เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ - เศรษฐกิจของสองมหาอำนาจ มังกรจีนและสหรัฐฯ "พึ่งพากันและมิอาจแยกออกจากกันได้" รองนายกรัฐมนตรีหวัง ฉีซานเผยในกรุงวอชิงตันเมื่อวันพุธ (19 ธ.ค.) หลังจากการประชุมประจำปี คณะกรรมาธิการด้านธุรกิจและพาณิชย์จีน-สหรัฐฯ
ประเด็นด้านการค้าหลายสิบเรื่องได้รับการแก้ไขในระหว่างสองวันของการเจรจาฯ ซึ่งไม่ได้มีผลลัพธ์ใหญ่ ๆ ให้เป็นที่ประจักษ์ แต่ก็ได้สร้างความสัมพันธ์ในเชิงบวกระหว่างสองชาติ หลังจากประธานาธิบดีบารัก โอบามาได้รับการเลือกตั้งอีกครั้ง ฝ่ายจีนก็มีการเปลี่ยนอำนาจผู้นำไปเมื่อช่วงเดือนที่ผ่านมาเช่นกัน
หวัง ฉีซาน เผยว่า การฟื้นฟูเศรษฐกิจโลกในอีกห้าปีข้างหน้าจะค่อนข้างซบเซา ซึ่งจะทำให้สัมพันธภาพระหว่างจีน-สหรัฐฯ มีความสำคัญขึ้นมาในเวทีระหว่างประเทศ
"สองชาติของพวกเรา (จีน-สหรัฐ) จะต้องสานใยสัมพันธ์เศรษฐกิจให้เข้มแข็งขึ้น" หวังกล่าว "พวกเราได้เดินมาสู่ในระดับที่ต้องพึ่งพาอาศัยกันและไม่อาจแยกจากกันได้"
หลังจากการเจรจา นายเหยียน เสี่ยวหง รองประธานคณะกรรมการลิขสิทธิ์แห่งชาติเผยว่า รัฐบาลกลางและรัฐบาลท้องถิ่น ตลอดจนสถาบันด้านการเงินบนแผ่นดินใหญ่จะได้เร่งจัดการปัญหาใช้ซอฟต์แวร์เถื่อนให้เป็นของแท้ภายในปีหน้า บริษัทซอฟท์แวร์ของสหรัฐหลายแห่งเผยก่อนหน้านี้ว่า ปัญหาการละเมิดลิขสิทธิ์ในจีนทำให้บริษัทฯ สูญรายได้ไปปีละหลายพันล้านดอลลาร์
นายเฉิน เต๋อหมิง รัฐมนตรีพาณิชย์จีนเผยประเด็นที่แตกต่างกัน 24 เรื่องซึ่งครอบคลุมการเจรจาทั้งหมด สรุปความว่า ปักกิ่งต้องการเห็นการได้รับปฏิบัติที่เท่าเทียมและเป็นธรรมทางการค้าและการลงทุน
เฉินเผยว่า การเจรจาได้มีการยินยอมให้เกิดกระบวนการบางอย่างขึ้นก็จริง ทว่าจนขณะนี้จีนยังไม่เห็นมาตรการที่เป็นรูปเป็นร่างของฝั่งสหรัฐฯ ที่สะท้อนให้เห็นความรับผิดชอบหรือรักษาเกียรติของตัวเองในข้อสัญญาต่าง ๆ เลย
เมื่อปีที่ผ่านมา ความสัมพันธ์การค้าจีน-สหรัฐฯ ขรุขระพอสมควร เมื่อสหรัฐฯฟ้องจีนต่อองค์การการค้าโลก (WTO) พร้อมกับออกมาตรการตั้งกำแพงภาษีสินค้าส่งออกของจีน อันได้แก่ แผงพลังงานสุริยะ และกังหันลม
เมื่อเดือนต.ค.ที่ผ่านมา คณะกรรมการด้านความมั่นคงแห่งรัฐสภาสหรัฐฯ ได้เรียกร้องให้สหรัฐฯ ยุติการทำสัญญากับยักษ์ใหญ่เทเลคอมจีน 2 ราย คือ หัวเว่ยเทคโนโลยีส์ และ ซีทีอี คอร์ปอเรชั่น (ZTE) ด้วยเหตุผลความมั่นคงของชาติฯ ระบุว่าสองบริษัทดังกล่าวเป็นภัยคุกคาม คล้าย ๆ กับเมื่อครั้งปี 2548 ที่มะกันกังวลว่าบริษัทพลังงานน้ำมันซีนุคจีน (CNOOC) จะเข้ามาควบรวมกิจการของยูโนแคล
ในระหว่างการเจรจาบนโต๊ะอาหารค่ำกับบรรดาผู้บริหารธุรกิจทั้งมวล นายหวังก็ได้กล่าวว่า สองประธานาธิบดี ทั้งบารัก โอบามา และผู้นำสี จิ้นผิงของจีน เป็นคนจริง เคยกล่าวอะไรไว้ช่วงหาเสียงหรือก่อนหน้ารับตำแหน่ง จะต้องทำให้สำเร็จได้ดังวาจา
หวังเผยว่า จีนยังคงเดินหน้านโยบายปฏิรูปเศรษฐกิจต่อไป ขณะเดียวกันก็จะทำการสังเกตเรื่องกฎการค้า และปฏิบัติต่อบริษัทต่างชาติให้เป็นธรรมมากที่สุด
ทว่าหวังก็ได้ตอกกลับไปทันควันเมื่อฝ่ายสหรัฐฯตั้งคำถามเกี่ยวกับรัฐวิสาหกิจที่รัฐบาลจีนเป็นเจ้าของว่ามีสายสัมพันธ์กับพรรคคอมมิวนิสต์ หวังลั่นว่า "ปฏิเสธไม่ได้จริง ๆ ว่า อเมริกันบางคนก็ยังคงขาดความเข้าใจจีน และก็มักจะมีทัศนคติแบบเก่า ๆ ไม่ยอมเปลี่ยนแปลง"