ชาวจีนประกาศลั่น กินไวน์ยุโรปแพงไม่กลัว แต่กลัวกินไวน์ผี

รอยเตอร์ - การจิบไวน์ยี่ห้อหรู ราคาแพงกำลังเป็นที่นิยมกันอย่างมากสำหรับคนกระเป๋าหนักบนแดนมังกร ซึ่งนับเป็นโอกาสทองให้ฝูงไวน์ผีบุกตีตลาดเกลื่อนเมือง

บรูโน โปมาร์ ผู้ควบคุมการผลิตไวน์ของชาโตฮันเซน (Chateau Hansen ) ในเขตมองโกเลียในของจีน หัวเราะจนงอหาย เมื่อเล่าเรื่องที่เพื่อนของเขานำเหล้าองุ่นมาให้ขวดหนึ่งเมื่อ 2 ปีก่อน

มันเป็นไวน์ขาว ติดฉลากว่าเป็นไวน์จากไร่โรมาเน่ - กงตี(Romanee-Conti) แต่ฉลากติดอยู่บนขวด ที่มีโลโก้ของไวน์ชาโต ลาฟีต ร็อตชิลด์ (Chateau Lafite-Rothschild) และระบุแหล่งผลิตว่าอยู่ในแถบมงต์เปลิเย่ร์ทางภาคใต้ของฝรั่งเศส

ข้อเท็จจริงก็คือไวน์โดเมน เดอ ลา โรมาเน่-กงตี (Domaine de la Romanee-Conti) นั้นเป็นไวน์ราคาแพง ที่ผลิตจากภูมิภาคเบอร์กันดี และมิได้บรรจุอยู่ในขวด ที่มีโลโก้ของลาฟีต อันเป็นไวน์ชื่อดังพอ ๆ กัน แต่ผลิตในภูมิภาคบอร์โด นอกจากนั้น ยังไม่เคยปรากฏมาก่อนว่า มีไวน์แบรนด์ใดผลิตใกล้กับมงต์เปลิเย่ร์

“มันเป็นตัวอย่างไวน์ปลอม ที่อลังการสุดเท่าที่ผมเคยเห็นมาเลยล่ะ” โปมาร์กล่าว

ในขณะที่ร้านขายเหล้า ภัตตาคาร และซูเปอร์มาร์เก็ตในจีน ซึ่งเป็นชาติผู้บริโภคไวน์รายใหญ่อันดับ 5 ของโลก กำลังต่อสู้ห่ำหั่นกับไวน์ผีอย่างไม่ลดละ ก็พอดีกับที่รัฐบาลปักกิ่งได้ประกาศสอบสวนการนำเข้าไวน์จากสหภาพยุโรป หรือ อียู โดยขู่จัดเก็บภาษีต่อต้านการทุ่มตลาด และควบคุมการนำเข้า เพื่อตอบโต้ ที่อียูจัดเก็บภาษีทุ่มตลาดแผงโซลาร์ ที่นำเข้าจากจีน จึงมีแนวโน้มว่า ไวน์นำเข้าจากยุโรปจะแพงขึ้น

“ไวน์ราคาแพงขึ้นน่ะไม่เป็นไรหรอกค่ะ แต่ฉันไม่ต้องการไวน์ปลอม” คอไวน์คนหนึ่งในกรุงปักกิ่งบอก เพราะเธอเห็นว่า คุณภาพเป็นสิ่งสำคัญและมีผลต่อสุขภาพ

อียูส่งออกไวน์ไปยังแดนมังกรในปี 2555 มากถึง 257.3 ล้านลิตร เป็นมูลค่าสูงเกือบ 1 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มกว่า 10 เท่า นับตั้งแต่ปี 2549 เป็นต้นมา โดยกว่าครึ่งหนึ่งของไวน์ ที่ส่งไปขายในจีนปีที่แล้วมาจากฝรั่งเศส

ไวน์ปลอม และไวน์ลอกเลียนแบบมีมากมายเท่าใดบนแดนมังกร หามีใครทราบไม่ แต่ของปลอมก็มักเป็นของที่ผู้คนนิยมกันอย่างมาก ตามความเห็นของจิม บอยซ์ ซึ่งติดตามข่าวคราวเกี่ยวกับอุตสาหกรรมไวน์ของจีนในบล็อก grapewallofchina.com ของเขา

ยิ่งเป็นไวน์ราคาแพงเท่าไร ก็ยิ่งพบว่าเป็นไวน์ย้อมแมวมากเท่านั้น จากความเห็นของคอไวน์อีกคน ซึ่งมองว่า ผู้บริโภคชาวจีนมากมายชอบซื้อของแพง ยิ่งแพงเท่าไรก็ยิ่งชอบซื้อ โดยไม่สนใจดูที่คุณภาพ

ไวน์ของยุโรปมักถูกปลอมแปลงมากที่สุด เช่น ไวน์ชาโตลาฟีต จากปี 1982 ซึ่งถือเป็นไวน์ ที่ผลิตจากผลองุ่นเยี่ยมยอดที่สุดรุ่นหนึ่งของศตวรรษที่ 20 และมีราคาสูงถึง 10,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ

ไวน์หลายยี่ห้อในตลาดเมืองจีนถูกตั้งชื่อใกล้เคียงกับชาโตลาฟีต เช่น “ชาเตอเล ลาฟีต” (Chatelet Lafite) ชาเตอเลเป็นชื่อสถานีรถไฟใต้ดิน ที่พลุกพล่านที่สุดแห่งหนึ่งในกรุงปารีส

ด้านผู้ผลิตไวน์ชั้นเยี่ยม ซึ่งตกเป็นเหยื่อ พยายามตอบโต้กับฝูงไวน์ผี โดยบางคราวก็ใช้วิธี ทุบขวดทิ้ง หลังจากทดสอบรสชาติ เพื่อป้องกันการนำไวน์เก๊มาบรรจุขวด ไปขายใหม่ นอกจากนั้น ยังมีมาตรการอื่น ๆ เช่น โครงการรับซื้อขวดไวน์คืน การใช้ฝาครอบขวด ที่ป้องกันการแกะ หรือการติดป้ายบอกข้อมูลไวน์ปลอมที่ขวด

คริสตอฟ ซาแล็ง ประธานบริษัทโดเมนส์ บารงส์ เดอ ร็อตชิลด์ (Domaines Barons de Rothschild) ซึ่งเป็นเจ้าของ ลาฟีต ร็อตชิลด์ ระบุว่า ทางบริษัทได้หาวิธีป้องกันการถูกปลอมแปลงมาตั้งแต่ปี 2539 แล้ว ด้วยการทำเครื่องหมายลับบ่งบอกไวน์ของแท้อีก 4 อย่าง ซึ่งเขาไม่เปิดเผยว่า คืออะไรบ้าง

“ ถ้าคุณหยิบขวดไวน์ของลาฟีตให้ดู ผมสามารถบอกได้ทันทีว่า เป็นไวน์ที่บรรจุขวดเมื่อไหร่ มีวิธีอีกมาก” ซาแล็งกล่าว

“จะมาปลอมกันนั้น มันไม่ง่ายหรอกครับ” เขาพูดเสมือนหนึ่งจะท้าทายไวน์ผีแดนมังกร