สมาคมนายหน้าอสังหาฯ ปรับลุคใหม่ เปลี่ยนชื่อองค์กร “สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ไทย” ย้ำภาพนายหน้าสัญชาติไทย สร้างการรับรู้ เข้าถึง และยอมรับ เป็นกันเองกับลูกค้าคนไทยสู้นายหน้าต่างชาติ หลังเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) เตือนนายหน้าเตรียมพร้อมรับมือต่างชาติบุกตลาดอสังหาฯ ชี้ราคาบ้าน และที่ดินในประเทศราคาถูกเมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มสมชิกในอาเซียน
นายแพทย์สมศักดิ์ มุนีพีระกุล นายกสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ไทย กล่าวว่า ที่ประชุมใหญ่ของสมาคมฯ มีมติเห็นชอบให้มีการเปลี่ยนชื่อสมาคมฯ โดยใช้ชื่อว่า “สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ไทย” (Thai Real Estate Broker Association) เพื่อเป็นการรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) และอำนวยความสะดวกแก่นายหน้าที่เป็นสมาชิกของสมาคมฯ สร้างการรับรู้ เข้าถึง และยอมรับ เป็นกันเองกับลูกค้าคนไทยที่ต้องแข่งขัน และทำงานร่วมกับนายหน้าอสังหาฯ ต่างชาติที่ทำงานในประเทศไทย และต้องไปทำงานในประเทศต่างๆ ในอาเซียน ซึ่งจะสามารถชี้ชัด และระบุได้อย่างชัดเจนว่าเป็นนายหน้าจากประเทศไทย
“การเปลี่ยนชื่อเป็นสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ไทยไม่ได้มีส่วนช่วยนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ทำงานง่ายขึ้นหลังจากเปิด AEC แต่นายหน้าทุกคนจะต้องปรับกลยุทธ์การทำงาน และพัฒนาความรู้เพื่อรับมือกับการแข่งขันของตลาดอสังหาริมทรัพย์ในอนาคต เนื่องจากจะมีนายหน้าสัญชาติต่างๆ ในอาเซียนเข้ามาทำธุรกิจในประเทศไทยมากขึ้น ที่ผ่านมา สมาคมฯ ได้จัดอบรมหลักสูตรต่างๆ เช่น หลักสูตรวิชาการบริหารธุรกิจนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งกระทรวงศึกษาธิการให้การรับรอง เพื่อเพิ่มทักษะ และศักยภาพของนายหน้าไทยให้สามารถทำงานท่ามกลางการแข่งขันของตลาดได้ ที่สำคัญ จะต้องมีการเรียนภาษาต่างประเทศ ทั้งภาษาอังกฤษ และภาษาท้องถิ่นของประเทศที่เราจะไปทำงาน เนื่องจากที่ผ่านมา นายหน้าของเวียดนาม มาเลเซีย และสิงคโปร์ได้ให้ความสำคัญกับการเรียนภาษาไทยมากขึ้น ดังนั้น นายหน้าไทยจะต้องเตรียมความพร้อมด้านภาษาสำหรับการสื่อสารด้วย” นายแพทย์สมศักดิ์กล่าว
สำหรับจุดอ่อน และข้อเสียเปรียบของนายหน้าไทยในปัจจุบัน นายหน้าอสังหาริมทรัพย์ไทยยังไม่มี พ.ร.บ. ออกมาบังคับใช้ ในขณะที่ชาติอื่นๆ ในอาเซียนได้ประกาศใช้กฎหมายดังกล่าวมานานแล้ว ดังนั้น หากนายหน้าไทยจะเดินทางไปทำงานที่มาเลเซียหรือสิงคโปร์จะต้องไปสอบเพื่อขอไลเซนส์จากประเทศนั้นๆ ในขณะที่นายหน้าต่างชาติสามารถมาทำงานเมืองไทยได้เลย เนื่องจากมีไลเซนส์จากประเทศของเขาแล้ว ซึ่งจะทำให้นายหน้าไทยเสียเปรียบเพราะจะส่งผลถึงความน่าเชื่อถือ และความไว้วางใจจากผู้บริโภค ดังนั้น ภาครัฐบาลจะต้องเห็นความสำคัญของกฎหมายดังกล่าว เนื่องจากเกี่ยวข้องกับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่มีมูลค่ามหาศาล ซึ่งสามารถสร้างงาน และสามารถกำหนดทิศทางเศรษฐกิจของประเทศ
“มั่นใจว่าหลังจากเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน จะมีนายหน้าชาติอื่นๆ เดินทางเข้ามาทำงานในประเทศไทยมากขึ้น เนื่องจากไทยเป็นศูนย์กลางที่อยู่ในความสนใจจากประชาชนอาเซียน ที่สำคัญ ราคาอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยยังถูกกว่าชาติอื่นๆ เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศในภูมิภาคเดียวกัน จึงเป็นปัจจัยสำคัญที่จะดึงดูดการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ และนายหน้าอสังหาริมทรัพย์จากต่างชาติจะเข้ามาแข่งขันกับคนไทยมากขึ้น หากคนไทยไม่ปรับตัวก็จะไม่สามารถแข่งขันในตลาดได้” นายแพทย์สมศักดิ์กล่าว