เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ - จีน ซึ่งเป็นชาติปล่อยก๊าซคาร์บอนรายใหญ่ที่สุดในโลกเปิดเผยแผนต่อสู้มลพิษในอากาศอย่างครอบคลุมเป็นครั้งแรก โดยให้คำมั่นว่า คุณภาพอากาศในภูมิภาคสำคัญต่าง ๆ ในประเทศจะดีขึ้นอย่างมากภายในปี 2560 หรืออีก 4 ปีข้างหน้า
ตามมาตรการดังกล่าว ซึ่งรัฐบาลปักกิ่งประกาศเมื่อวันพฤหัสฯ (12 ก.ย.) จะรวมถึงการปิดโรงงาน ที่สร้างมลภาวะ การปรับปรุงคุณภาพของเชื้อเพลิง และการลดการพึ่งพาถ่านหิน ที่มากจนเกินไปด้วย
นอกจากนั้น ยังมีการกำหนดให้กรุงปักกิ่ง นครเซี่ยงไฮ้และก่วงโจวต้องลดระดับของฝุ่นละอองขนาดเล็ก ( PM2.5) ซึ่งมีอันตรายต่อสุขภาพของมนุษย์มากที่สุด และเป็นตัวการใหญ่ที่ก่อให้เกิดหมอกควัน (smog) ลงร้อยละ 25 , 20 และ15 ตามลำดับ ตั้งแต่ปี 2556-2560
ในส่วนของกรุงปักกิ่ง ซึ่งเคยถูกหมอกควันหนาทึบปกคลุมอยู่เป็นเวลานานหลายเดือนเมื่อฤดูหนาวปีที่แล้วนั้นยังมีการเจาะจงตั้งเป้าหมายจำกัดฝุ่น PM2.5 ให้อยู่ที่เฉลี่ยปีละราว 60 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตรภายในปี 2560 อย่างไรก็ตาม ยังนับว่าสูงกว่าการกำหนดค่ามาตรฐานแห่งชาติที่ 35 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และจากเกณฑ์ความปลอดภัยที่ 10 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งองค์การอนามัยโลกรับรอง
นอกจากนั้น แผนการดังกล่าว ซึ่งเป็นมาตรการสำคัญในการปรับปรุงโครงสร้างด้านพลังงานและเศรษฐกิจ ยังตั้งเป้าลดการใช้ถ่านหินให้ได้ต่ำกว่าร้อยละ 65 ภายในปี 2560 ซึ่งลดลงจากร้อยละ 66.8 ในปี 2555
สำหรับภูมิภาค ซึ่งเป็นเขตอุตสาหกรรมใหญ่ได้แก่ปักกิ่ง-เทียนจิน-เหอเป่ย เขตสามเหลี่ยมเศรษฐกิจปากแม่น้ำแยงซี และเขตสามเหลี่ยมเศรษฐกิจปากแม่น้ำจูเจียงตามแผนระบุว่า ควรพยายามลดการใช้ถ่านหินด้วยเช่นกัน อีกทั้งจะไม่มีการอนุมัติก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินแห่งใหม่ในภูมิภาคเหล่านี้
ศาสตราจารย์ไฉ ฟาเหอ รองประธานสถาบันวิจัยด้านวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อมของจีน (Chinese Research Academy of Environmental Sciences) ระบุว่า แผนฉบับนี้ ซึ่งมีการประกาศล่าช้ากว่า 3 เดือน จะช่วยเร่งให้การปรับปรุงคุณภาพอากาศรวดเร็วขึ้น โดยที่ไม่กระทบต่อการเติบโตของเศรษฐกิจ
อย่างไรก็ตาม มีเสียงวิจารณ์ว่า แผนการยังขาดการตั้งเป้าในเชิงปริมาณ เช่นการจำกัดปริมาณถ่านหินในพื้นที่สำคัญ
ดร.หยัง ฟู่เฉียง ที่ปรึกษาอาวุโสของสภาการป้องกันแหล่งทรัพยากรแห่งชาติ (Natural Resources Defence Council) ในกรุงปักกิ่ง ชี้ว่า เมืองระดับเทศบาลนคร เช่นกรุงปักกิ่ง และเทียนจิน ควรตั้งเป้าลดปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กให้มากกว่าร้อยละ 25 ขณะที่มณฑลซานตง ซึ่งเป็นมณฑล ที่ใช้ถ่านหินรายใหญ่และถูกปกคลุมด้วยหมอกควันตลอดทั้งปีกลับไม่ถูกกำหนดอยู่ในโครงการลดฝุ่น PM2.5
ขณะที่หลี่ เหยียน ผู้จัดการโครงการรณงค์ด้านภูมิอากาศและพลังงานในเอเชียตะวันออกของกรีนพีซระบุว่า ต้องการเห็นการตั้งเป้าลดการใช้ถ่านหินเชิงปริมาณในภูมิภาคเศรษฐกิจใหญ่ 3 แห่งของจีน ซึ่งดร.หยังเห็นด้วย พร้อมกับเตือนว่า แผนการต่อสู้มลพิษนี้จะถูกต่อต้านจากคณะผู้บริหารปกครองและภาคอุตสาหกรรมในท้องถิ่นอย่างหนักทีเดียว