เอเอฟพี - จีนได้ระดมสรรพกำลังติดอาวุธเข้าไปทำการฝึกซ้อมในมณฑลซินเจียงเมื่อวันเสาร์ (29 มิ.ย.) หลังจากเกิดเหตุการณ์ปะทะในสัปดาห์นี้่ ที่มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 35 ราย
รถถัง พาหนะ และกำลังพลของกองทัพเข้าปิดล้อมถนนในอูรุมชี เมืองเอกของมณฑลซินเจียง ซึ่งเป็นพื้นที่ที่หน่วยกองกำลังจะได้ทำการฝึกซ้อม นักข่าวเอเอฟพีรายงานจากเหตุการณ์ว่า พื้นที่ส่วนต่าง ๆ ในใจกลางเมืองถูกปิดหมด เพื่ออำนวยพื้นที่ให้แก่การซักซ้อม
การซ้อมในครั้งนี้ผลักดันโดยกองกำลังตำรวจประชาชนติดอาวุธ ซึ่งเป็นหน่วยงานส่วนหนึ่งของกองทัพจีน ที่มีหน้าที่บังคับใช้กฎหมายเพื่อความมั่นคงภายในประเทศในช่วงที่ประเทศสงบสันติ
สื่อรัฐบาลจีนเผย (29 มิ.ย.) กล่าวโทษประชาชนจำนวน 100 คนว่าเป็นผู้แบ่งแยกดินแดนที่มักจะจุดไฟจลาจลในซินเจียง
ความไม่สงบล่าสุดผุดขึ้นในเมืองโฮทันเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (28 มิ.ย.) กลุ่มคนร้ายได้เข้าโจมตีประชาชนจำนวนหนึ่งด้วยอาวุธหลังจากได้ทำการชุมนุมกันบริเวณถนนย่านมัสยิดท้องถิ่น โกลบอลไทมส์เผย
ก่อนหน้านี้เมื่อวันพุธ (26 มิ.ย.) ก็ได้เกิดเหตุการณ์ปะทะรุนแรง ที่มีความสูญเสียสูงสุดรองจากที่เคยเกิดเหตุการณ์จลาจลเมื่อปี 2552 ที่มีผู้เสียชีวิตประมาณ 200 ราย
สถานีวิทยุฟรีเอเชีย ซึ่งก่อตั้งโดยกองทุนรัฐบาลสหรัฐฯ ได้ยกคำกล่าวของประชาชนในพื้นที่ว่า คนอุยกูร์ท้องถิ่นโกรธตำรวจที่บุกเข้าไปยังมัสยิดและทำการล้อมไว้ในระหว่างที่กำลังทำพิธีสวดมนต์เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากอิหม่ามท้องถิ่นไม่ปฏิบัติตามกฎห้ามการเทศนาของเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น นอกจากนั้นยังระบุด้วยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ระดมยิงชาวอุยกูร์ในระหว่างที่พวกเขากำลังทะยอยออกจากมัสยิด
รายงานชี้ว่า "วัยรุ่นอุยกูร์คนหนึ่งกำลังขับจักรยานยนต์ออกจากมัสยิด พวกเขาตะโกนร้องเพื่อเสรีภาพทางศาสนา ทำให้ตำรวจเกิดหวาดกลัวจึงระดมยิงใส่พวกเขา มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อยสองรายและบาดเจ็บอีกหนึ่งราย"
ขณะที่สื่อรัฐบาล "เทียนซานเว็บ" เผยว่า ไม่มีสมาชิกมัสยิดคนใดเสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บ และไม่ได้ย้ำว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจเสียชีวิตด้วยหรือไม่
ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงเผยหลังจากการโจมตีว่า จะต้องรีบจัดการปัญหาอย่างรวดเร็วเพื่อยืนยันความสงบสุขในสังคม เทียนซานเว็บรายงาน (29 มิ.ย.)
จีนมักจะตีตราว่าเหตุการณ์จลาจลที่เกิดขึ้นในซินเจียงเป็นฝีมือลัทธิก่อการร้าย ขณะที่กลุ่มสิทธิอุยกูร์ปฏิเสธ ชี้ว่า เหตุไม่สงบเป็นผลมาจากความไม่เท่าเทียมทางเศรษฐกิจและความกดดันทางศาสนา
อย่างไรก็ดี ไม่มีสื่อใดสามารถรายงานเหตุจลาจลเมื่อวันพุธได้อย่างละเอียด เนื่องจากนักข่าวไม่ได้รับอนุญาตให้ลงพื้นที่ นักข่าวถูกกักพื้นที่และมีตำรวจติดตามอย่างใกล้ชิด
สมาคมอุยกูร์อเมริกัน โดยกลุ่มชนกลุ่มน้อยอุยกูร์ลี้ภัยเผยว่า การปิดข่าวการโจมตีในภูมิภาคทำให้รัฐบาลจีนมีความน่าสงสัย "รัฐบาลจีนใช้การชวนเชื่อเพื่อตีตราว่าเหตุการณ์ร้ายต่าง ๆ เป็นการก่อการร้าย โดยปราศจากการแสดงหลักฐานที่สามารถตรวจสอบได้" กลุ่มฯ ระบุ
เหตุการณ์จลาจลปัจจุบันได้เกิดขึ้นก่อนจะถึงวันครบรอบจลาจล 2552 และเป็นช่วงก่อนเทศกาลถือศีลอด เจ้าหน้าที่บางส่วนในซินเจียงได้สั่งห้ามนักเรียนและเจ้าหน้าที่รัฐบาลไม่ให้ไปมัสยิดในช่วงเทศกาลศีลอด ขณะเดียวกันก็กดดันไม่ให้ร้านอาหารในพื้นที่ปิดการให้บริการในช่วงกลางวัน
เจ้าหน้าที่และตำรวจในซินเจียงบางคนก็เป็นชาวอุยกูร์ ทว่าเจ้าหน้าที่ส่วนใหญ่ในพื้นที่เป็นชาวจีนฮั่น
เมื่อวันเสาร์ พื้นที่ต่าง ๆ ในอุรุมชีถูกตรึงกำลังหนาแน่น ประชาชนในพื้นที่เผยว่า พื้นที่ในเมืองแบ่งแยกชัดเจนว่าเป็นเขตของชาวฮั่น หรืออุยกูร์ คนขับแทกซี่รายหนึ่งเผยว่า ชาวฮั่นกำลังหลีกเลี่ยงปัญหาเรื่องการฉลองครบรอบจลาจลปี 2552 ของชาวอุยกูร์
