เอเยนซี - กงสุลไทย เข้าช่วยผู้หญิงชาวไทย วัย 27 ปี 2 คน ซึ่งหลบหนีไปซ่อนตัวอยู่ในสนามบินเชกแลปก็อก ฮ่องกง หลังพบว่าถูกหลอกให้เดินทางมาค้าบริการทางเพศ แทนที่จะเป็นการนวดแผนไทย
เซาท์ไชน่ามอร์นิงโพสต์ สื่อฮ่องกง รายงาน (14 ก.ค.) ว่า พบผู้หญิงชาวไทยสองคน ถูกล่อลวงไปฮ่องกงด้วยคำมั่นสัญญา ว่าจะมีงานดีเงินดี แต่ถูกบังคับให้ทำงานในซ่องโสเภณี โดยทั้งสองได้หลบหนีออกมาและเข้าไปซ่อนตัวอยู่ที่สนามบินฯ ขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่สถานกงสุลไทยในฮ่องกง ผ่านทางมูลนิธิปวีณาฯ
รายงานข่าวกล่าวว่า หญิงชาวไทย 2 คนดังกล่าววัย 27 ปี ถูกหลอกลวงให้มาทำงานที่ฮ่องกง จากผูหญิงชาวไทยอีกคนหนึ่ง วัยราว 38 ปี โดยเสนองานนวดแผนไทยฯ ให้หญิงทั้งสอง มาทำที่ฮ่องกง โดยมีค่าจ้างเดือนละ 22,500 ดอลลาร์ฮ่องกง (ราว 92,250 บาท) ซึ่งเป็นรายได้ที่สูงมากเมื่อเทียบกับงานนี้ในประเทศไทย จนทำให้ นางสาวอิศราและรัตนา (ชื่อสมมติ) ยอมรับข้อเสนอและเดินทางมาฮ่องกงในวันที่ 4 ก.ค. ที่ผ่านมา
หญิงทั้งสองถูกพาไปยังสถานที่ซึ่งระบุว่าเป็น "สถานอาบอบนวด" ใน เยา หม่า ไถ่ และเมื่อพบว่าถูกบังคับให้ทำงานซึ่งผิดจากที่ตกลงไว้ จึงพยายามที่จะขอลาออก แต่ถูกขู่ว่าจะริบหนังสือเดินทาง ที่ระบุวีซาเป็นเพียงนักท่องเที่ยวไว้ฯ พร้อมทั้งแจ้งความว่าทั้งสองลักลอบเข้ามาทำงาน
อิศรา และ รัตนา ถูกขู่ว่าไม่สามารถออกไปไหนได้ จนกว่าทั้งสองจะชดใช้ค่าตั๋วเครื่องบินฯ และค่าใช้จ่ายอื่นๆ หรือ ไม่ก็ต้องชดใช้ด้วยการทำงานมีเพศสัมพันธ์ กับลูกค้า จนทั้งสองจำยอมทำงานตั้งแต่ 07.00-02.00 น. ของอีกวัน ได้เงินตอบแทนราว 240 บาท ต่อการบริการ 1 คน อันคำนวณประมาณเท่ากับว่าต้องรับลูกค้าราว 200 คนจึงจะเป็นอิสระ
สองวันต่อมา (6 ก.ค.) ทั้งคู่ก็พยายามหนีสำเร็จ แต่ไม่มีเงินหรือบัตรประชาชน จึงได้เข้าไปซ่อนตัวอยู่ที่สนามบินเชกแลปก็อก เป็นเวลาสามวัน ด้วยความหวังเพียงน้อยนิดที่จะกลับบ้าน จนกระทั่งได้ติดต่อขอความช่วยเหลือจาก มูลนิธิปวีณา ในกรุงเทพมหานคร ประเทศไทย ซึ่งเป็นองค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไร ที่สามารถประสานกับอธิบดีกรมการกงสุล กระทรวงต่างประเทศไทย เพื่อขอความช่วยเหลือจากกงสุลไทยในฮ่องกง
รายงานข่าวกล่าวว่า กงสุลไทยประจำฮ่องกง ได้เดินทางไปรับตัวหญิงทั้งสองในสนามบินฯ เมื่อค่ำวันที่ 9 ก.ค.ที่ผ่านมา
ฟีบี้ แลม นักสังคมสงเคราะห์ชาวฮ่องกง จาก คาริตัส ซึ่งติดตามกรณีของเหยื่อการค้ามนุษย์ กล่าวว่า ที่ผ่านมา หญิงไทยส่วนใหญ่ซึ่งได้รับการช่วยเหลือจากสถานการณ์เช่นนี้ จะเข้าขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจก่อน แต่กรณีล่าสุดเป็นการติดต่อผ่านหน่วยงานในไทย จากนั้นจึงประสานกับกงสุลไทย แต่อย่างไรก็ตาม ทั้งสองคน ยังคงจะได้รับความคุ้มครองจากเจ้าหน้าที่ตำรวจไทยต่อไป อีกทั้งประสานการสืบสวนปราบปรามการค้ามนุษย์ข้ามชาติ ซึ่งครั้งนี้ มีนายหน้าเป็นคนไทยด้วย
เมื่อเร็วๆ นี้ รัฐบาลสหรัฐฯ ได้ออกรายงานระบุว่า ฮ่องกงนับเป็นปลายทางหนึ่งของการค้ามนุษย์ และเรียกร้องให้รัฐบาลฮ่องกง บังคับใช้กฎหมายต่อต้านการค้ามนุษย์ อย่างจริงจัง