จีนสั่งปลดบิ๊กคุมกิจการรัฐวิสาหกิจ ขณะตั้งกรรมการสอบทุจริตล้างบาง

เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ - จีนไม่ไว้หน้า สั่งปลดและสั่งสอบสวนการทุจริตรับสินบนของเจ้าหน้าที่ตำแหน่งระดับรัฐมนตรี ซึ่งเคยคุมบริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่ของประเทศ และเป็นเด็กของอดีตหัวหน้าฝ่ายความมั่นคงแห่งชาติ  ซึ่งอาจพลอยฟ้าพลอยฝนถูกสอบสวนไปด้วย

สำนักข่าวซินหวารายงานวันนี้ว่า จีนได้สั่งปลดนายเจียง เจี๋ยหมิน ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการดูแลและจัดการทรัพย์สินของรัฐ ( State-owned Assets Supervision and Administration Commission - Sasac) หลังจากเพิ่งมีรายข่าวเมื่อวันอาทิตย์ ( 1 ก.ย.) ว่า เขาถูกคณะกรรมการกลางฝ่ายการตรวจสอบวินัย ( CCDI) ของจีนสั่งสอบสวนฐานต้องสงสัยว่า กระทำการละเมิดวินัยของพรรคคอมมิวนิสต์อย่างร้ายแรง ซึ่งเป็นการเลี่ยงใช้คำ ที่สุภาพ แทนคำว่า การรับสินบน

การสอบสวนครั้งนี้นับเป็นครั้งแรก ที่มีการสอบสวนเจ้าหน้าที่ ซึ่งกินตำแหน่งระดับเดียวกับรัฐมนตรี และยังเป็นสมาชิกในคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน ซึ่งมีจำนวน 205 คน หลังจากจีนมีการถ่ายโอนอำนาจการปกครองไปสู่ผู้นำรุ่นใหม่ ซึ่งเริ่มมาตั้งแต่เมื่อเดือนพ.ย. ปีที่แล้ว และส่อเค้าว่า จะมีการขยายการสอบสวนการทุจริตคอร์รัปชั่นในรัฐวิสาหกิจน้ำมันของจีนทั้งหมด ซึ่งเป็นฐานอำนาจสำคัญของนายโจว หย่งคัง อดีตผู้นำระดับอาวุโสภายในพรรค

นายเจียงได้รับแต่งตั้งเป็นผู้อำนวยการSasac ซึ่งกำกับดูแลรัฐวิสาหกิจขนาดใหญ่ที่สุด 100 แห่งของจีนเมื่อเดือนมี.ค. ที่ผ่านมา และเคยดำรงตำแหน่งประธานบริษัทปิโตรเลี่ยมแห่งชาติของจีน (CNPC) ซึ่งเป็นบริษัทน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของประเทศ ส่วนนายโจวเคยเป็นผู้บริหารของCNPC มายาวนาน จากนั้น ได้ไปคุมงานด้านความมั่นคงของประเทศ  และได้เป็นกรรมการประจำของกรมการเมืองพรรคคอมมิวนิสต์จีน ( Politburo Standing Committee)

นายเจียง วัย 58 ปีเป็นที่รู้กันดีว่า เขาเป็นเด็กภายใต้ปีกอุปถัมภ์ค้ำชูของนายโจว การสอบสวนครั้งนี้ยังอาจทำให้ได้หลักฐานเพิ่มเติม ซึ่งอาจไม่เป็นผลดีต่อนายโจว ที่ปลดเกษียณไปเมื่อเดือนพ.ย. ปีที่แล้ว โดยหนังสือพิมพ์เซาท์ ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์รายงานเมื่อวันศุกร์ ( 30 ส.ค.) ว่า บรรดาผู้นำในพรรคคอมมิวนิสต์ ซึ่งมีประธานาธิบดี สี จิ้นผิง เป็นเลขาธิการใหญ่ ได้อนุมัติให้มีการสอบสวนการคอร์รัปชั่นของนายโจวในสมัยที่เขาดำรงตำแหน่งผู้จัดการทั่วไปของCNPC และสมัยดำรงตำแหน่งเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์สาขามณฑลเสฉวน รวมระยะเวลาตั้งแต่ปี 2531-2545

นายเจียงกลายเป็นดาวรุ่งพุ่งแรงใน CNPC ในช่วงเวลานั้น จนได้เป็นรองประธานบริษัทสาขาของ CNPC ในปี 2542 ก่อนจะออกไปรับตำแหน่งรองผู้ว่าการมณฑลชิงไห่ และกลับมาผงาดเป็นรองผู้จัดการCNPC ในปี 2554

การสั่งสอบสวนนายเจียงเกิดขึ้นไม่กี่วัน หลังจากมีการประกาศสั่งสอบสวนการทุจริตเจ้าหน้าที่ระดับสูงของCNPC 4 คน ซึ่งคนหนึ่งคือนายหวัง หย่งชุน รองผู้จัดการทั่วไป และเคยเป็นผู้ช่วยของนายเจียง โดยนายหวังคุมงานด้านทรัพยากรบุคคล และได้รับการเลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่งอย่างรวดเร็ว

นักวิเคราะห์บางคนมองการสั่งสอบสวนเหล่านี้ว่า เป็นการเคลื่อนไหวของประธานาธิบดีสี และนายกรัฐมนตรีหลี่ เค่อเฉียง เพื่อลดอิทธิพลการผูกขาดของรัฐวิสาหกิจในอุตสาหกรรมเชิงยุทธศาสตร์ของประเทศ โดยนายกรัฐมนตรีหลี่ต้องการสร้างการแข่งขันในอุตสาหกรรมเหล่านี้ แต่ถูกต่อต้านจากรัฐวิสาหกิจ ที่ทรงอิทธิพล

แหล่งข่าวของคณะกรรมการกลางฝ่ายการตรวจสอบวินัยระบุว่า การสอบสวนนายเจียงจะมุ่งสอบพฤติกรรมเมื่อครั้งที่เขาดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการเซิ่งลี ออยล์ฟิลด์ ในมณฑลซานตงเมื่อราว 20 ปีก่อน

ทั้งนี้ นายเจียงได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการ Sasac ทั้งที่กำลังเกิดข้อกังขาว่า CNPC พยายามช่วยปกปิดข่าวอุบัติเหตุรถเฟอร์รารี่ชนในกรุงปักกิ่งเมื่อปีที่แล้ว โดยจากรายงานข่าวของสื่อมวลชนเมื่อเดือนพ.ย. ปีที่แล้ว ระบุว่า มีการโอนเงินหลายสิบล้านหยวนจากCNPC ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของนายเจียง ให้แก่ครอบครัวของหญิงสาว 2 คน ที่ได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ ซึ่งคร่าชีวิตบุตรชายคนเดียวของนายหลิง จี้ฮว่า ซึ่งเป็นหัวหน้าคณะทำงานของประธานาธิบดีหู จิ่นเทา ผู้นำจีนในเวลานั้น