เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสท์/เอเยนซี--กระทรวงกลาโหมญี่ปุ่นในกรุงโตเกียว เผยว่า ช่วงเช้าวันนี้ (16 ต.ค.) พบเรือจีน 7 ลำ แล่นอยู่ใกล้กับบริเวณน่านน้ำเกาะของญี่ปุ่น และกำลังมุ่งหน้าไปเกาะเตี้ยวอี๋ว์ ซึ่งถือเป็นการกระพือความขัดแย้งกรณีพิพาทของทั้งสองประเทศ
สื่อญี่ปุ่นรายงาน รายงาน เมื่อเวลา 07.00 น. วันนี้ เครื่องบินญี่ปุ่นสำรวจพบเรือรบจีน 7 ลำ แล่นเข้าน่านน้ำเกาะโยนากูนิ (ซึ่งเป็นเกาะที่ไม่มีผู้คนอยู่อาศัย และเป็นที่ยอมรับระดับนานาชาติว่าเป็นของญี่ปุ่น) ห่างออกไปทางตะวันออกเฉียงใต้ราว 49 กิโลเมตร
โฆษกกระทรวงกลาโหมญี่ปุ่น กล่าวว่า ในบรรดาเรือรบทั้ง 7 ลำ แบ่งเป็น เรือพิฆาต 2 ลำ ซึ่งอย่างน้อย 1 ลำ บรรทุกขีปนาวุธ เรือฟริเกต 2 ลำ เรือกู้ภัยเรือดำน้ำ 2 ลำ และเรือขนเสบียงอีก 1 ลำ “พวกเขากำลังมุ่งหน้าไปทางเหนือ จากมหาสมุทรแปซิฟิกไปยังทะเลจีนตะวันออก และอยู่ในน่านน้ำประชิดห่างออกไปจากเขตน่านน้ำเกาะนากาโนะคามิชิมะ ราว 44 กิโลเมตร”
ซาโตชิ โมริโมโต้ รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ว่า “ในตอนนี้ เรายังไม่เห็นการกระทำใดๆ อย่างเฮลิคอปเตอร์บินจากเรือรบ และมุ่งหน้าสู่ดินแดนหรือเรือของเรา ในบริเวณน่านน้ำอธิปไตย ทางเรายังไม่แน่ชัดนักว่าเรือเหล่านี้จะมุ่งหน้าไปทางใด แต่คาดว่าไม่น่าจะแล่นเข้ามาใกล้บริเวณน่านน้ำเกาะเตี้ยวอี๋ว์ ซึ่งขณะนี้ เรือจีนอยู่ห่างจากเกาะฯ ถึง 200 กิโลเมตร"
"อย่างไรก็ดี เราก็ได้แจ้งเตือนอย่างต่อเนื่อง และเครื่องบินและเรือยังคงลาดตระเวนต่อไปเช่นกัน รวมทั้ง เฝ้าระวังและเก็บข้อมูลความเคลื่อนไหวของเรือรบจีนอย่างละเอียด" โมริโมโต้กล่าวเสริม
ฐานทัพเรือจีน ถูกโอบล้อมด้วยเกาะโอกินาวาของญี่ปุ่น และจำเป็นต้องแล่นเข้าใกล้เกาะฯ เพื่อที่จะออกจากทะเลจีนตะวันออกเข้าไปสู่มหาสมุทรแปซิฟิก อย่างไรก็ดี ยังมีช่องแคบระหว่างเกาะ ซึ่งเรือขนาดใหญ่สามารถแล่นห่างจากพื้นที่ประชิดของญี่ปุ่น ซึ่งห่างออกไปจากเขตน่านน้ำราว 12 ไมล์ทะเล (ราว 22 กิโลเมตร)
ภายใต้อนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยกฎหมายทะเล ปี 2525 (United Nations Convention on the Law of the Sea: UNCLOS) ที่ทั้งจีนและญี่ปุ่นได้ลงนามร่วม ระบุไว้ว่า เรือต่างชาติ รวมทั้งเรือทางทหาร มีสิทธิโดยชอบในการใช้พื้นที่ประชิด (contiguous zone) โดย UNCLOS ระบุอีกว่า รัฐชายฝั่งอาจดำเนินการควบคุมที่จำเป็น เพื่อป้องกันการฝ่าฝืนกฎหมายและข้อบังคับเกี่ยวกับศุลกากร การคลัง การเข้าเมือง หรือการสุขาภิบาล ภายในอาณาเขตหรือทะเลอาณาเขตของตน (ข้อมูลจากเว็บไซต์ mrpolicy.trf.or.th)
เมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา เรือตรวจการณ์และเรือประมงจีน แล่นเข้ามาใกล้บริเวณน่านน้ำเกาะพิพาทอย่างต่อเนื่อง แต่ยังไม่พบเห็นกองกำลังทหารแต่อย่างใด ทว่า ก่อนหน้านี้ ระบุว่า ญี่ปุ่นและสหรัฐฯ กำลังวางแผนร่วมฝึกซ้อมทางทหาร เพื่อจำลองการชิงเกาะกลับคืนจากกำลังทหารของต่างชาติ ซึ่งจะเริ่มในต้นเดือนหน้า (พ.ย.) บนเกาะไร้ผู้คนในโอกินาวา
การประกาศของกระทรวงกลาโหมมีขึ้นหลังจากข้อพิพาทกรณีเกาะเตี้ยวอี๋ว์ระหว่างจีน-ญี่ปุ่นเริ่มสงบลง นับตั้งแต่ความไม่ลงรอยรุนแรงมากขึ้นช่วงเดือนส.ค. และก.ย.ที่ผ่านมา เกิดเป็นข้อพิพาทระดับชาติจากทั้งสองประเทศ ประชาชนเดินขบวนในเมืองใหญ่ของจีน ทำลายบริษัท สำนักงาน ห้างสรรพสินค้า ร้านค้าของชาวญี่ปุ่น จนทำให้ต้องปิดทำการชั่วคราว
นอกจากนี้ การค้าระหว่างจีนและญี่ปุ่นซึ่งมีมูลค่าสูงถึง 300,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อปีที่แล้ว (2554) ได้รับผลกระทบอย่างหนัก วันนี้ (16 ต.ค.) ผู้ผลิตค่ายรถยนต์โตโยต้า รายงานว่ากำลังวางแผนปิดโรงงานในจีนชั่วคราว เนื่องจากความต้องการสินค้าญี่ปุ่นลดฮวบ
กระแสพิพาทกรรมสิทธิเหนือหมู่เกาะเตี้ยวอี๋ว์ระหว่างจีนและญี่ปุน เริ่มคุกรุ่นขึ้นเมื่อญี่ปุนลงนามซื้อเกาะ 3 แห่งในบริเวณหมู่เกาะเตี้ยวอี๋ว์ ที่มีทั้งหมด 5 เกาะ ทำให้เกิดการประท้วงต่อต้านญี่ปุ่นขยายวงกว้างในหลายเมืองใหญ่ของจีน กินเวลากว่า 8 วัน จนเมื่อวันที่ 20 ก.ย. การประท้วงเริ่มคลี่คลาย
เกาะเตี้ยวอี๋ว์ตั้งอยู่ในทะเลจีนตะวันออก บริเวณน่านน้ำเกาะฯ เป็นเส้นทางเดินเรือสำคัญทางยุทธศาสตร์ และยังเป็นแหล่งทรัพยากรน้ำมันและก๊าซธรรมชาติมหาศาล
ฝ่ายจีนอ้างอธิปไตยเหนือเกาะฯ มาตั้งแต่ราชวงศ์หมิง (พ.ศ. 1911) อย่างไรก็ตาม เกาะฯ ดังกล่าวเป็นที่ยอมรับในเวทีสากลว่า เป็นของญี่ปุ่นที่ได้ผนวกรวมเข้าไปในปีพ.ศ. 2438 ทำให้จีนและญี่ปุ่นพิพาทกรรมสิทธิเหนือเกาะฯ นี้มาจนถึงปัจจุบัน
ภาพเรือรบที่เครื่องบินทหารของญี่ปุ่นสามารถจับภาพได้ ซึ่งเป็นเรือที่กำลังมุ่งหน้าสู่เกาะเตี้ยวอี๋ว์ เมื่อวันที่ 16 ต.ค. (ภาพเอเยนซี)