เอเยนซี - จีนจะผลักดันการลดกำลังการผลิตส่วนเกินในภาคอุตสาหกรรมเร็วขึ้น 1 ปี จากที่ได้มีการวางแผนไว้ให้เสร็จสิ้นในปี 2558 แม้ว่าของเศรษฐกิจจะยังอยู่ในภาวะชะลอตัวก็ตาม
สถานีวิทยุแห่งชาติจีนรายงาน (14 ส.ค.) อ้างคำกล่าวของ รัฐมนตรีกระทรวงอุตสาหกรรม เมียว เว่ย ว่า จีนจะผลักดันการลดกำลังการผลิตส่วนเกินในภาคอุตสาหกรรมให้เสร็จสมบูรณ์ภายในปีหน้า 2557 เร็วขึ้น 1 ปี จากแผนเดิมที่กำหนดไว้ถึงปี 2558 แม้ว่า การขยายตัวของเศรษฐกิจจะยังชะลอตัวอยู่ก็ตาม โดยคำกล่าวนี้ นับเป็นการยืนยันทิศทางของรัฐบาลจีน หลังจากก่อนหน้านี้ มีคำสั่งให้ลดการผลิตหรือถึงขั้นปิดโรงงาน บริษัทต่างๆ ที่มีสายการผลิตล้นเกิน หรือล้าสมัย เพื่อป้องกันปัญหาการตัดราคาและมุ่งเน้นปรับโครงสร้างเศรษฐกิจใหม่ เพื่อให้เติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว ขณะเดียวกันก็เร่งส่งเสริมภาคอุตสาหกรรมที่มีความแข็งแกร่งและจะเป็นจุดแข็งของเศรษฐกิจจีนในภายหน้า อาทิ การบริโภคภายใน และภาคธุรกิจสารสนเทศ กับธุรกิจบริการ เพื่อทำให้การขยายตัวเป็นไปอย่างมีเสถียรภาพ
รายงานข่าวกล่าวว่า ก่อนหน้านี้ นายกรัฐมนตรี หลี เค่อเฉียง หลีกเลี่ยงที่จะใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเน้นแก้ไขและกระตุ้นเฉพาะจุดมากกว่า อาทิ โครงการสนับสนุนกิจการขนาดย่อม ด้วยการยกเลิกภาษีมูลค่าเพิ่ม ลดค่าธรรมเนียมผู้ส่งออก ตามที่สภาแห่งชาติจีนได้ประกาศเมื่อค่ำวันที่ 24 ก.ค. ทีผ่านมา นับเป็นการเปลี่ยนแปลงด้านการบริหารจัดการเศรษฐกิจของรัฐบาลจีนครั้งล่าสุด และสะท้อนความกังวลต่อแนวโน้มเศรษฐกิจ
ทั้งนี้ บรรดาผู้เชี่ยวชาญฯ แสดงความเห็นว่า แม้ว่าการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบนี้ จะจำกัดขนาด แต่นับเป็นการยืดหยุ่นต่อสถานการณ์ล่อแหลมสุ่มเสี่ยงต่อเศรษฐกิจจีน และมีความแตกต่างจากมาตรการกระตุ้นใหญ่เพื่อหลีกเลี่ยงวิกฤตการเงินโลกเมื่อปี 2551 โดยครั้งนี้ จะเน้นการปฏิรูปเพื่อลดการแทรกแซงของรัฐบาล และเปิดพื้นที่ให้บริษัทต่างๆ มีอิสระในการดำเนินการมากขึ้น เป็นการกระตุ้นในเชิงอุปทาน ซึ่งมีประสิทธิภาพมากกว่า นอกจากนี้ มาตรการนี้ยังนับว่าจะส่งผลโดยตรงในขอบเขตที่ชัดเจนกว่า และยังมีผลในทางเพิ่มความเชื่อมั่นด้วย
ขณะที่ความกังวลที่สุดเกี่ยวกับภาวะตกงานของประชาชนนั้น สภาแห่งชาติจีน ยังไม่วิตกแต่อย่างใด ด้วยข้อมูลจากกระทรวงฯ พบว่า ในปีนี้ รัฐบาลได้ตั้งเป้าสร้างงานใหม่ อย่างน้อย 9 ล้านตำแหน่ง และกำหนดอัตราว่างงานรายปีให้อยู่ในระดับต่ำกว่าร้อยละ 4.6 ขณะที่ในช่วง 6 เดือนแรก มีการจ้างงานเพิ่มขึ้นแล้วที่ 7.25 ล้านตำแหน่ง อัตราว่างงานในเมือง อยู่ที่ร้อยละ 4.1
รายงานข่าวระบุว่า สภาแห่งชาติจีน ยังเตรียมจะเปิดแผนรุกเกี่ยวกับภาคธุรกิจสารสนเทศ และบริการ เพื่อเป็นภาคขับเคลื่อนใหม่ของเศรษฐกิจจีน โดยก้าวขึ้นมาทดแทนแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจเดิม จากภาคอุตสาหกรรมรถยนต์ และอสังหาริมทรัพย์ ที่จะลดความร้อนแรงลงไปด้วยหวั่นภาวะฟองสบู่ โดยคาดว่ามูลค่าการบริโภครวมของภาคสารสนเทศจะขยายเพิ่มราวร้อยละ 20 หรือที่ 3.2 ล้านล้านหยวน ภายในปี 2558