เอเอฟพี - ปัญหาการปลอมปนเนื้อม้าลงในอาหารจำพวกเนื้อวัวเริ่มลุกลามสู่หลายประเทศในยุโรป วานนี้(9) โดยล่าสุดรัฐบาลโรมาเนียได้สั่งสอบที่มาของเนื้อวัวที่ส่งออกไปต่างแดน หลังโรงฆ่าสัตว์โรมาเนียถูกกล่าวหาว่าพัวพันการจำหน่ายเนื้อม้าในคราบเนื้อวัว
บริษัทอาหารแช่แข็งยักษ์ใหญ่ Findus เป็นเจ้าแรกที่ออกมาดำเนินคดีเรื่องนี้ พร้อมชี้ว่าการมีเนื้อม้าปนอยู่ในอาหารที่ทำจากเนื้อวัวไม่น่าจะใช่เหตุบังเอิญ ขณะที่บริษัทแปรรูปเนื้อวัวในฝรั่งเศสก็ประกาศจะดำเนินคดีกับซัพพลายเออร์ในโรมาเนียซึ่งจัดส่งเนื้อวัวให้กับบริษัทด้วย
รัฐบาลอังกฤษแถลงเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า ลาซานญาเนื้อแช่แข็งของ Findus มีเนื้อม้าปะปนอยู่สูงสุดถึง 100% ขณะเดียวกันก็มีการพบเนื้อม้าวางจำหน่ายตามชั้นวางอาหารสดทั้งในฝรั่งเศสและสวีเดน
การบริโภคเนื้อม้าถือเป็นสิ่งต้องห้ามในวัฒนธรรมอังกฤษ โดยวานนี้(9) รัฐมนตรีกระทรวงอาหารได้เรียกประชุมผู้ค้ารายย่อยและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เพื่อหารือเกี่ยวกับวิกฤตเนื้อม้าที่กำลังสร้างความกังวลในสังคมเมืองผู้ดี
“นี่เป็นการสมคบคิดเพื่อหลอกลวงประชาชน การขายผลิตภัณฑ์เนื้อวัวที่มีเนื้อม้าปนอยู่ด้วยถือเป็นการฉ้อโกงอย่างหนึ่ง” โอเวน พาเทอร์สัน รัฐมนตรีกระทรวงสิ่งแวดล้อม, อาหาร และกิจการชนบท แถลงหลังจบประชุม
ลาซานญาเนื้อของ Findus และอาหารประเภทเนื้ออีก 2 ชนิดที่วางจำหน่ายในเครือซุปเปอร์มาร์เก็ต Aldi ถูกตรวจพบว่ามีเนื้อม้าปะปนอยู่ถึง 100%
อาหารดังกล่าวผลิตโดยบริษัท Comigel ในฝรั่งเศส ซึ่งใช้เนื้อที่จัดส่งมาจากบริษัทแปรรูปเนื้อวัวSpanghero ในเมืองน้ำหอมเช่นกัน ขณะที่ Spanghero ก็อ้างว่า ได้เนื้อวัวมาจากโรงฆ่าสัตว์ในโรมาเนียอีกต่อหนึ่ง
กระทรวงเกษตรโรมาเนียระบุวานนี้(9)ว่า จะเร่งตรวจสอบการจัดส่งเนื้อวัวไปยังฝรั่งเศส หลังได้รับแจ้งว่ามีโรงฆ่าสัตว์โรมาเนีย 2 แห่งพัวพันข่าวการนำเนื้อม้ามาปลอมเป็นเนื้อวัว
“หากพบว่าเนื้อปลอมดังกล่าวถูกส่งไปจากโรมาเนีย และมีการละเมิดกฎหมายจริง ผู้กระทำผิดจะถูกลงโทษอย่างแน่นอน” กระทรวงเกษตรโรมาเนียระบุในแถลงการณ์
แม้ชาวยุโรปบางภูมิภาคจะนิยมรับประทานเนื้อม้า โดยถือว่าสะอาดและดีต่อสุขภาพมากกว่าเนื้อวัว แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารเตือนว่า เนื้อม้าที่แปรรูปโดยผิดกฎหมายอาจมีสารปนเปื้อนที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย เช่น ฟีนิลบิวตาโซน ซึ่งใช้เป็นยาระงับปวดในสัตว์ และอาจก่อให้เกิดโรคเลือดในมนุษย์