ธ. กลางจีน ย้ำรัดกุมฯ ไม่อัดเงินแก้ปัญหาขาดเงินสดหมุนเวียน

เอเยนซี - ธนาคารประชาชนจีน ได้มติย้ำดำเนินนโยบายการเงินอย่างรอบคอบ ไม่อัดฉีดเงินสดเข้าตลาด ด้านผู้เชี่ยวชาญ ระบุในภาพรวมตลาดการเงินจีนไม่ได้ขาดเงินสดหมุนเวียน

สื่อจีนรายงาน (24 มิ.ย.) อ้างคำแถลงของ ธนาคารประชาชนจีนว่า ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน ของธนาคารกลางจีน ได้มีมติดำเนินนโยบายการเงินอย่างรอบคอบต่อไป ซึ่งหมายความว่า รัฐบาลจีน จะไม่แก้ปัญหาสถานการณ์ขาดเงินสดในตลาดด้วยการอัดฉีดเงินสดเข้าตลาด ซึ่งเป็นการแก้ไขเฉพาะการณ์ แต่จะตั้งเป้าปรับโครงสร้างการเงินเพื่อจัดการที่ต้นเหตุของปัญหาการเงินต่างๆ แทน

รายงานข่าวกล่าวว่า ที่ประชุมได้มีมติว่า ในภาพรวมนั้นเศรษฐกิจและการเงินจีนยังคงสามารถดำเนินไปอย่างมีเสถียรภาพ รวมทั้งราคาสินค้าก็ไม่ผันผวนมากนัก สถานการณ์เศรษฐกิจโลกก็ไม่เลวร้ายวิกฤติ แม้จะยังมีปัญหายุ่งยากและท้าทายไม่น้อย ดังนั้นจึงจะใช้นโยบายติดตามเงินทุนที่หมุนเวียนระหว่างประเทศอย่างใกล้ชิด และดำเนินนโยบายการเงินอย่างรอบคอบต่อไป โดยอาจจะปรับปัญหาเฉพาะเป็นกรณีๆ ไป

ทั้งนี้ รัฐบาลจีนจะปรับโครงสร้างการเงิน เพื่อแก้ปัญหาเงินสดหมุนเวียนไม่เพียงพอ โดยตั้งแต่เดือนมิถุนายนนี้ จะปรับอัตราดอกเบี้ยระหว่างธนาคารสูงขึ้น หลังบรรดาธนาคารในจีน ต่างเผชิญกับสถานการณ์ขาดแคลนเงินสดสำรอง อัตราดอกเบี้ยระหว่างธนาคารในจีนพุ่งสูงจากระดับร้อยละ 4.5ไปอยู่ที่ร้อยละ 30 ก่อนจะลดลงมาที่ร้อยละ 13.4 เป็นเหตุให้ธนาคารพาณิชย์ต่างๆ ต้องเร่งดึงเงินออมจากลูกค้าเข้ามา

ยูไนเต็ด แบงก์ สวิตเซอร์แลนด์ ระบุว่า สถานการณ์ขาดเงินสดในตลาดเกิดจากหลายปัจจัย รวมถึงเงินต่างชาติที่ไหลเข้าประเทศจีนลดน้อยลงในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา อีกทั้งความพยายามรักษาสัดส่วนเงินฝากกับเงินกู้ให้สมดุล กับยอดมูลค่าสินเชื่อของธนาคารที่ขยายตัวอย่างรวดเร็วเมื่อต้นเดือนมิถุนายนนี้ เช่นเดียวกับ การถอนเงินของลูกค้าซึ่งเป็นส่วนที่ธนาคารเคยนำไปบริหารเพื่อเก็งกำไรจำนวนหนึ่ง ก็เป็นสาเหตุสำคัญด้วย ทำให้ในทางกลับกัน เมื่อปลายเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ยอดเงินสำรองของทั่วประเทศของธนาคารจีนได้เพิ่มขึ้นร้อยละ 15.8 เทียบรายปี จาก 100 ล้านล้านหยวน เป็น 104.21 ล้านล้านหยวน สูงกว่าเป้าหมายที่กำหนดไว้เมื่อต้นปี 2013 (ร้อยละ 13) ซึ่งทำให้ยูไนเต็ด แบงก์ สวิตเซอร์แลนด์ สรุปได้เช่นกันว่า ในภาพรวมนั้นตลาดการเงินจีนไม่ได้ขาดเงินสดหมุนเวียน