เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ - ปัจจุบันเศรษฐีชาวจีนนิยมนำเงินไปลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ในต่างประเทศ และการลงทุนในอังกฤษ สหรัฐฯ แคนาดา ออสเตรเลีย และสิงคโปร์ ก็ให้ผลตอบแทน ที่คุ้มค่า ทว่ากระแสการลงทุนนี้ก็กำลังสร้างความขุ่นเคืองใจ ไร้ความสุขให้กับผู้คนในท้องถิ่นมากขึ้นทุกที
คนขับรถแท็กซี่ในเมืองโตรอนโตผู้หนึ่งจำได้ว่า เขาเคยเห็นพวกผู้ชายหน้าตาดูเหมือนคนเอเชียยืนเรียงรายกันอยู่กลางสายฝนตรงด้านนอกโครงการอสังหาริมทรัพย์แห่งใหม่ ก่อนหน้าพิธีเปิดอย่างใหญ่โตในอีก 2 วัน
เขาเตร่เข้าไปถามด้วยความอยากรู้
แล้วก็ทราบว่า หลายคนเป็นนักศึกษาชาวจีน มายืนรอผู้สนใจจะซื้ออสังหาริมทรัพย์ในโครงการ และพร้อมวางเงินสดจำนวนหนึ่งในทันที ส่วนคนอื่น ๆ ที่คนขับรถแท็กซี่ผู้นี้พยายามพูดคุยด้วย ปรากฏว่าเป็นคนเชื้อสายจีน ซึ่งพูดภาษาอังกฤษไม่ได้สักคำเดียว
“มันเป็นเรื่องตื่นเต้นที่สุดเท่าที่ผมเคยพบมาในชีวิตนี้เลยล่ะครับ” เขาเล่าเรื่องนี้ให้นาย จู เหว่ยจวิ้น ซึ่งเป็นลูกค้าฟัง และนายจูเองก็เป็นนักลงทุนในตลาดอสังหาริมทรัพย์ในแคนาดาด้วยเหมือนกัน
มิใข่ผู้คนในเมืองโตรอนโตเท่านั้น ที่รู้สึกได้ถึงกระแสการเข้ามาลงทุนของเศรษฐีเลือดมังกร
รายงานของนิตยสาร Oriental Outlook ของจีนระบุว่า โครงการที่อยู่อาศัย ซึ่งมี 150 หน่วยในเมืองนิวเวสต์มินส์เตอร์ของแคนาดาขายเกลี้ยงภายในเวลาแค่ 2 ชั่วโมงของการเปิดจำหน่าย และผู้ซื้อถึงร้อยละ 40 เป็นชาวจีน
รายงานยังระบุว่า นายจูและชาวจีนคนอื่น ๆ ซึ่งซื้ออสังหาริมทรัพย์ในต่างแดนก็รับรู้เหมือนว่า ผู้คนที่นั่นเริ่มไม่ชอบใจมากขึ้นเรื่อย ๆ
“ตอนนี้คนในท้องถิ่นตำหนิชาวจีนว่า เป็นคนทำให้ราคาบ้านที่อยู่อาศัยพุ่งทะยาน” นายจูกล่าว
จากรายงานของนิตยสาร Oriental Outlook นั้น จำนวนเศรษฐีแดนมังกร ที่ไปลงทุนในตลาดอสังหาริมทรัพย์ต่างประเทศเพิ่มขึ้นอย่างมาก ภายหลังจากปี 2551 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ หลายชาติกำลังเดือดร้อนอย่างหนักจากวิกฤตตลาดบ้านที่อยู่อาศัย
เศรษฐีเหล่านี้มองหาแหล่งลงทุน ที่ให้ผลตอบแทนสูง และชอบเข้าไปลงทุนในประเทศอย่างอังกฤษ แคนาดา สหรัฐฯ ออสเตรเลีย และสิงค์โปร
ราคาอสังหาริมทรัพย์ในย่านธุรกิจของกรุงลอนดอนพุ่งขึ้นร้อยละ 14.7 ในช่วงปี 2552-2553 ส่วนราคาในเมืองแวนคูเว่อร์ ก็ปรับขึ้น 3-4 เท่าตัวจากเมื่อสิบปีก่อน ขณะที่ราคาในเมืองโตรอนโต้เพิ่มร้อยละ 7 ต่อปีในช่วง 6 ปีที่ผ่านมา และราคาในออสเตรเลียก็สูงขึ้นเป็น 2 เท่าตัวในทุก ๆ 7 ปี
“ราคาอสังหาริมทรัพย์ในทำเลที่ผู้ซื้อชาวจีนชอบนั้นมันก็เพิ่มขึ้นอยู่แล้วตามปกติ แม้ราคาในย่านอื่น ๆ ในประเทศเดียวกันกำลังตกลงก็ตาม” นายหลี่ ชุนเต่าแห่งบริษัทที่ปรึกษาด้านการลงทุน ซึ่งตั้งอยู่ในสหรัฐฯ อธิบาย
นายเซิง หมิงฉาง ชาวจีน ซึ่งลงทุนด้วยการซื้อบ้านในประเทศต่างๆ เล่าว่า คนขับแท็กซี่จะมีท่าทางสงสัยและไม่เป็นมิตรขึ้นมาทันที เมื่อเขาบอกว่า เป็นคนจีน
นักลงทุนผู้นี้รับรู้ว่า ผู้คนในท้องถิ่นมากมายไม่รู้สึกซาบซึ้งในบุญคุณ ที่คนจีนมาทำให้อสังหาริมทรัพย์ของพวกเขาราคาดีขึ้น เนื่องจากการเข้าซื้อของชาวต่างชาติทำให้ราคาเพิ่มสูง และตอนนี้คนท้องถิ่นต้องจ่ายภาษีอสังหาริมทรัพย์สูงขึ้น ซึ่งหมายถึงการลดรายจ่ายสำหรับการเที่ยวพักผ่อนลง
“นักการเมืองและหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นรีบชี้ทันทีว่า ต้องโทษคนจีน” นายเซิงกล่าว.นตอนท้าย