้แก่ ตึกที่ว่าการอำเภอฉางซิงในมณฑลเจ้อเจียง ใช้งบประมาณก่อสร้างและตกแต่งถึง 2,000 ล้านหยวน หรือประมาณ 10,000 ล้านบาท, ตึกสำนักงานเทศบาลเมืองจี้หนันในมณฑลซันตง ทุ่มงบประมาณก่อสร้าง ถึง 4,000 ล้านหยวน หรือ ราว 20,000 ล้านบาท อลังการด้วยพื้นที่กว้างขวาง 370,000 ตารางเมตร ระเบียงยาวถึง 1 กิโลเมตร ลิฟท์ กว่า 40 ตัว และตึกที่ทำการรัฐบาลท้องถิ่นเมืองโหลวตี ในมณฑลหูหนัน ที่สร้างด้วยงบฯกว่า 500 ล้านหยวน หรือราว 2,500 ล้านบาท ได้รับฉายาเป็น “หมู่ตึกทำเนียบขาว”
นี่คือ ยอดน้ำแข็งของกรณีสำนักงานที่ทำการรัฐขนาดมหึมาที่ใช้งบฯสร้างมหาศาลในประเทศจีน
ขณะนี้รัฐบาลพญามังกรกำลังลุยปราบบรรดาสำนักงานรัฐสุดอลังการ โดยนับเป็นผลงานที่สี่ของมาตรการกวาดล้างการใช้จ่ายฟุ่มเฟือยที่ผลาญงบประมาณแผ่นดิน ซึ่งจีนเปรียบเป็น “โรคเรื้อรัง” ที่น่าอันตราย สำหรับสามเป้าหมายแรกของการกวาดล้างฯ ที่รัฐบาลได้ออกมาตรการจัดการไปก่อนหน้า ได้แก่ ค่าใช้จ่ายเดินทางไปต่างประเทศของเจ้าหน้าที่ การใช้รถหรูของหน่วยงานรัฐ และการจัดงานเลี้ยงรับรองที่ฟุ้งเฟ้อ
ในต้นสัปดาห์นี้กลุ่มสื่อจีนได้ออกข่าวผลงานการปราบปรามในเป้าหมายที่สี่ โดยได้จัดการยึดคืนสำนักงานจากหน่วยงานรัฐ 86 ราย รวมพื้นที่ 3.65 ล้านตารางเมตร อาทิ ในมณฑลซันตง มีการกวาดล้างสำนักงานที่สร้างเกินมาตรฐานที่กำหนด รวมพื้นที่ 640,000 ตารางเมตร ทั้งยังได้สั่งระงับการก่อสร้าง 15,000 โครงการ ในมณฑลหูหนันก็มีการยึดคืนสำนักงานรัฐ รวมกว่า 870,000 ตารางเมตร เป็นต้น สื่อจีนชี้ว่า “นับเป็นการเริ่มต้นที่ดี
การขจัดการใช้จ่ายที่สิ้นเปลืองในสาธารณะสมบัติประเภทที่สี่นี้ เป็นปัญหา “โรคเรื้อรัง” ที่ร้ายแรง แม้รัฐบาลได้ประกาศเตือนหลายครั้ง ตึกอาคารสำนักงานรัฐที่ผลาญงบฯมหาศาลก็ผุดขึ้นไม่รู้จบสิ้น จนกระทั่งเดือนก.ค.ปีที่แล้ว (2556) รัฐบาลได้อออกประกาศ “ว่าด้วยการระงับการก่อสร้างตึกอาคารแห่งใหม่และการจัดการสำนักงานรัฐ” พร้อมทั้งมีการบูรณการหน่วยงานต่างๆในปฏิบัติการฯนี้
อีกทั้งมีกฎระเบียบฯระบุมาตรฐานพื้นที่ห้องทำงานของเจ้าหน้าที่เป็นรายบุคคล ได้แก่ ระดับรัฐมนตรี ไม่เกิน 54 ตารางเมตร, ระดับหัวหน้ากรม/กอง/สำนักงานต่างๆ ไม่เกิน 24 ตารางเมตร ระดับหัวหน้าแผนก ไม่เกิน 9 ตารางเมตร แม้กระนั้นก็ตาม กรณีห้องทำงานเจ้าหน้าที่และสำนักงานรัฐที่มีพื้นที่เกินมาตรฐาน ทั้งการตกแต่งอู้ฟู่ ก็ปรากฏเป็นข่าวไม่ขาดสาย
จากการติดตามเจาะข่าว สัมภาษณ์โดยผู้สื่อข่าวจีน ยังได้พบว่าตามพื้นที่ต่างๆจำนวนไม่น้อย เกิดปรากฎการณ์ “แปลกพิลึก” คือ “ระดับหน่วยการปกครองยิ่งเล็ก ห้องทำงานหรือสำนักงานผู้นำยิ่งหรูหรา” เช่น ห้องทำงานของผู้นำใหญ่ในเทศบาลตำบลจำนวนหนึ่ง ขนาดพื้นที่ห้องเกินมาตรฐาน มีทั้งห้องรับแขก ห้องประชุมเล็ก ห้องนอน ห้องอาบน้ำ ภายในอาคารยังมีห้องออกกำลังกาย ห้องบันเทิง บางแห่งพื้นที่ใหญ่ถึงกว่าร้อยตารางเมตร
นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มตึกสำนักงานรัฐที่ซ่อนเร้นตัวในเมือง เช่น ตึกอาคารหรูของที่ว่าการอำเภอผี ในมณฑลซื่อชวน (หรือเสฉวน) ก่อสร้างแล้วเสร็จมา 5 ปี แต่ไม่มีการขึ้นป้ายแต่อย่างใด เมื่อสื่อรายงานข่าวเปิดโปงฯ ก็ “ตอบอย่างกระมิดกระเมี้ยน”... “ยอมรับตัวตน”
เมื่อสองปีก่อน อำเภอแห่งหนึ่งในมณฑลอันฮุยได้ก่อสร้างตึกสำนักงานแห่งใหม่ โดยสร้างในนามของ “ศูนย์กลางการค้า” เมื่อปีที่แล้ว ผู้สื่อข่าวจีนได้ไปเจาะข่าว พบว่าตึกที่ว่าการอำเภอสุดหรู ไม่มีป้ายบอกชื่อสำนักงาน ขณะที่ชาวเมืองกลุ่มหนึ่งไม่รู้เช่นกันว่าที่นี่คือที่ทำการของรัฐบาลท้องถิ่น
ด้านผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า จะต้องมีการ “เปิดโปง” กลุ่มตึกอาคารที่หลบๆซ่อนๆ เหล่านี้ เพื่อประสิทธิภาพในการตรวจสอบ
หลายปีมานี้ แม้มีการออกคำสั่งห้ามโครงการก่อสร้างสำนักงานหน่วยงานรัฐแห่งใหม่ไม่ขาดสาย แต่กลุ่ม “สำนักงานหรู” ก็ผุดขึ้นมาไม่ขาดสายเช่นกัน บางเขตมณฑลได้พยายามดำเนินการเงียบๆ “ปฏิรูปตึกอาคาร” อาทิ เมืองเวินโจว มณฑลเจ้อเจียง เมื่อเดือนเม.ย.ปีที่แล้ว ก็ได้เป็นผู้บุกเบิกการปฏิรูปกฎเกี่ยวกับสำนักงานรัฐ แต่ก็ประสบอุปสรรคตลอดมา
สัญญาณที่ดี...
จีนได้ออกคำสั่งฉบับแรก “ว่าด้วยข้อจำกัดการสร้างสำนักงาน” เมื่อปี 2531 จากนั้นมาก็ได้ประกาศมาตรการกว่า 10 ชุด เพื่อบรรลุเป้าหมาย เมื่อปีที่แล้วรัฐบาลได้ประกาศกฎระเบียบและข้อบังคับเพื่อการประหยัด ต่อต้านการใช้จ่ายฟุ่มเฟือย ในกฎฯชุดใหม่นี้ ได้ระบุมาตราสำหรับจัดการสำนักงานรัฐถึง 7 มาตรา
การสร้างอาคารตึกสำนักงานที่หรูหรา นอกจากเพิ่มพูนความสิ้นเปลือง ยังแสดงถึง “อภิสิทธิ์” ของกลุ่มเจ้าหน้าที่รัฐ ประชาชนกลุ่มหนึ่งก็มองว่าโครงการก่อสร้างเหล่านี้เป็นช่องทางคอรัปชั่น
ไต่สวนคดียักยอก นำร่องสู่ปัญหาการสร้าง “ทำเนียบขาว”
ก่อนหน้ามีรายงานข่าวแกะรอยความไม่ชอบมาพากลของตึกสำนักงานหรู คือ อาคารที่ทำการเทศบาลเมืองโหลวตี เมืองโหลวตีเป็น 1 ใน 14 เขตของมณฑลหูหนัน และจัดเป็นเมืองที่มีเศรษฐกิจล้าหลังที่สุดของมณฑล ในปี 2549 ได้ก่อสร้างตึกหลังมหึมาบนพื้นที่ 247 หมู่ (1 หมู่ เท่ากับ 66.7 ตร.ม.) เป็นที่ทำการรัฐบาลท้องถิ่น งบประมาณก่อสร้างกว่า 500 ล้านหยวน หรือ ราว 2,500 ล้านบาท ประกอบด้วยตึก 7 หลัง ที่มีแบบหลังคารูปโดมแบบเดียวกับทำเนียบขาวของสหรัฐฯ ชาวเมืองจึงตั้งฉายาเป็น “หมู่ตึกทำเนียบขาว”
ในปี 2550 เจ้าหน้าที่ได้เริ่มแกะรอยจากการไต่สวนคดียักยอกเงินหลวงของอดีตหัวหน้ากองเลขาฯของเทศบาลเมืองโหลวตี นาย เซิน ชิ่งหวา จนสามารถสืบสาวไปถึงการจัดสรรงบประมาณโครงการก่อสร้างอย่างมั่วสนั่นหวั่นไหวของรัฐบาลท้องถิ่นโหลวตี.