เอเอฟพี-กรุงปักกิ่งไฟเขียวผู้โดยสารเที่ยวบินจาก 45 ประเทศ สามารถอยู่เที่ยวในปักกิ่งได้ 72 ชั่วโมง ระหว่างต่อเครื่องไปยังประเทศอื่น โดยมาตรการดังกล่าวมีผลบังคับใช้เดือนหน้า (ม.ค. 56) เป็นต้นไป การท่องเที่ยวประจำกรุงปักกิ่ง แถลง
การท่องเที่ยวกรุงปักกิ่ง(Beijing Tourism Administration)แถลงผ่านเว็บไซต์ขององค์กรเมื่อวันพฤหัสฯ (6 ม.ค.) ระบุมาตรการดังกล่าวจะช่วยส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวอย่างเอกอุ ทั้งช่วยเร่งผลักดันให้ปักกิ่งเป็นเมืองสากล และขยายการติดต่อกับประเทศต่างๆ
มาตรการดังกล่าวมีผลบังคับใช้เพียงกลุ่มผู้โดยสารที่เดินทางมาต่อเครื่องไปยังประเทศที่สาม ไม่ครอบคลุมเที่ยวบินที่กลับมายังปักกิ่ง (return flight) และบังคับใช้ในกลุ่มผู้โดยสารสัญชาติ สหรัฐฯ แคนาดา สมาชิกในอียูทั้งหมด บราซิล อาร์เจนติน่า ออสเตรเลีย เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น และสหรัฐอาหรับ เอมิเรตส์
ในคำแถลงได้ระบุยกเว้นสัญชาตินอร์เวย์ ซึ่งกำลังบาดหมางกับจีน สืบเนื่องจากกรณีที่คณะกรรมการตัดสินรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพแห่งนอรเวย์ ได้ตัดสินมอบรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพปี 2553 ให้แก่ หลิว เสี่ยวปัว ผู้มีความเห็นไม่ลงรอยกับรัฐบาลและต้องโทษจำคุกอยู่ในจีน สำนักข่าวเอเอฟพี ระบุว่า อย่างไรก็ตาม ก็ไม่เป็นที่แน่ชัดว่า การมอบรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพแก่หลิว เสี่ยวปัว เป็นสาเหตุที่ปักกิ่งตัดสัญชาตินอร์เวย์ออกไปจากการดำเนินนโยบายวีซ่าใหม่นี้
การดำเนินนโยบายวีซ่าใหม่ จะเริ่มวันที่ 1 ม.ค. 2556 อนุญาตชาวต่างชาติจาก 45 ประเทศ นำเอกสารวีซ่า และตั๋วเครื่องบินไปยังประเทศที่สาม มาแสดงแก่เจ้าหน้าที่ระหว่างต่อเครื่อง ก็สามารถอาศัยในปักกิ่งได้ 72 ชั่วโมง หรือ 3 วัน
สื่อจีนไชน่า เดลี่ อ้างคำกล่าวของ เกา หวาต้า รองผู้อำนวยการสำนักงานตรวจสอบการเข้า-ออกเมืองของปักกิ่ง ระบุ ผู้เดินทาง จะถูก “ลงโทษ” หากเดินทางออกจากปักกิ่งหรือฝ่าฝืนกฏ โดยจะกลายเป็นบุคคล “ต้องห้าม” ไปตลอดชีวิต
นครเซี่ยงไฮ้ ศูนย์กลางการเงินของจีน ได้อนุญาตให้ชาวต่างบางกลุ่ม ที่มาต่อเครื่อง สามารถอยู่ในเมืองได้ 48 ชั่วโมง โดยครอบคลุมสัญชาติ สหรัฐฯ กลุ่มชาติยุโรป ญี่ปุน เกาหลีใต้ และสิงคโปร์
ส่วนผู้เดินทางไปยังเขตต่างๆของประเทศจีน ยังคงสามารถอยู่ได้เพียงบริเวณสนามบินเท่านั้น
ทั้งนี้ ข้อมูลของ Airports Council International ระบุ สนามบินนานาชาติปักกิ่ง เป็นสนามบินที่คับคั่งเป็นอันดับสองของโลก ต้องรับรองผู้โดยสาร 47 ล้านคนในช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้.
