จีนเล็งห้าม "บาร์บีคิว" ช่วยลดมลพิษ

ซินหวา—เมื่อเร็วๆนี้กระทรวงสิ่งแวดล้อมจีน ได้แถลงร่างเสนอมาตรการลดมลพษจากฝุ่นละอองในอากาศ เพื่อขอประชามติ โดยมีแผนว่าเมื่อจัดทำประชามติเป็นที่เรียบร้อย ก็จะจัดตั้งกลไกควบคุมและตรวจสอบการปล่อยของเสีย จัดระบบให้ทั้งรัฐบาลและบริษัทมีส่วนร่วมรับผิดชอบ โดยระบบดังกล่าวมุ่งไปที่การป้องกันฝุ่นละเอียด หรือ PM 2.5 และลดปริมาณ PM 2.5 ในแต่ละปี ทั้งนี้จากรายงานข่าวของสำนักข่าวซินหวา เผยเมื่อวันพุธ(21 ก.พ.)

หนึ่งในมาตรการที่ระบุร่างข้อเสนอฯได้เรียกร้องให้ประชาชนช่วยกันสรรค์สร้างสังคมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม “งวดการกินปาร์ตี้บาร์บีคิวกลางแจ้ง” โดยขณะนี้หน่วยงานติดตามสถานการณ์สิ่งแวดล้อม กำลังร่างหลักแนะแนวแก่บรรดาเมืองใหญ่ ให้รับรองกฎหมายระเบียบข้อบังคับ ห้ามกิจกรรมทั้งหลายที่เกี่ยวข้องกับบาร์บีคิวกลางแจ้ง

แต่มาตรการนี้ก็ได้จุดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ใหญ่ในสื่อสังคมออนไลน์ โดยมีทั้งกลุ่มที่สนับสนุนและกลุ่มที่คัดค้าน

กลุ่มที่สนับสนุน ชี้ว่า ตามเมืองใหญ่ที่มีประชากร 2 ล้านคนขึ้นไป ควรห้ามกิจกรรมปิ้งย่าง บาร์บีคิวกลางแจ้ง และให้ผู้ประกอบการอาหารปิ้งย่างนี้ ปรุงอาหารประเภทนี้ในห้องที่ติดตั้งอุปกรณ์ดูดควันเท่านั้น บ้างก็ว่า การลดกินอาหารปิ้งย่าง ยังช่วยลดอัตราเสี่ยงเป็นมะเร็งไปด้วย

ส่วนกลุ่มที่คัดค้าน ชาวเน็ตผู้หนึ่งชี้ถึงการควบคุมกิจกรรมปิ้งย่างอย่างเข้มงวดถึงขั้นออกกฎหมายบังคับห้าม ว่าในบรรดาแหล่งปล่อยมลพษสู่อากาศ มีมากมาย การปล่อยควันจากกิจกรรมปิ้งย่างนั้น ไม่ได้มากมายอะไรเลย เทียบกับการปล่อยควันพิษความร้อนจากกลุ่มโรงงาน ควันจากท่อไอเสียรถยนต์ ซึ่งไม่เห็นเสนอมาตรการถึงขั้นผ่านกฎหมายมาควบคุม การเสนอกฎหมายควบคุมบาร์บีคิวนี้ เป็นการหยิบยกเรื่องเล็กมาเป็นทำเป็นเรื่องใหญ่โต

ในเดือนม.ค.ที่ผ่านมา ชาวจีนในหลายเขตมณฑลประสบวิกฤตหมอกมลพิษกันอ่วมอรทัยถึงสามระลอก นับเป็นครั้งเลวร้ายในรอบทศวรรษ ค่าดัชนีฝุ่นละขนาดเล็กในอากาศ หรือ PM2.5 ที่สามารถแทรกเข้าสู่ปอด ทำลายสุขภาพ พุ่งสูงอย่างน่าตกใจ

กระทรวงสิ่งแวดล้อม รายงานในวันที่ 30 ม.ค. (เป็นครั้งแรกที่กระทรวงพิทักษ์สิ่งแวดล้อมจีนออกโรงแถลงไขข้อมูลมลพิษอากาศครั้งนี้) ระบุจากภาพถ่ายดาวเทียม หมอกมลพิษปกคลุมพื้นที่ 1.3 ล้านตร.กม.ในประเทศจีน เขตที่ประสบหมอกพิษอย่างสาหัสสากรรจ์ที่สุด ได้แก่ บรรดาเมืองในภาคเหนือ อาทิ นครปักกิ่ง และสือจยาจวง ไปถึงกลุ่มเมืองทางใต้ลงมา ได้แก่ อู่ฮั่น และเฉิงตู

สำหรับในนครหลวงปักกิ่ง ดัชนีมลพิษของทางการ ระบุแตะระดับ 400 สูงกว่ามาตรฐานระดับปลอดภัยต่อสุขภาพของประเทศ 3 เท่าตัว และช่วงที่เลวร้ายที่สุด ค่าดัชนีพุ่งถึง 454 ที่บริเวณศูนย์กีฬาโอลิมปิกแห่งชาติ ในเขตเฉาหยัง เมื่อเวลา 4 โมงเย็น โดยระดับฝุ่นละเอียด หรือ PM2.5 แตะระดับ 421 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร เกือบ 17 เท่าของระดับสูงสุดที่องค์การอนามัยโลก หรือฮู (WHO) แนะนำ ทั้งนี้ ฮู แนะนำ PM2.5 ควรต่ำกว่า 25 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร