เอเยนซี - ธนาคารกลางจีน อัดฉีดเงิน 17,000 ล้านหยวน เข้าระบบตลาดการเงินในประเทศ แก้ซ้ำรอยสภาพสินเชื่อตึงตัว
สื่อจีนรายงาน (30 ก.ค.) อ้างคำแถลงของธนาคารประชาชนจีน (The People’s Bank of China : PBOC) หรือ ธนาคารกลางจีน ในวันเดียวกันว่า ได้อัดฉีดเงิน 17,000 ล้านหยวน เข้าระบบตลาดการเงินในประเทศ ผ่านการทำข้อตกลงซื้อคืนพันธบัตร เพื่อบรรเทาความวิตกหวั่นเกิดสภาพสินเชื่อตึงตัว ที่เกิดขึ้นเมื่อเดือนที่แล้ว และเป็นการปฏิบัติการในตลาดเปิด เป็นครั้งแรกตั้งแต่เดือน ก.พ.
รายงานข่าวกล่าวว่า หลังจากธนาคารกลางแก้ปัญหาสินเชื่อที่เสี่ยง และปล่อยให้เกิดภาวะสินเชื่อตึงตัวเมื่อปลายเดือนมิ.ย. ที่ผ่านมา ทำให้ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ดอกเบี้ยเงินกู้ระยะสั้นในจีนสูงขึ้นต่อเนื่อง และบรรดานักลงทุนต่างจับตาตลาดเงินระหว่างธนาคารของจีน โดยผู้เชี่ยวชาญฯ คาดว่าหากภาคการเงินจีนไม่มีสัญญาณของการควบคุมการปล่อยกู้แบบเสี่ยง ธนาคารกลางจีนอาจจะปล่อยให้เกิดภาวะสินเชื่อตึงตัวอีกครั้งช่วงปลายเดือน
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 28 มิ.ย.ที่ผ่านมา ที่ประชุมธนาคารกลางได้มีมติว่า จะไม่แก้ปัญหาสถานการณ์ขาดเงินสดในตลาดด้วยการอัดฉีดเงินสดเข้าตลาด ซึ่งเป็นการแก้ไขเฉพาะการณ์ แต่จะตั้งเป้าปรับโครงสร้างการเงินเพื่อจัดการที่ต้นเหตุของปัญหาการเงินต่างๆ แทน และจะใช้เพียงนโยบายติดตามเงินทุนที่หมุนเวียนระหว่างประเทศอย่างใกล้ชิด ดำเนินนโยบายการเงินอย่างรอบคอบต่อไป และอาจจะปรับปัญหาเฉพาะเป็นกรณีๆ ไป เพราะพิจารณาว่าในภาพรวมนั้น เศรษฐกิจและการเงินจีนยังคงสามารถดำเนินไปอย่างมีเสถียรภาพ รวมทั้งราคาสินค้าก็ไม่ผันผวนมากนัก สถานการณ์เศรษฐกิจโลกก็ไม่เลวร้ายวิกฤติ แม้จะยังมีปัญหายุ่งยากและท้าทายไม่น้อย
อย่างไรก็ตาม รายงานข่าวกล่าวว่า จากคำแถลงล่าสุดเกี่ยวกับการอัดฉีดเงิน 17,000 ล้านหยวน ผ่านการทำข้อตกลงซื้อคืนพันธบัตร ซึ่งนับเป็นครั้งแรกตั้งแต่วันที่ 20 มิ.ย.ที่ธนาคารกลางปฏิบัติการในตลาดเปิด บรรดาผู้เชี่ยวชาญฯ คาดว่าจะทำให้สภาพการณ์ที่หลายฝ่ายวิตกฯ ดังกล่าวเปลี่ยนไป พร้อมกับแสดงความคิดเห็นว่า ปริมาณเงินที่อัดฉีดเข้าระบบตลาดการเงินในประเทศครั้งนี้มีไม่มากนัก และอัตราดอกเบี้ยก็กำหนดไว้ค่อนข้างสูง นับเป็นอีกวิธีที่สามารถคุมได้ทั้งสภาพคล่องในตลาดให้มีมากเพียงพอ ขณะที่ก็ระมัดระวังความเสี่ยงหนี้ฯ จากการกู้ยืมเงิน ด้วยอัตราดอกเบี้ยที่สูงพอประมาณ