เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ - รัฐบาลท้องถิ่นในเมืองชนบทห่างไกลของจีนลุกขึ้นต่อต้านนโยบายปลูกพืชดัดแปลงพันธุกรรม หรือ จีเอ็มโอของรัฐบาลกลาง หวั่นผลกระทบในอนาคต ที่วิทยาศาสตร์ยังตอบไม่ได้
รัฐบาลเมืองจางเย่ มณฑลกานซู่ ประกาศห้ามการปลูกพืช และผลิตภัณฑ์ ตลอดจนเทคโนโลยีจีเอ็มโอ โดยภายใต้กฎระเบียบใหม่ ไม่อนุญาตให้มีการผลิต หรือจำหน่ายเมล็ดพืชจีเอ็มโอทุกชนิด นับตั้งแต่เมล็ดฝ้าย ไปจนถึงมะละกอ ในเมือง ซึ่งมีประชากรอาศัยเกือบ 1 ล้าน 2 แสนคนนี้
คำประกาศดังกล่าวเป็นการขัดขืนอำนาจของรัฐบาลปักกิ่ง ซึ่งสั่งการให้มีการปลูกพืชจีเอ็มโอนับสิบชนิด อันเป็นการท้าทาย ที่นาน ๆ จะเกิดขึ้นสักครั้งบนแดนมังกร
ความต้องการอาหารบริโภค ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของประชากรจีน ทำให้รัฐบาลปักกิ่งต้องหันมาพึ่งเทคโนโลยี่จีเอ็มโอ โดยใช้กระบอกเสียงของรัฐบาล เช่น หนังสือพิมพ์พีเพิ่ลส์เดลี่ และสถานีโทรทัศน์กลางแห่งประเทศจีน หรือซีซีทีวี รณรงค์ส่งเสริมให้ประชาชนเข้าใจและยอมรับเทคโนโลยี่นี้
การประกาศห้ามของเมืองจางเย่สร้างความไม่พอใจแก่นักวิทยาศาสตร์ของจีน ซึ่งระบุว่า เป็นคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย และเกิดจากความโง่เขลาเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์โดยแท้
อย่างไรก็ตาม นายเฉิน เค่อกง เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์ประจำเมืองจางเย่ ออกมาชี้แจง ซึ่งเป็นข่าวหน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์จางเย่เดลี่ว่า อาหารจีเอ็มอาจถูกใช้เป็นอาวุธทางชีวภาพ โดยชาติคู่แข่ง เพื่อพิชิตจีนโดยไม่ต้องต่อสู้เลยก็ได้ ซึ่งเป็นเหตุผลโต้แย้ง ที่ได้รับการสนับสนุนจากสมาชิกสายเหยี่ยวบางคนในพรรคคอมมิวนิสต์มานานแล้ว นอกจากนั้น เมืองจางเย่ยังมีนโยบายรับรองความปลอดภัยด้านอาหาร โดยเขาระบุว่า อาหารจีเอ็มเป็นสายพันธุ์ใหม่ ซึ่งมีความแตกต่างพื้นฐานจากอาหารธรรมชาติ นอกจากนั้น ยังไม่มีใครทราบถึงผลกระทบของพืชจีเอ็มต่อระบบนิเวศ
นายเฉินยังมองว่า วิทยาเป็นเพียงใจความสรุปของความรู้ ซึ่งมนุษย์รู้แล้วเท่านั้น และสิ่งที่มนุษย์ยังไม่รู้ก็อาจนำไปสู่การทำลายล้างได้
มีการเผยแพร่ถ้อยแถลงของนายเฉินเป็นข่าวใหญ่ในเว็บไซต์สำคัญ เช่น Sohu และ Sina แต่ไม่กี่ชั่วโมงก็ถูกลบออกหมด
บรรณาธิการของจางเย่เดลี่ผู้หนึ่งระบุว่า ทางหนังสือพิมพ์จับความรู้สึกไม่พอใจของรัฐบาลปักกิ่งได้ ดังนั้น จะไม่มีการรายงานข่าวเกี่ยวกับการประกาศห้ามของเมืองจางเย่อีกต่อไป
ศาสตราจารย์หวง ต้าฟัง นักพันธุศาสตร์พืชของสถาบันวิทยาศาสตร์การเกษตรของจีนระบุว่า รัฐบาลปักกิ่งไม่เคยให้อำนาจรัฐบาลท้องถิ่นเลือกปฏิบัติเกี่ยวกับพืชจีเอ็มโอได้ตามใจชอบ จึงต้องเชื่อฟังคำสั่งจากรัฐบาลกลาง แต่หากมีข้อเสนอ ก็ควรรายงานให้รัฐบาลกลางทราบ โดยเมืองจางเย่เป็นศูนย์กลางใหญ่ในการผลิตเมล็ดข้าวโพด
ด้านนักวิจัยด้านพันธุศาสตร์ข้าวผู้หนึ่งของสถาบันวิทยาศาสตร์จีนมองว่า การประกาศห้ามของจางสะท้อนถึงการขาดการศึกษาวิชาวิทยาศาสตร์ในหมู่เจ้าหน้าที่รัฐบาลบนแผ่นดินใหญ่
“เลขาธิการพรรคเมืองจางเย่มิใช่เจ้าหน้าที่เพียงคนเดียวที่ถือว่า หลักปรัชญาส่วนตัวของเขามีความสำคัญเหนือกว่าผลงานการค้นคว้า ที่ยากลำบากทางวิทยาศาสตร์” นักวิจัย ซึ่งไม่ประสงค์เอ่ยนามกล่าว
“ ถ้าจีนมีผู้บริหารเหมือนเขา ซึ่งมีความรู้ด้านวิทยาศาสตร์น้อย และไม่เคารพกฎหมาย เห็นทีอนาคตของเราจะแย่”
อย่างไรก็ตาม ในขณะที่รัฐบาลปักกิ่งเองยังคงห้ามการผลิตธัญพืชจีเอ็ม ซึ่งเป็นอาหารหลัก เช่น ข้าวเจ้าและข้าวสาลี จุดยืนของเมืองจางเย่จึงได้รับการชื่นชมจากชาวจีนบนแผ่นดินใหญ่มากมาย ซึ่งมีความสงสัยมานานแล้วเกี่ยวกับอาหารจีเอ็ม และเห็นว่า หากประเทศชาติตกอยู่ในมือของนักวิทยาศาสตร์ ชีวิตของชาวจีนจะตกอยู่ในอันตรายอย่างแท้จริง
จาง จิง ผู้อำนวยการโครงการอาหารและเกษตรกรรมในจีนของกรีนพีซ ชี้ว่า พื้นที่แต่ละแห่งย่อมมีแหล่งทรัพยากร ที่มีมาแต่ดั้งเดิมและมีลักษณะเฉพาะ ซึ่งจำเป็นต้องได้รับการปกป้องจากการบุกรุกของสายพันธุ์พืชจีเอ็ม การตัดสินใจของเมืองจางเย่น่าจะกระตุ้นให้ท้องถิ่นอื่น ที่เป็นแหล่งผลิตอาหาร เช่นมณฑลเฮยหลงเจียง เคลื่อนไหวในแนวทางเดียวกันต่อไป
