เอเยนซี- หนังสือพิมพ์ประชาชนจีน (人民日报) รายงาน ทันทีที่ทีมผู้บริหารชุดใหม่ของรัฐบาลไถวัน (ไต้หวัน) นำโดยเจียง อี๋ฮว่า (江宜桦为) ขึ้นดำรงตำแหน่งเมื่อวันที่ 18 ก.พ. 56 ก็เร่งผลักดันโครงการ ‘เขตการพนันพิเศษ’ (博弈特区) บนหมู่เกาะหมาจู่ (马祖列岛 หรือ Matzu Island) ทั้งนี้ กลุ่มผู้สนับสนุนมองว่า โครงการดังกล่าวเป็นการเปิดโอกาสให้หมู่เกาะหมาจู่เข้าถึงการพัฒนา ในขณะที่กลุ่มผู้คัดค้านกังวลว่า การสร้าง ‘เกาะแห่งความโลภ’ จะเป็นบ่อนทำลายชาติ มากกว่าการกระตุ้นเศรษฐกิจ
บ่อนการพนันเป็นสิ่งผิดกฎหมายในไต้หวัน จนเมื่อปี 2552 รัฐบาลไทเปได้ปรับแก้กฎหมายรับรองบ่อนพนันบริเวณนอกฝั่งของดินแดน จากนั้นมาก็ได้พยายามผลักดันโครงการจัดตั้ง ‘เขตการพนันพิเศษ’ (博弈特区) มาอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ได้รับการคัดค้านจากหลายภาคส่วน อันนำไปสู่การจัดให้มีการทำประชามติเป็นครั้งแรกของประเทศ ณ อำเภอเผิงหู (澎湖县) เมื่อวันที่ 26 ก.ย. 2552 ทว่า มีผู้ไม่ยินยอมให้อำเภอเผิงหูเป็นเขตการพนันพิเศษ 17, 359 คน มีผู้ยินยอม 13, 397 คน บัตรเสีย 298 คน โครงการดังกล่าวจึงไม่สามารถดำเนินงาน ทั้งนี้ ตามกฎหมายของไต้หวัน หากมติใดตกไป จะไม่สามารถทำประชามติภายในเวลา 3 ปี
รัฐบาลไต้หวัน จึงเปลี่ยนจุดหมายมาที่หมู่เกาะหมาจู่ (马祖列岛 หรือ Matzu Island) หรืออำเภอเหลียนเจียง (连江县) ตั้งอยู่ปากแม่น้ำหมิ่น (闽江) บริเวณทิศเหนือของช่องแคบทะเลไต้หวัน ห่างจากชายฝั่งมณฑลฝูเจี้ยนของจีน เพียงนั่งเรือ 30 นาที มีประชากรราว 10,000 คน หมาจู่ได้จัดทำประชามติอีกครั้งในวันที่ 7 ก.ย. ที่ผ่านมา ปรากฏมีผู้ยินยอมให้หมู่เกาะหมาจู่เป็นเขตการพนันพิเศษ 1,795 คน มีผู้ไม่ยินยอม 1,341 คน โครงการ ‘เขตการพนันพิเศษ’ จึงจัดตั้งขึ้นบนพื้นที่ 29.6 ตารางกิโลเมตรนี้
บริษัทไหวเต๋อ (怀德公司) มีการวางแผนลงทุนถึง 6 แสนล้านดอลลาร์ไต้หวันใหม่ เพื่อสร้างหมู่บ้านตากอากาศ โรงแรมต่างๆ พร้อมทั้งสร้างสะพานเชื่อมตำบลหนานกันและเป่ยกัน นอกจากนี้ กลุ่มยักษ์ใหญ่บ่อนพนันแห่งลาสเวกัส อาทิ Las Vegas Sands และ MGM Resorts ก็หมายตาจะเข้ามาเปิดกิจการในไต้หวัน เนื่องจากอยู่ใกล้จีน และเป็นตลาดใหญ่ที่ดึงดูดลูกค้าจากเกาหลี และญี่ปุน
คาดว่า ‘เขตการพนันพิเศษ’ จะสร้างงานให้กับคนท้องถิ่น ราว 3,000 - 5,000 ตำแหน่งงาน ในขณะที่รายได้ของชาวเกาะหมาจู่จะอยู่ที่ 18,000 ดอลลาร์ไถวันใหม่ต่อเดือนเมื่อโครงการ ‘เขตการพนันพิเศษ’ นี้ดำเนินงานไปได้ 1 ปี และจะเพิ่มขึ้นเป็น 80,000 ดอลลาร์ไถวันใหม่ต่อเดือนเมื่อโครงการฯ ดำเนินงานไปได้ 5 ปี
หนังสือพิมพ์วั่ง 《旺报》ของไต้หวัน ฉบับวันที่ 19 ก.พ.ที่ผ่านมา ลงบทความสนับสนุนโครงการ ‘เขตการพนันพิเศษ’ โดยชี้ให้เห็นอนาคตที่งดงามว่า เที่ยวบินตรงและเรือข้ามฟากที่สะดวก จะเอื้ออำนวยให้นักท่องเที่ยวจำนวนมากข้ามไปมาระหว่างเมืองฝูโจว (福州) หรือซย่าเหมิน (厦门) ของจีนแผ่นดินใหญ่ กับหมู่เกาะหมาจู่ของไต้หวัน
แหล่งการพนันแห่งใหม่นี้จะไม่ใช่เพียงเพื่อการพนัน แต่จะเป็นการส่งเสริมกระตุ้นธุรกิจท่องเที่ยว และกระตุ้นเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศให้ดีขึ้น พร้อมทั้งยกตัวอย่าง ภาษีจากบ่อนพนันที่กระตุ้น GDP ทำให้รัฐบาลประเทศสิงคโปร์ตัดสินใจยกเลิกกฎหมายห้ามเล่นการพนันที่ดำเนินมากว่า 40 ปี รายได้จากบ่อนพนันของเกาะเอ้าเหมิน (มาเก๊า) ที่แซงหน้าลาสเวกัสของสหรัฐฯ รวมถึงประเทศที่กำลังพัฒนา เช่น เวียดนามและกัมพูชา ต่างก็เร่งพัฒนาพื้นที่การพนันถูกกฎหมาย ฉะนั้น เมื่อไต้หวัน มีความได้เปรียบกว่าทางด้านทัศนียภาพจึงมิควรลังเลหรือรีรอแต่อย่างใด
อย่างไรก็ดี โครงการ ‘เขตการพนันพิเศษ’ จะสามารถดำเนินการภายในระยะเวลาอันสั้น และได้ผลกำไรตามที่คาดการณ์ได้หรือไม่นั้น ยังมีตัวแปรให้ต้องพิจารณาหลายประการ
ประการแรก แม้โครงการฯ จะผ่านประชามติระดับท้องถิ่นแล้วก็ตาม แต่ยังต้องเสนอให้สภานิติบัญญัติพิจารณาอีกครั้ง จึงทำให้มีกลุ่มนักลงทุนใจร้อนถึงขั้นคุกเข่าขอให้ผ่านมติสภาโดยเร็ว ทว่า ก็มิอาจยับยั้งการชุมนุมคัดค้านโดยประชาชนทั่วไปซึ่งมีแนวโน้มว่าจะยืดเยื้อตามมา พร้อมกันนี้ เมื่อวันที่ 20 ก.พ.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องของอำเภอฝูโจว มณฑลฝูเจี้ยน กลับแสดงท่าทีอย่างไม่อ้อมค้อมว่า “กฎหมายของแผ่นดินใหญ่ห้ามไม่ให้มีการเล่นการพนัน แต่ถ้ารัฐบาลไต้หวัน ยืนยันที่จะทำ เราก็จะไม่ให้ความร่วมมือแต่อย่างใด”
ประการที่สอง บริษัทไหวเต๋อยังต้องเข้ากระบวนการประมูลแข่งขันกับบริษัทชั้นนำต่างชาติอื่นๆ ซึ่งยังไม่แน่ว่าจะได้รับสิทธิ์ดำเนินการหรือไม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อบริษัทไหวเต๋อจดทะเบียนด้วยทุนเพียง 1 แสนล้านดอลลาร์ไต้หวันใหม่ (แต่ตั้งงบลงทุนไว้ถึง 6 แสนล้านดอลลาร์ไต้หวันใหม่)
ประการที่สาม เมื่อเทียบกับอำเภอเพิงหูแล้ว หมู่เกาะหมาจู่มีสภาพแวดล้อมทางกายภาพที่แย่กว่า บ่อนการพนันที่วางแผนจะสร้างที่เป่ยกัน ต้องเผชิญกับลมที่พัดมาจากทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ลมแรงปะทะในฤดูหนาวเช่นนี้ ไม่เหมาะกับการพักตากอากาศเป็นอย่างมาก อีกทั้งสนามบินหนานเป่ยกันที่ใช้ในปัจจุบันยังต้องเผชิญกับฤดูหมอก ทำให้ต้องพักการบิน 3-5 เดือนต่อปี ซึ่งสนามบินที่จะสร้างใหม่นั้นสามารถรับประกันความปลอดภัยได้เพียงไร ก็ยังเป็นที่กังขาอยู่ไม่น้อย
ประการที่สี่ ปัญหาที่จะตามมาภายหลังการพัฒนาพื้นที่ขนานใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นการย้ายถิ่นของประชากรจำนวนมาก อาจทำให้สภาพแวดล้อมทางธรรมชาติถูกทำลาย ราคาสินค้าและที่ดินพุ่งสูงขึ้น อาจทำให้ชาวเกาะพื้นถิ่นประสบปัญหาในการดำรงชีวิต ตลอดรวมถึงสถานการณ์แฝง เช่น การหลบหนีเข้าเมืองของนักโทษ การฟอกเงิน ฯลฯ อาจส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยทางสังคม ซึ่งแน่นอนว่าค่าใช้จ่ายที่จะนำมาใช้แก้ปัญหาดังกล่าว ย่อมลิดรอนผลประโยชน์ที่ชาวเกาะพึงได้ไปโดยปริยาย
ด้วยเหตุนี้ เกาะการพนัน ‘หมาจู่’ จะนำมาซึ่ง ‘โอกาส’ หรือ ‘หายนะ’จึงเป็นเรื่องที่ต้องติดตามกันต่อไป !
คลิกอ่าน :ข้อมูลท่องเที่ยวของหมู่เกาะหมาจู่เพิ่มเติม
บ่อนการพนันเป็นสิ่งผิดกฎหมายในไต้หวัน จนเมื่อปี 2552 รัฐบาลไทเปได้ปรับแก้กฎหมายรับรองบ่อนพนันบริเวณนอกฝั่งของดินแดน จากนั้นมาก็ได้พยายามผลักดันโครงการจัดตั้ง ‘เขตการพนันพิเศษ’ (博弈特区) มาอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ได้รับการคัดค้านจากหลายภาคส่วน อันนำไปสู่การจัดให้มีการทำประชามติเป็นครั้งแรกของประเทศ ณ อำเภอเผิงหู (澎湖县) เมื่อวันที่ 26 ก.ย. 2552 ทว่า มีผู้ไม่ยินยอมให้อำเภอเผิงหูเป็นเขตการพนันพิเศษ 17, 359 คน มีผู้ยินยอม 13, 397 คน บัตรเสีย 298 คน โครงการดังกล่าวจึงไม่สามารถดำเนินงาน ทั้งนี้ ตามกฎหมายของไต้หวัน หากมติใดตกไป จะไม่สามารถทำประชามติภายในเวลา 3 ปี
รัฐบาลไต้หวัน จึงเปลี่ยนจุดหมายมาที่หมู่เกาะหมาจู่ (马祖列岛 หรือ Matzu Island) หรืออำเภอเหลียนเจียง (连江县) ตั้งอยู่ปากแม่น้ำหมิ่น (闽江) บริเวณทิศเหนือของช่องแคบทะเลไต้หวัน ห่างจากชายฝั่งมณฑลฝูเจี้ยนของจีน เพียงนั่งเรือ 30 นาที มีประชากรราว 10,000 คน หมาจู่ได้จัดทำประชามติอีกครั้งในวันที่ 7 ก.ย. ที่ผ่านมา ปรากฏมีผู้ยินยอมให้หมู่เกาะหมาจู่เป็นเขตการพนันพิเศษ 1,795 คน มีผู้ไม่ยินยอม 1,341 คน โครงการ ‘เขตการพนันพิเศษ’ จึงจัดตั้งขึ้นบนพื้นที่ 29.6 ตารางกิโลเมตรนี้
บริษัทไหวเต๋อ (怀德公司) มีการวางแผนลงทุนถึง 6 แสนล้านดอลลาร์ไต้หวันใหม่ เพื่อสร้างหมู่บ้านตากอากาศ โรงแรมต่างๆ พร้อมทั้งสร้างสะพานเชื่อมตำบลหนานกันและเป่ยกัน นอกจากนี้ กลุ่มยักษ์ใหญ่บ่อนพนันแห่งลาสเวกัส อาทิ Las Vegas Sands และ MGM Resorts ก็หมายตาจะเข้ามาเปิดกิจการในไต้หวัน เนื่องจากอยู่ใกล้จีน และเป็นตลาดใหญ่ที่ดึงดูดลูกค้าจากเกาหลี และญี่ปุน
คาดว่า ‘เขตการพนันพิเศษ’ จะสร้างงานให้กับคนท้องถิ่น ราว 3,000 - 5,000 ตำแหน่งงาน ในขณะที่รายได้ของชาวเกาะหมาจู่จะอยู่ที่ 18,000 ดอลลาร์ไถวันใหม่ต่อเดือนเมื่อโครงการ ‘เขตการพนันพิเศษ’ นี้ดำเนินงานไปได้ 1 ปี และจะเพิ่มขึ้นเป็น 80,000 ดอลลาร์ไถวันใหม่ต่อเดือนเมื่อโครงการฯ ดำเนินงานไปได้ 5 ปี
หนังสือพิมพ์วั่ง 《旺报》ของไต้หวัน ฉบับวันที่ 19 ก.พ.ที่ผ่านมา ลงบทความสนับสนุนโครงการ ‘เขตการพนันพิเศษ’ โดยชี้ให้เห็นอนาคตที่งดงามว่า เที่ยวบินตรงและเรือข้ามฟากที่สะดวก จะเอื้ออำนวยให้นักท่องเที่ยวจำนวนมากข้ามไปมาระหว่างเมืองฝูโจว (福州) หรือซย่าเหมิน (厦门) ของจีนแผ่นดินใหญ่ กับหมู่เกาะหมาจู่ของไต้หวัน
แหล่งการพนันแห่งใหม่นี้จะไม่ใช่เพียงเพื่อการพนัน แต่จะเป็นการส่งเสริมกระตุ้นธุรกิจท่องเที่ยว และกระตุ้นเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศให้ดีขึ้น พร้อมทั้งยกตัวอย่าง ภาษีจากบ่อนพนันที่กระตุ้น GDP ทำให้รัฐบาลประเทศสิงคโปร์ตัดสินใจยกเลิกกฎหมายห้ามเล่นการพนันที่ดำเนินมากว่า 40 ปี รายได้จากบ่อนพนันของเกาะเอ้าเหมิน (มาเก๊า) ที่แซงหน้าลาสเวกัสของสหรัฐฯ รวมถึงประเทศที่กำลังพัฒนา เช่น เวียดนามและกัมพูชา ต่างก็เร่งพัฒนาพื้นที่การพนันถูกกฎหมาย ฉะนั้น เมื่อไต้หวัน มีความได้เปรียบกว่าทางด้านทัศนียภาพจึงมิควรลังเลหรือรีรอแต่อย่างใด
อย่างไรก็ดี โครงการ ‘เขตการพนันพิเศษ’ จะสามารถดำเนินการภายในระยะเวลาอันสั้น และได้ผลกำไรตามที่คาดการณ์ได้หรือไม่นั้น ยังมีตัวแปรให้ต้องพิจารณาหลายประการ
ประการแรก แม้โครงการฯ จะผ่านประชามติระดับท้องถิ่นแล้วก็ตาม แต่ยังต้องเสนอให้สภานิติบัญญัติพิจารณาอีกครั้ง จึงทำให้มีกลุ่มนักลงทุนใจร้อนถึงขั้นคุกเข่าขอให้ผ่านมติสภาโดยเร็ว ทว่า ก็มิอาจยับยั้งการชุมนุมคัดค้านโดยประชาชนทั่วไปซึ่งมีแนวโน้มว่าจะยืดเยื้อตามมา พร้อมกันนี้ เมื่อวันที่ 20 ก.พ.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องของอำเภอฝูโจว มณฑลฝูเจี้ยน กลับแสดงท่าทีอย่างไม่อ้อมค้อมว่า “กฎหมายของแผ่นดินใหญ่ห้ามไม่ให้มีการเล่นการพนัน แต่ถ้ารัฐบาลไต้หวัน ยืนยันที่จะทำ เราก็จะไม่ให้ความร่วมมือแต่อย่างใด”
ประการที่สอง บริษัทไหวเต๋อยังต้องเข้ากระบวนการประมูลแข่งขันกับบริษัทชั้นนำต่างชาติอื่นๆ ซึ่งยังไม่แน่ว่าจะได้รับสิทธิ์ดำเนินการหรือไม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อบริษัทไหวเต๋อจดทะเบียนด้วยทุนเพียง 1 แสนล้านดอลลาร์ไต้หวันใหม่ (แต่ตั้งงบลงทุนไว้ถึง 6 แสนล้านดอลลาร์ไต้หวันใหม่)
ประการที่สาม เมื่อเทียบกับอำเภอเพิงหูแล้ว หมู่เกาะหมาจู่มีสภาพแวดล้อมทางกายภาพที่แย่กว่า บ่อนการพนันที่วางแผนจะสร้างที่เป่ยกัน ต้องเผชิญกับลมที่พัดมาจากทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ลมแรงปะทะในฤดูหนาวเช่นนี้ ไม่เหมาะกับการพักตากอากาศเป็นอย่างมาก อีกทั้งสนามบินหนานเป่ยกันที่ใช้ในปัจจุบันยังต้องเผชิญกับฤดูหมอก ทำให้ต้องพักการบิน 3-5 เดือนต่อปี ซึ่งสนามบินที่จะสร้างใหม่นั้นสามารถรับประกันความปลอดภัยได้เพียงไร ก็ยังเป็นที่กังขาอยู่ไม่น้อย
ประการที่สี่ ปัญหาที่จะตามมาภายหลังการพัฒนาพื้นที่ขนานใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นการย้ายถิ่นของประชากรจำนวนมาก อาจทำให้สภาพแวดล้อมทางธรรมชาติถูกทำลาย ราคาสินค้าและที่ดินพุ่งสูงขึ้น อาจทำให้ชาวเกาะพื้นถิ่นประสบปัญหาในการดำรงชีวิต ตลอดรวมถึงสถานการณ์แฝง เช่น การหลบหนีเข้าเมืองของนักโทษ การฟอกเงิน ฯลฯ อาจส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยทางสังคม ซึ่งแน่นอนว่าค่าใช้จ่ายที่จะนำมาใช้แก้ปัญหาดังกล่าว ย่อมลิดรอนผลประโยชน์ที่ชาวเกาะพึงได้ไปโดยปริยาย
ด้วยเหตุนี้ เกาะการพนัน ‘หมาจู่’ จะนำมาซึ่ง ‘โอกาส’ หรือ ‘หายนะ’จึงเป็นเรื่องที่ต้องติดตามกันต่อไป !
คลิกอ่าน :ข้อมูลท่องเที่ยวของหมู่เกาะหมาจู่เพิ่มเติม