เอเจนซี--ศูนย์ป้องกันและควบคุมโรคของจีน สถาบันวิทยาศาสตร์การแพทย์มหาวิทยาลัยเจ้อเจียง ศูนย์ป้องกันและควบคุมโรคประจำมณฑลหูหนันได้ร่วมกันแถลงข่าวเมื่อวันที่ 6 ธ.ค. รายงานผลการไต่สวนกรณีการทดลอง“ข้าวสีทอง” ซึ่งเป็นข้าวตัดแต่งพันธุกรรมหรือข้าวจีเอ็ม ที่ดำเนินการทดลองเมื่อเดือนมิ.ย. ปี 2551 ยืนยันว่ามีการทดลอง ข้าวสีทอง โดยเด็กนักเรียน อายุ 6-8 ขวบ จำนวน 25 คน ที่โรงเรียนประถมศึกษาแห่งตำบลเจียงโข่ว ได้ถูกลวงใช้เป็น “หนูทดลอง” กินข้าวสีทอง
การแถลงฯ ระบุว่า การทดลองผลผลิตตัดแต่งพันธุกรรม เป็นการฝ่าฝืนกฎหมาย หน่วยงานที่ริเริ่มการทดลองฯซึ่งส่งผลกระทบเชิงลบนี้ ได้ออกมาขออภัยต่อสาธารณะ พร้อมกันนี้ ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในการดำเนินการทดลองฯนี้ ถูกโยกย้ายแล้ว
สื่อจีนรายงานว่า เด็กที่บริโภคข้าวสีทองจำนวน 25 ราย จะได้รับค่าชดเชยจำนวน 80,000 หยวน หรือราว 4 แสนบาท
เรียกประชุมผู้ปกครอง เสนอจ่ายค่าชดเชย
กลุ่มผู้ปกครองของเด็กหลายคนเผยว่า รัฐบาลท้องถิ่นอำเภอเหิงหนันได้เรียกประชุมพวกเขาเมื่อวันที่ 30 พ.ย.ที่ผ่านมา เพื่อแจ้งผลการไต่สวนฯ ในการประชุมฯรองเลขาธิการแห่งคณะกรรมการบริหารท้องถิ่น ได้แจ้งว่า เด็กนักเรียน 25 คน ได้กินข้าวสีทอง ในการทดลองข้าวสีทองที่ดำเนินเมื่อวันที่ 2 มิ.ย. ปี 2551 ทั้งนี้ การทดลองนี้ ได้กำหนดกลุ่มทดลอง ได้แก่ เด็กนักเรียน 88 คน โดยเด็ก 63 คนนั้นไม่ได้บริโภค ส่วนเด็กอีก 25 คน ได้บริโภคข้าวสีทองไป 1 มื้อ
ด้านกลุ่มผู้ปกครองได้เผยอีกว่า ในการประชุมแจ้งผลการไต่สวนฯเมื่อวันที่ 30 พ.ย. รัฐบาลได้เสนอแผนการจ่ายค่าชดเชย ได้แก่ ครอบครัวของเด็กที่บริโภคข้าวสีทอง จะได้รับค่าชดเชยและค่าเสียหายทางจิตใจ 80,000 หยวน ส่วนครอบครัวของเด็กที่ไม่ได้บริโภค ได้รับค่าชดเชย 10,000 หยวน
อย่างไรก็ตามบรรดาเหล่าผู้ปกครองก็ยังได้ทำข้อตกลงเพิ่มเติมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่า ถ้าหากว่าวันข้างหน้าเด็กที่ได้บริโภคข้าวสีทองไป เกิดสุขภาพเสียหายเนื่องจากากรบริโภคข้าวสีทองนี้ รัฐบาลจะรับผิดชอบทั้งหมด
บรรดาเหล่าผู้ปกครองกล่าวว่า เมื่อปี 2008 ที่มีการทดสอบข้าวสีทองนั้น ตนเข้าใจว่าโรงเรียนให้เด็กบริโภคอาหารเสริม และหากรู้ว่าเป็นการทดสอบดังกล่าวนั้น ก็จะไม่ให้ลูกกิน
นางหลัว ผู้ปกครองเด็กที่บริโภคข้าวสีทองคนหนึ่ง บอกว่าเธอได้เซ็นชื่อในข้อเสนอการจ่ายค่าชดเชยกับเจ้าหน้าที่อำเภอเหิงหนันเมื่อวันที่ 1 ธ.ค. จำนวน 80,000 หยวน และได้รับเงินเมื่อวันที่ 7 ธ.ค. เรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้ รัฐบาลยังได้สัญญาการตรวจสุขภาพกลุ่มเด็กที่กินข้าวสีทอง
นางหลัวเล่าถึงตอนที่มีการทดลองฯ ว่าเธอจำได้ว่าตอนนั้นลูกสาวนำเอกสารจากโรงเรียนกลับบ้านมาให้เซ็น เอกสารแจ้งการให้เด็กบริโภคอาหารเพื่อสุขภาพ ตนไม่ได้อ่านให้ละเอียด แต่ที่แน่ๆ ในเอกสารไม่มีการกล่าวถึง การทดสอบข้าวสีทอง
นางหลัวกล่าวอีกว่า ตอนนั้นผู้ปกครองบางคนที่ไม่ได้เซ็นเอกสาร ก็จะมีคุณครูมาพบถึงบ้านและอธิบายให้ฟังถึงข้อดีต่างๆ ทำให้ผู้ปกครองยอมเซ็น
ไม่มีหลักฐานยืนยันว่าข้าวจีเอ็ม จะไม่ส่งผลร้ายต่อสุขภาพ
ตามที่สำนักข่าวซินหวาได้รายงานถึงผลกระทบของการบริโภคข้าวสีทองไปนั้น นายหู ไห่ปินนักวิจัยศูนย์ประเมินความเสี่ยงความปลอดภัยอาหารแห่งชาติกล่าวว่า จากการวิจัยเปรียบเทียบระหว่างข้าวทั่วไปและข้าวสีทอง พบว่าข้าวสีทองมีปริมาณของเบต้าแคโรทีนที่สูงกว่าข้าวทั่วไป ส่วนคุณค่าทางอาหารอื่นๆเหมือนข้าวทั่วไปทุกอย่าง ปัจจุบันยังไม่มีหลักฐานยืนยันว่า ข้าวสีทองจะส่งผลร้ายต่อร่างกาย แต่ก็ไม่หลักฐานยืนยันเช่นกันว่า เด็กอายุ 6-8 ขวบ ที่ได้บริโภคข้าวสีทอง 60 กรัม ไปครั้งหนึ่งนั้น จะไม่ส่งผลร้ายต่อร่างกาย
อิน ซื่ออานผู้รับผิดชอบหลักของการทดลองข้าวสีทองกล่าวว่า ตอนนั้นไม่ได้คิดอะไรมากมาย เพียงแค่ต้องการเร่งให้การทดลองเสร็จสิ้น ไม่คาดคิดว่าจะก่อให้เกิดความวุ่นวายมากขนาดนี้
จากที่ผู้เชี่ยวชาญชี้แจงว่า “ข้าวสีทอง”เป็นโครงการวิจัยด้านอาหารและการเกษตรร่วมกันระหว่างนานาชาติ จุดประสงค์หลักเพื่อปรับปรุงโภชนาการของเด็กและสตรีในพื้นที่ที่ยากจนในประเทศโลกที่สาม ลดสาเหตุการเกิดโรคที่มาจากการขาดวิตามิน A เช่นอาการทางสายตา ภูมิต้านทานต่ำและโรคอื่น ๆเป็นต้น จากเจตนาดีในการทดลองครั้งนี้กลับกลายเป็นการส่งผลร้ายต่อจิตใจของผู้ที่ถูกทดลอง เนื่องจากผู้ทำการทดลองละเมิดและปกปิดเนื้อหาและข้อเท็จจริงของการทดลอง
เซียว หมิงซี่ว์ นายกเทศมนตรีตำบลเจียงโข่ว อำเภอเหิงหนัน เมืองเหิงหยาง มณฑลหูหนัน ให้ความเห็นว่า การทดลองข้าวสีทองมีความผิดแต่ก็ไม่ได้มีผลร้ายแรงต่อสุขภาพของประชาชน แต่ในด้านการทดลองทางด้านวิทยาศาสตร์ การกระทำดังกล่าวมีความผิด และมีผลร้ายแรง เพราะขัดต่อข้อเท็จจริง และความเคร่งครัดต่อหลักทางด้านวิทยาศาสตร์
เผยจนท. หุงข้าวGM ที่อเมริกา ซุกข้าวนำเข้าจีน มาทดลองในเด็ก
เดือนส.ค. ปี 2555 วารสารคลินิกโภชนาการของสหรัฐอเมริกา ตีพิมพ์ผลงานวิจัยเรื่อง “เบต้าแคโรทีนในข้าวสารสีทองกับเบต้าแคโรทีนในอีฟนิ่งพริมโรส มีผลต่อการสร้างเสริมวิตามินเอในเด็กเหมือนกัน” ผลงานวิจัยฉบับนี้เป็นผลงานวิจัยของมหาวิทยาลัยทัฟ สหรัฐอเมริกา ศูนย์ป้องกันและควบคุมโรคมณฑลหูหนัน ศูนย์ป้องกันและควบคุมความปลอดภัยของอาหารและโภชนาการประเทศจีน และศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์มณฑลเจ้อเจียง องค์กรด้านสิ่งแวดล้อมระหว่างประเทศ ได้ประณามการทดลองใช้ข้าวตัดต่อทางพันธุกรรมกับเด็กที่มีอายุ 6-8 ขวบ
หลังจากนั้นกระทรวงสาธารณสุขและ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของมณฑลเจ้อเจียง มณฑลหูหนัน มอบหมายให้ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งมณฑลเจ้อเจียง ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์มณฑลเจ้อเจียง และศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งมณฑลหูหนัน ดำเนินการไต่สวนการทดลองวิจัยอย่างถี่ถ้วน
การวิจัยมีช่วงระยะเวลาตั้งแต่วันที่ 20 พ.ค.ถึง วันที่ 23 มิ.ย. 2551 ที่โรงเรียนประถมเจียงโข่ว เป็นการทดสอบในกลุ่มเด็กนักเรียน 80 คน แบ่งเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มนักเรียน 25 คน กินข้าวสีทองปริมาณ 60 กรัม เมื่อวันที่ 2 มิ.ย. ข้าวสารนี้นายทัง กวงเหวิน ได้หุงที่ประเทศสหรัฐอเมริกา และนำเข้ามาภายในประเทศจีน เมื่อวันที่ 29 พ.ค.โดยไม่ได้ผ่านการแจ้งขออนุญาต ต่อมาในวันที่ 2 มิ.ย. ก็นำมาอุ่นปนกับข้าวสีขาวให้กลุ่ม “หนูทดลอง” ที่เป็นเด็กนักเรียนทดลองกิน
จนท.ผู้เกี่ยวข้อง ถูกลงโทษอ่วม หมดอนาคต!
“ข้าวสีทอง” ที่ใช้ในการทดลองฯนี้ เป็นข้าวตัดแต่งพันธุกรรมที่นำเข้ามาจากต่างประเทศโดยไม่ได้รับอนุญาต ขัดต่อกฎข้อบังคับการควบคุมการข้ามสายพันธุ์พืช การทดลองดังกล่าวยังได้ปิดบังการใช้ข้าวสารข้ามสายพันธุ์ และไม่ได้แจ้งให้ผู้ปกครองทราบอย่างชัดเจน ถือเป็นการประพฤติผิดเนื่องจากขณะที่ทำการทดลองผู้อนุญาตให้ทำการทดลองปิดบังข้อมูล และให้ข้อมูลเท็จ เป็นการกระทำผิดอย่างร้ายแรง
ทั้งนี้ ตามกฎข้อบังคับในบทบัญญัติผู้ประกอบวิชาชีพ ข้อการลงโทษผู้ประพฤติโดยมิชอบในหน้าที่ของการดำเนินงานด้านวิทยาศาสตร์แห่งชาติ และแผนเทคโนโลยีแห่งประเทศจีน ระเบียบวินัยของพรรคคอมมิวนิสต์จีน สั่งลงโทษกลุ่มเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ นายอิน ซื่ออัน โดยเพิกถอนตำแหน่งผู้อำนวยการสถาบันโภชนาการอาหารแม่และเด็ก ลดตำแหน่งทางวิชาการ และไม่อนุญาตให้ทำงานวิจัยภายในสามปี เพิกถอนคุณสมบัติการเป็นอาจารย์ที่ปรึกษานักศึกษาปริญญาเอก และตำแหน่งหน้าที่ในพรรคคอมมิวนิสต์จีน
สำนักงานสาธารณสุขมณฑลเจ้อเจียง ยังสั่งลงโทษนายหวัง อิน โดยเพิกถอนตำแหน่งผู้อำนวยการกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์และเทคโนโลยีมณฑลเจ้อเจียง
สถาบันวิทยาศาสตร์การแพทย์ตัดสินลงโทษนายหวัง อิน โดยเพิกถอนตำแหน่งผู้อำนวยการสถาบันวิจัยโภชนาการและห้องปฏิบัติการสุขอนามัยอาหาร เพิกถอนคุณสมบัติผู้แนะนำผู้วิจัยขั้นสอง สถานภาพสมาชิกคณะกรรมการวิชาการและคณะกรรมการโรงพยาบาลคณะกรรมการจริยธรรมโรงพยาบาล และมีคำสั่งไม่อนุญาตให้เข้าร่วมการทำงานคณะลุกขุน พร้อมโดนคณะกรรมการสถาบันวิทยาศาสตร์การแพทย์มณฑลเจ้อเจียงภาคทัณฑ์
นายหู อี๋ว์หมิง ซึ่งเป็นผู้ดูแลศูนย์ควบคุมโรคมณฑลหูหนันที่อยู่ในสถานที่ทดลองวันนั้น มีพฤติกรรมละทิ้งหน้าที่ ถูกตัดสินเพิกถอนหน้าที่ผู้ช่วยผู้อำนวยการสถาบันป้องกันโรค ผู้อำนวยการกอง และภาคทัณฑ์ในหน้าที่ทั้งหมดในสถาบันการป้องกันโรคประจำมณฑลหูหนัน
ศูนย์ควบคุมโรคประเทศจีน สถาบันวิทยาศาสตร์การแพทย์มณฑลเจ้อเจียงและมณฑลหูหนันแถลงว่า นี่เป็นคำเตือน และเพื่อเป็นการเสริมสร้างการกำกับดูแลของกระบวนการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ปรับปรุงกฎเกณฑ์ภายในและข้อบังคับ เพิ่มความเข้มงวดทางกฎหมาย ความซื่อสัตย์ในการวิจัย การศึกษาทางด้านจรรยาบรรณวิชาชีพและจริยธรรมทางการแพทย์.