ศาลอาญาอนุมัติหมายจับสามผู้ต้องหาแก๊งลวงสาว 17 ค้ากามที่เกาหลีแล้ว 1 ใน 3 ติดต่อขอมอบตัวแล้วแต่อ้างยังอยู่ต่างประเทศ
วันนี้ (22 พ.ค.) ที่ กองบังคับการปรามปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ (บก.ปคม.) เมื่อเวลา 13.00 น.พล.ต.ต.ชวลิต แสวงพืชน์ ผบก.ปคม.กล่าวถึงความคืบหน้าการดำเนินคดีกลุ่มค้ามนุษย์ที่บังคับ น.ส.เอ (นามสมมติ) ขายบริการทางเพศในกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ ว่า ขณะนี้ทาง พ.ต.ท.ชูศักดิ์ อภัยภักดิ์ พนักงานสอบสวนชำนาญการพิเศษ กก.1 บก.ป.ได้เดินทางไปศาลอาญารัชดาฯ เพื่อขออนุมัติหมายจับ นางเพียงใจ พันธุ์ปลาโด ชายชาวเกาหลี และหญิงไทย ที่นำตัว น.ส.เอ ขึ้นเครื่องไปกรุงโซล
ต่อมาเมื่อเวลา 16.00 น.วันเดียวกัน ศาลได้อนุมัติหมายจับผู้ต้องหา 3 ราย ประกอบด้วย นางเพียงใจ คิม หรือ พันธุ์ปลาโด อายุ 37 ปี ซึ่งเป็นอาแท้ๆ ของ น.ส.เอ นายชุน ซอง กึม หรือ เอ็ม อายุ 36 ปี ชาวเกาหลีใต้ และ น.ส.ทิพย์วรรณ เต็มเปา อายุ 26 ปี ตามหมายจับศาลอาญา ที่ 896-898/2556 ลงวันที่ 22 พฤษภาคม 2556 ตามลำดับ ในข้อหาร่วมกันค้ามนุษย์โดยแสวงหาผลประโยชน์จากการค้าประเวณีเด็ก
พล.ต.ต.ชวลิต แสวงพืชน์ ผบก.ปคม.กล่าวว่า หลังจากนี้ทางชุดสืบสวนจะเร่งติดตามจับกุมผู้ต้องหาทั้งหมด โดยเบื้องต้นทราบว่า นางเพียงใจ ได้ติดต่อกับพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ปคม.แล้วว่าจะเข้ามอบตัวเพื่อต่อสู้คดี โดยขณะนี้ยังอยู่ในต่างประเทศ หากเดินทางกลับมาเมื่อใดก็จะประสานกับเจ้าหน้าที่อีกครั้ง เพื่อรับตัวที่สนามบินสุวรรณภูมิ
ผบก.ปคม.กล่าวต่อว่า ส่วนชาวเกาหลีที่ทำหน้าที่ดูแลร้าน เก็บเงินค่าบริการทางเพศจากแขก และมาเฟียที่ควบคุม น.ส.เอ นั้น ทางเราจะประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจเกาหลีใต้ว่าสามารถดำเนินการอย่างไรได้บ้าง ซึ่งต้องดูข้อกฎหมายการค้ามนุษย์ของประเทศเขาก่อน
พล.ต.ต.ชวลิต กล่าวด้วยว่า จากการสอบปากคำเหยื่อทราบว่า วันแรกที่ไปถึงก็ถูกยึดหนังสือเดินทาง และกลุ่มมาเฟียอ้างว่าเธอต้องจ่ายหนี้ค่าตั๋วเครื่องบิน ค่าดำเนินการหนังสือเดินทาง ค่าอาหารและที่พักรวมแล้ว 5 หมื่นบาท จากนั้นก็พาเธอไปบังคับให้ค้าประเวณีกับแขกในวันนั้นทันที โดยเธอต้องรับแขก 2 ราย โดยคิดค่าบริการครั้งละ 6 หมื่น - 1 แสนวอน หรือประมาณ 2-3 พันบาท โดยเธอได้ค่าส่วนแบ่งเพียง 5 พันวอน หรือประมาณ 130 บาท เท่านั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อวานช่วงบ่ายวันที่ 21 พ.ค.ที่ผ่านมา น.ส.เอ ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กของตนเองว่า “อยากขอโทษอา รักอา สงสารอา ไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องใหญ่และไม่อยากให้อาโดนตำรวจจับ” ทาง พล.ต.ต.ชวลิต จึงเข้าไปสอบถามว่าทำไมหนูถึงโพสต์แบบนี้ อาจทำให้คนอื่นที่เข้าไปอ่านจะเข้าใจผิด อย่างไรก็ตามตอนหนูเดือดร้อนก็มาขอความช่วยเหลือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ตอนนี้กลับไปสงสารคนที่ทำไม่ดีกับเธอ คดีมาถึงชั้นนี้แล้ว ก็ต้องปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการของกฎหมาย จากนั้น น.ส.เอ ก็ได้เข้าไปลบข้อความดังกล่าวทิ้งไป