xs
xsm
sm
md
lg

โนดะประกาศเสริมทัพญี่ปุ่น คุมเข้มเกาะเตี้ยวอี๋ว์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายกฯ โนดะ โค้งคำนับให้กับรัฐสภา หลังจากกล่าวสุนทรพจน์ประกาศว่า จะเสริมกำลังความมั่นคงให้แน่นหน้าขึ้น เมื่อวันที่ 29 ต.ค. (ภาพรอยเตอร์ส)
เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสท์--โยชิฮิโกะ โนดะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นประกาศวานนี้ (29 ต.ค.) ญี่ปุ่นจะเสริมกองกำลังความมั่นคงรอบชายฝั่งให้แข็งแกร่งขึ้น หลังจากที่เรือตรวจการณ์จีนยังคงแล่นเข้ามาใกล้กับน่านน้ำเกาะพิพาทในทะเลจีนตะวันออกอย่างต่อเนื่อง

โนดะกล่าวต่อรัฐสภาญี่ปุ่นว่า “มันแน่ชัดว่า สภาวะแวดล้อมด้านความปลอดภัยรอบๆ ญี่ปุ่น กำลังเพิ่มความตึงเครียดมากขึ้นแต่ก่อน เหตุการณ์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับอำนาจอธิปไตยเหนือดินแดนกำลังจะเกิดขึ้น”

เขายังกล่าวในสุนทรพจน์ต่อสภานิติบัญญัติอีกว่า “ขณะที่กำลังเฝ้าสังเกตสันตินิยมที่เป็นหลักสำคัญของรัฐธรรมนูญของพวกเรา ผมก็จะพยามยามเสริมกำลังความมั่นคงรอบน่านน้ำเกาะให้มากขึ้น”

แถลงดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่ญี่ปุ่นกล่าวเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (26 ต.ค.) ว่าจะทุ่มงบประมาณ 17,000 ล้านเยน (หรือราว 6,613 ล้านบาท) ในการเสริมกำลังยามฝั่ง

วานนี้ เรือจีนแล่นเข้ามาในเขตต่อเนื่อง (contiguous zone) ใกล้กับน่านน้ำเกาะเตี้ยวอี๋ว์อีกครั้ง ด้านสื่อจีนรายงานการใช้กองกำลังทางทหารซ้ำแล้วซ้ำเล่า เพื่อย้ำการอ้างกรรมสิทธ์เหนือเกาะเตี้ยวอี๋ว์ (หรือเซงกากุในภาษาญี่ปุ่น) ของชาติ

เหลียง อวิ๋นเซียง ผู้เชี่ยวชาญด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยปักกิ่ง กล่าวว่า “ทั้งสองรัฐบาลต้องการลดความตึงเครียดกรณีพิพาท แต่โชคไม่ดีที่พวกเขาไม่สามารถหาจุดสงบระหว่างกันได้ และขณะนี้เป็นเวลาสำหรับการท้าทายความต้องการ”

สำนักข่าวเกียวโดของญี่ปุ่นอ้างแหล่งข้อมูลของรัฐบาลญี่ปุ่นที่กล่าวว่า โนดะและเวิน จยาเป่า นายกรัฐมนตรีจีน ไม่น่าจะเข้าร่วมการประชุมเอเชีย-ยุโรปที่จะจัดขึ้นในลาว สัปดาห์หน้าได้ ทั้งสองฝ่ายเชื่อว่าความตึงเครียดอาจจะเพิ่มมากขึ้น หากทั้งโนดะและเวินลงเอยด้วยการโต้เถียงกรณีเกาะเตี้ยวอี๋ว์

ศาสตราจารย์เหลียน เต๋อกุ้ย จากสถาบันวิเทศศึกษา เซี่ยงไฮ้ กล่าวว่า “ข้อมูลที่ได้รับ มันเป็นความสัมพันธ์ที่แย่ลงระหว่างสองประเทศ นับตั้งแต่ความสัมพันธ์ทางการทูตที่ก่อตั้งเมื่อ 40 ปีก่อน การประชุมระหว่างผู้นำระดับสูงเต็มไปด้วยความเคลือบแคงใจ” อย่างไรก็ดี เหลียนเชื่อว่าผู้นำทั้งสองชาติอาจจะยังคงเผชิญหน้าในการหารืออย่างไม่เป็นทางการ

โนดะและเวินต่างหวังที่จะหลีกเลี่ยวการประชุมอาเซียนซัมมิท ที่จะจัดขึ้นในเดือนหน้า (พ.ย.) ที่กัมพูชา

ความตึงเครียดระหว่างสองประเทศปะทุขึ้นเมื่อเดือนที่ผ่านมา (ก.ย.) หลังจากที่ญี่ปุ่นลงนามซื้อเกาะ 3 แห่งในบริเวณหมู่เกาะเตี้ยวอี๋ว์ที่มีทั้งหมด 5 เกาะ ทำให้เกิดการประท้วงต่อต้านญี่ปุ่นขยายวงกว้างในหลายเมืองใหญ่ของจีน กินเวลากว่า 8 วัน จนเมื่อวันที่ 20 ก.ย. การประท้วงเริ่มคลี่คลาย

การประชุมระหว่างรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศเกิดขึ้นในนครเซี่ยงไฮ้เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยรัฐบาลญี่ปุ่นกล่าวว่า ทั้งสองฝ่าย 'ได้แลกเปลี่ยนทรรศนะต่อสถานการณ์ปัจจุบัน'

หร่วน จ่งเจ๋อ แห่งสถาบันวิเทศศึกษาจีน กล่าวว่า รัฐบาลญี่ปุ่นยังคงมี “ความเพ้อฝันที่ผิดพลาด” ซึ่งเหตุการณ์อาจสงบลงได้อย่างง่ายดาย นอกจากนี้ ที่ญี่ปุ่นยังคงคิดว่าเสถียรภาพเป็นความสำคัญอันดับต้นๆ ของการประชุมพรรคคอมมิวนิสต์ครั้งที่ 18 ของจีนนั้น เป็นสิ่งที่ผิด

“ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม จีนจะสู้กับพวกเขาจนถึงที่สุด” หร่วนกล่าว

จากกระแสพิพาทเกาะฯ ระหว่างจีนและญี่ปุ่น ทำให้การค้าระหว่างสองประเทศซึ่งมีมูลค่าสูงถึง 300,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อปีที่แล้ว (2554) ได้รับผลกระทบอย่างหนัก เมื่อวันที่ 16 ต.ค. ผู้ผลิตค่ายรถยนต์โตโยต้า รายงานว่ากำลังวางแผนปิดโรงงานในจีนชั่วคราว เนื่องจากความต้องการสินค้าญี่ปุ่นลดฮวบ

เกาะเตี้ยวอี๋ว์ตั้งอยู่ในทะเลจีนตะวันออก บริเวณน่านน้ำเกาะฯ เป็นเส้นทางเดินเรือสำคัญทางยุทธศาสตร์ และยังเป็นแหล่งทรัพยากรน้ำมันและก๊าซธรรมชาติมหาศาล

ฝ่ายจีนอ้างอธิปไตยเหนือเกาะฯ มาตั้งแต่ราชวงศ์หมิง (พ.ศ. 1911) อย่างไรก็ตาม เกาะฯ ดังกล่าวเป็นที่ยอมรับในเวทีสากลว่า เป็นของญี่ปุ่นที่ได้ผนวกรวมเข้าไปในปีพ.ศ. 2438 ทำให้จีนและญี่ปุ่นพิพาทกรรมสิทธิเหนือเกาะฯ นี้มาจนถึงปัจจุบัน


กำลังโหลดความคิดเห็น