xs
xsm
sm
md
lg

จีนเตรียมสำรวจมลพิษ&​ในดินทั่วปท. หลังพบข้าวปน&​เปื้อนสารฯ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ชาวนาในมณฑลยูนนานกำลังปลูกข้าวด้วยวิธีดำนา ซึ่งจะช่วยให้ข้าวแตกกอและเป็นระเบียบได้ดีกว่าการหว่านปกติ ทั้งนี้หลังจากอุตสาหกรรมจีนขยายตัวอย่างหนัก ส่งผลให้สารโลหะหนักออกมาปนเปื้อนอาหาร ล่าสุดพบ ข้าวจีนเกือบร้อยละ 10 ปนเปื้อนสารแคดเมียมแล้ว (ภาพเอเยนซี)
เอเยนซี - จีนเตรียมสำรวจมลพิษในดินทั่วประเทศ หลังพบข้าวปนเปื้อนสารแคดเมียม หวั่นเกิดวิกฤติด้านความปลอดภัยของอาหารอีกครั้ง

สื่อต่างประเทศรายงาน (14 มิ.ย.) แผนของกระทรวงที่ดินและทรัพยากรของจีน ที่ออกมาระบุว่า รัฐบาลจีน กำลังเตรียมสำรวจมลพิษในดินทั่วประเทศ ซึ่งจะตรวจสอบและเปิดเผยผลกระทบของสภาพดินที่เสื่อมคุณภาพจากการกระทำของมนุษย์ได้

รายงานข่าวกล่าวว่า ในเบื้องต้นนี้ ตัวอย่างดินที่เก็บจากชั้นดินในทุกระดับชั้นเหล่านี้ จะแสดงให้เห็นว่าองค์ประกอบทางเคมีต่างๆ ว่ามีผลกระทบต่อดินอย่างไร แต่กระทรวงฯ ยังไม่ได้กำหนดวันเปิดเผยผลสำรวจฯ อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ ได้มีการสำรวจที่ได้ผลบ่งชี้ว่า ดินบางพื้นของจีน อาทิ พื้นที่ที่อยู่ใกล้ตอนกลางและตอนล่างของแม่น้ำแยงซี มีการปนเปื้อนมลพิษสูง และเมื่อนำผลการสำรวจเปรียบเทียบจากปี 2537 และ 2538 ครั้งก่อน พบว่ามิลพิษในดินกำลังขยายวงออกไปไปสู่พื้นที่ภาคตะวันออกของจีน ซึ่งมีภูมิภาคที่มีประชากรอาศัยอยู่หนาแน่นมากกว่า

ทั้งนี้ รายงานผลสำรวจฯ ในรอบหลาย 2 ปีมานี้ชี้ว่า ข้าวจำนวนมากของจีนปนเปื้อนโลหะหนักอย่างเช่นแคดเมียม มาหลายปีแล้ว ซึ่งปริมาณสารเพียงน้อยนิดก็สามารถเป็นอันตรายอย่างมหันต์กับมนุษย์ โดยรายงานชี้ว่า “ในช่วงที่จีนเพิ่มขยายอุตสาหกรรมแบบก้าวกระโดด กิจกรรมจำพวกการถลุงเหมืองถ่านหิน ก็โผล่พรึบขึ้นแทบทุกที่บนแดนมังกร ที่สำคัญกระบวนการดังกล่าวได้ปล่อยสารเคมีเข้าไปในสิ่งแวดล้อมด้วย ได้แก่ สารแคดเมียม สารหนู ปรอท และโลหะหนักอันตรายอื่น ๆ อีกหลายชนิด ซึ่งโลหะหนักอันตรายพวกนี้ได้ฟุ้งกระจายไปในอากาศ ลงสู่แหล่งน้ำ ส่งผลให้เกิดมลภาวะไปทั่ว ดังนั้นการปนเปื้อนในอาหารจึงเกิดขึ้นมากว่าปีแล้ว

นอกจากนั้น ข่าวลือล่าสุดว่าปริมาณข้าวสารครึ่งหนึ่งที่ปลูกในมณฑลกวางโจว มีสารแคดเมียมปนเปื้อน ทำให้ผู้บริโภคชาวจีนจำนวนมากต่างหวาดกลัว จนทำให้แห่กันออกไปซื้อข้าวที่ฮ่องกง จนทางการฮ่องกงต้องออกมาประกาศมาตรการ จำกัดการซื้อข้าว ตามมาตรการปกป้องผู้บริโภคท้องถิ่นด้วยการใช้กฎหมายสินค้าโภคภัณฑ์สำรอง ซึ่ง “ข้าว” ถูกจัดเป็นสินค้าโภคภัณฑ์สำรองในช่วงทศวรรษ 1950 (พ.ศ. 2493 - พ.ศ. 2502) เป็นต้นมา โดยมีข้อกำหนดว่าการจัดซื้อใดๆ ที่มิใช่เพื่อการบริโภคส่วนบุคคลหรือเพื่อเป็นของกำนัลในปริมาณมากกว่า 15 กิโลกรัม จำต้องได้รับใบอนุญาตในการซื้อทุกครั้ง

ผลวิจัยยังชี้ว่า ข้าวมีแนวโน้มดูดซึมสารแคดเมียมเข้าไปอย่างมาก ซึ่งสารฯ จะค่อย ๆ รั่วซึมมากับน้ำชลประทานบริเวณใกล้เหมืองถ่านหิน นอกจากนั้น น้ำยังพัดพาสารตะกั่ว ดีบุก และทองแดง มาด้วย ไม่ว่ากระทรวงเกษตร หรือนักวิชาการจะลงไปวิจัย ผลก็ออกมาเหมือนกันคือ เกือบร้อยละ 10 ของข้าวจีนมีระดับแคดเมียมเกินมาตรฐาน

รายงานข่าวกล่าวว่า จีนปลูกข้าวมากในแถบตอนใต้ ซึ่งข้าวเป็นธัญพืชหลักของจีน โดยจีนสามารถผลิตข้าวได้ปีละ 200 ล้านตัน และปัญหาด้านความปลอดภัยด้านอาหารในจีน เป็นปัญหาหลักมาช้านาน โดยเฉพาะปัญหาอาหารขาดคุณภาพ จนเสมือนเป็นเรื่องปรกติ

อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการศึกษาว่า หากบริโภคข้าวปนเปื้อนเหล่านี้เข้าไปจะเป็นอันตรายต่อร่างกายอย่างไรบ้าง ขณะที่ปัญหาอาหารปนเปื้อนในจีน นอกจากข้าวแล้ว ยังมีการปนเปื้อนอื่น เช่น ไวน์แดง เห็ดฟอกขาว เต้าหู้เทียม และการนำน้ำมันปรุงอาหารที่ใช้แล้วมาใช้ซ้ำอีก
กำลังโหลดความคิดเห็น