เอเจนซีส์ - ค่าเงิน “Bitcoin” ที่ใช้ในโลกดิจิตอลได้ตกลง 300 ดอลลาร์ และร่วงลงอย่างต่อเนื่องหลังจากรัฐบาลจีนประกาศปฏิเสธสกุลเงินโลกดิจิตอลนี้ โดยอัตราแลกเปลี่ยนคร่าวๆ อยู่ที่ 751.9 ดอลลาร์ เท่ากับ 1 “Bitcoin”
ธนาคารกลางรัฐบาลจีน ธนาคารประชาชนจีน และกระทรวงต่างๆ อีก 5 กระทรวงของจีนได้ประกาศไม่ยอมรับ “Bitcoin” สกุลเงินโลกดิจิตอลที่กำลังโด่งดังอยู่ในขณะนี้เป็นเงินที่แท้จริงเหตุเพราะ “ “Bitcoin” นั้นไม่มีสถานะถูกต้องกฎหมายและขาดสามารถในการแลกเปลี่ยนเงินตราสกุลเงินชาติอื่นๆ” และจีนยังได้เตือนธนาคารท้องถิ่นและธุรกิจของจีนไม่ให้ใช้ “Bitcoin”
การประกาศของรัฐบาลจีนครั้งนี้ส่งผลให้ค่าสกุลเงินโลกดิจิตอลตกลงทันทีใน MT.GOX ที่มีอัตราการแลกเปลี่ยนสูงสุดอยู่ที่ 1,216 ดออลาร์ ตกลงเหลือ 870 ดอลลาร์
อย่างไรก็ตาม มูลค่าของเงิน “Bitcoin” นั้นได้เด้งกลับมาอยู่ที่ 1,045 ดอลลาร์ ในช่วงสั้นๆ ก่อนที่จะตกลงไปอีกครั้งที่มีมูลค่าน้อยกว่า 660 ดอลลาร์ในคืนวันเสาร์ (7) โดยอัตราแลกเปลี่ยนคร่าวๆอยู่ที่ 751.9 ดอลลาร์ เท่ากับ 1 “Bitcoin”
นอกจากจีนแล้ว ธนาคารกลางฝรั่งเศสยังได้กล่าวถึงสกุลเงินดิจิตอลนี้ว่า “ไม่มีความแน่นอนและมีความเสี่ยงสูงในการลงทุน”
“ระบบมันจะล่มเมื่อไรก็ได้ เมื่อนักลงทุนต้องการเงินแต่กลับพบว่าพวกเขาไม่สามารถนำเงินโลกดิจิตอลที่มีอยู่ในพอร์ตการลงทุนให้กลายเป็นเงินจริงได้” ธนาคารกลางฝรั่งเศสกล่าว
แต่อย่างไรก็ตาม “Bitcoin” กลับยังได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐฯ ซึ่งทางธนาคารแห่งอเมริกา เมอร์ริล ลินซ์ ได้คาดการณ์ถึงอนาคตที่สดใสของสกุลเงินเสมือนจริงนี้
“เราเชื่อว่า “Bitcoin” นี้สามารถกลายเป็นสิ่งที่ใช้ในการจ่ายเงินสำหรับอีคอมเมิร์ซได้ และนอกจากนี้ยังมีศักยภาพมากพอที่ที่จะกลายเป็นคู่แข่งกับการแลกเปลี่ยนเงินตราแบบปกติได้” รายงานจากแถลงการณ์ของ เมอร์ริล ลินซ์ในวันศุกร์(6) “และในฐานะที่สามารถใช้ในการชำระได้ “Bitcoin” ถือว่ามีศักยภาพในการเติบโตในสายตาของ เมอร์ริล ลินซ์”
ในต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา สหรัฐฯ ได้เห็นผู้ซื้อใหญ่รายหนึ่งจากรัฐฟลอริดาได้ใช้ “Bitcoin” ในการซื้อรถสปอร์ตหรู Telsa รุ่น S มูลค่า 103,000 ดอลลาร์ หรือราว 91.4 Bitcoin
ด้านมิทธิลี ราแมน หัวหน้าแผนกอาชญากรรมแห่งกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ กลับแสดงความกังวลถึงเงินโลกอินเตอร์เนตนี้ต่อคณะกรรมาธิการสภาสูงสหรัฐฯ ว่า “Bitcoin” นี้ได้ถูกใช้ในองค์กรอาชญากรรม “เราได้เห็นความนิยมในการใช้สกุลเงินเสมือนจริงนี้โดยพ่อค้ายาเสพติด อาชญากรสื่อลามกเด็ก และนักต้มตุ๋นรายใหญ่”
นอกจากนี้ เบน เบอร์นันกี ประธานธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา ได้ส่งจดหมายไปถึงคณะกรรมาธิการกระทรวงมหาดไทยและกิจการรัฐบาลของสภาสูงอเมริกาว่า ค่าเงิน “Bitcoin” สามารถใช้ในการฟอกเงินได้ ซึ่งจีนก็ได้แสดงความกังวลในเรื่องนี้ แต่อย่างไรก็ตาม เบอร์นันเกกล่าวว่า สกุลเงินนี้อาจจะใช้ได้อีกในหลายด้านในระยะยาว
และที่ผ่านมาพบว่า มหาวิทยาลัย University Of Nicosia ในไซปรัส ได้กลายเป็นมหาวิทยาลัยแห่งแรกของโลกที่ประกาศยอมรับการชำระเงินค่าเล่าเรียนในรูปสกุลเงิน “Bitcoin” โดยนักศึกษาสามารถชำระได้โดยตรงทางออนไลน์ที่การเงินของทางมหาวิทยาลัย นอกจากนี้ทางมหาวิทยาลัยยังได้เปิดสาขาใหม่ในระดับปริญญาโทด้าน สกุลเงินโลกดิจิตอล ในปีหน้าอีกด้วย
“การเริ่มให้นักศึกษาสามารถชำระค่าลงทะเบียนได้ด้วย “Bitcoin” นี้เป็นการลดความยุ่งยากให้กับนักศึกษาบางรายและยังเป็นการสร้างฐานความรู้ให้กับทางมหาวิทยาลัยในเรื่องนี้ แต่ไม่เกี่ยวข้องกับการคาดการณ์ความเคลื่อนไหวการแลกเปลี่ยนค่าเงินแต่อย่างใด” โฆษกของมหาวิทยาลัยเผยกับสื่อ GeekWire
จากรายงานพบว่า สกุลเงิน Bitcoin นี้ถูกสร้างโดยบุคคลนิรนามที่ใช้นามแฝง “ซาโตชิ นักโมโตะ” ในปี 2008 ซึ่งสามารถใช้เงินนี้เป็นการแลกเปลี่ยนการบริการหรือสิ่งของในโลกออนไลน์
ในขณะที่ยังไม่มีธนาคารกลางชาติใดออก Bitcoin ออกมาอย่างเป็นทางการ สกุลเงินโลกอินเตอร์เนตนี้สามารถถูกสร้างทางอินเตอร์เนตโดยใช้คอมพิวเตอร์สร้างที่เรียกกระบวนการนี้ว่า “mining”
คาดกันว่ามีเงิน Bitcoin มูลค่าราว 12 ล้าน Bitcoin นั้นหมุนเวียนอยู่ ซึ่งมีการจำกัดมูลค่าสูงสุดที่ 21 ล้าน Bitcoin ซึ่งหมายความว่าจะไม่สามารถผลิตได้ไปมากกว่าจำนวนนี้