วิศวกรจีนเผยต้นแบบ “วาฬสีน้ำเงิน” เฮลิคอปเตอร์เร็วที่สุดในโลก

เซาท์ไชน่า มอร์นิ่งโพสต์ - หน่วยงานด้านอากาศยานแดนมังกรเผยข้อมูลโครงการก่อสร้าง “วาฬสีน้ำเงิน” เฮลิคอปเตอร์ที่จะมีความเร็วสูงที่สุดในโลก แซงหน้าแชมป์เก่าอย่างสหรัฐฯ ทว่า ผู้เชี่ยวชาญหลายฝ่ายยังตั้งคำถามถึงความจำเป็น และคุณภาพเฮลิคอปเตอร์รุ่นพื้นฐานของจีนที่ยังคงล้าหลังอยู่

รายงานข่าว (13 ก.ย.) กล่าวว่า ทีมวิศวกรและนักวิทยาศาสตร์ประจำสถาบันวิจัยและพัฒนาเฮลิคอปเตอร์แห่งชาติจีน ได้เปิดเผยโครงการผลิต “วาฬสีน้ำเงิน” (Blue Whale) อันเป็นชื่อของเฮลิคอปเตอร์ประเภท Tilt rotors โดยเป็นอากาศยาน 4 เครื่องยนต์ ซึ่งมีแกนใบพัดที่สามารถปรับเอียงองศาจากแนวนอนเป็นแนวตั้งได้ และมีอัตราความเร็วในการบินมากกว่า 700 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งมากกว่าเครื่องบินโบอิ้ง รุ่นวี 22 ออสเปรย์ (Boeing V-22 Osprey) ของสหรัฐฯ ถึง 40 เปอร์เซ็นต์

อนึ่ง อากาศยานประเภท Tilt rotors นี้ มีลักษณะพิเศษอยู่ที่สามารถบินขึ้นลงทางดิ่งได้เหมือนเฮลิคอปเตอร์ทั่วไป และสามารถบินได้ด้วยความเร็ว ระยะทาง ความสูงเหนือพื้นดินเหมือนเครื่องบินปีกตรึง (Fixed wing)

ทีมนักพัฒนาฯ กล่าวว่า หากเฮลิคอปเตอร์ “วาฬสีน้ำเงิน” นี้ บินด้วยความเร็วปกติที่ 538 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จะสามารถบรรทุกสิ่งของได้ 20 ตัน มีระยะทางบินมากกว่า 3,100 กิโลเมตร โดยที่ไม่ต้องแวะเติมเชื้อเพลิงกลางทาง และยังสามารถบินที่ระดับความสูง 8,600 เมตรเหนือพื้นดินได้อีกด้วย

โดยเฮลิคอปเตอร์ความเร็วสูงของจีนลำนี้ จะมีส่วนแกนใบพัดที่ปรับองศาได้ระหว่างบิน ซึ่งติดอยู่กับส่วนปีกตรึงของลำเครื่อง

ฉิว กวงหลง ผู้อำนวยการสถาบันฯ กล่าวกับโกลบอล ไทมส์เมื่อปีที่แล้วว่า “ทีมนักพัฒนาฯ ต่างมุ่งหวังจะผลิตเฮลิคอปเตอร์ความเร็วสูงนี้ให้ได้ภายใน 5 ปีข้างหน้า”

อย่างไรก็ตาม หลายฝ่ายตั้งคำถามต่อสถาบันฯ ว่าจะสามารถทำได้ตามเป้าหมายตามกรอบระยะเวลาที่กำหนดไว้หรือไม่ เพราะแน่นอนว่าอากาศยานที่มีลักษณะพิเศษเช่นนี้ ย่อมมีปัญหานานัปการรอให้ทำการแก้ไขปรับปรุงอยู่มากมาย

“เจ้าเฮลิคอปเตอร์ประสิทธิภาพสูงนี้จะได้ทะยานสู่ฟากฟ้า ก็ต่อเมื่อปัญหาร้อยแปดประการถูกแก้ไขจนหมดสิ้นแล้ว” ศาสตราจารย์เฉิน หมิง ผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบเฮลิคอปเตอร์แห่งมหาวิทยาลัยเป่ยหังของปักกิ่งกล่าว

“ผมคิดว่ามันไม่มีอะไรแน่นอนในอนาคต”

ทั้งนี้ เฉิน และผู้เชี่ยวชาญด้านเฮลิคอปเตอร์คนอื่นๆ ปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นต่อโครงการดังกล่าว เนื่องจากมันมีความเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีทางการทหารของประเทศ

ขณะที่ในภาคอุตสาหกรรมการผลิตอากาศยานในจีน ก็ตั้งข้อสงสัยเช่นเดียวกันว่า จีนจำเป็นต้องพัฒนาเฮลิคอปเตอร์ความเร็วสูงไหม หากปัจจุบันยังคงประสบปัญหาความไร้ประสิทธิภาพของเฮลิคอปเตอร์รุ่นพื้นฐานในประเทศ

โดยจุดอ่อนของวงการอากาศยานที่บินขึ้นลงแนวดิ่งนี้ ถูกเปิดโปงออกมาระหว่างการเข้าช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวในมณฑลซื่อชวน (เสฉวน) เมื่อปี 2551 กองทัพจีนได้จัดส่งเฮลิคอปเตอร์ “แบล็คฮอกค์” (Black Hawk) ที่นำเข้ามาจากสหรัฐฯ เมื่อช่วงทศวรรษ 80 แสดงถึงความด้อยคุณภาพของเฮลิคอปเตอร์ที่ผลิตเองภายในประเทศ เมื่อต้องเผชิญกับสถานการณ์คับขันขึ้นมา

รัฐบาลจีนจึงได้พยายามจัดสรรงบประมาณจำนวนมหาศาล เพื่อสนับสนุนโครงการผลิตอากาศยานความเร็วสูงดังกล่าว ซึ่งจะมีคุณสมบัติเพียบพร้อม และเพียงพอต่อปฏิบัติการทางทหารในเวลา สถานที่ และโอกาสที่แตกต่างกันไปตามสถานการณ์