เอเยนซี - กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ตั้งอัตราภาษีนำเข้า ซึ่งเป็นมาตรการตอบโต้การทุ่มตลาด และตอบโต้การรับเงินอุดหนุนรัฐฯ ของผู้ผลิตแผงพลังงานแสงอาทิตย์ ด้านผู้ผลิตฯ ไม่หวั่นไหว รอชี้ขาดการตัดสินสุดท้ายในเดือน พ.ย.
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ได้แถลง (10 ต.ค.) กำหนดอัตราภาษีนำเข้า เพื่อตอบโต้การทุ่มตลาด (Anti-dumping: AD) และตอบโต้การอุดหนุนจากรัฐฯ (Countervailing Duty: CVD) ในกลุ่มสินค้าอุปกรณ์พลังงานแสงอาทิตย์ (Crystalline silicon photovoltaic cells) ที่นำเข้าจากจีน โดยภาษีตอบโต้การทุ่มตลาด มีอัตราภาษีนำเข้าระหว่างร้อยละ 18.32 - 249.96 ในส่วนของภาษีตอบโต้การอุดหนุนฯ กระทรวงพาณิชย์ได้กำหนดให้เรียกเก็บในอัตราระหว่าง ร้อยละ 14.78 - 15.97
สื่อต่างประเทศรายงาน (11 ต.ค.) กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ แถลงว่า ผู้ผลิตและผู้ส่งออกและจัดจำหน่ายโซลาเซลล์ของจีนในตลาดสหรัฐฯ ได้ขายสินค้าในราคาต่ำกว่าสินค้าประเภทเดียวกัน และยังมีส่วนร่วมในการค้าอย่างไม่เป็นธรรม โดยใช้งบประมาณรัฐอุดหนุนต้นทุนการผลิตในประเทศ เพื่อให้สินค้าส่งออกมีราคาถูก (subsidy) ซึ่งขัดต่อหลักการค้าเสรี
รายงานข่าวกล่าวว่า ก่อนหน้านี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เริ่มการสอบสวนการทุ่มตลาดเมื่อเดือน พ.ย. 2554 หลังจากมีการยื่นเรื่องร้องเรียนจากกลุ่มผู้ผลิตของสหรัฐฯ โดยการนำของบริษัทโซลาร์เวิลด์อินดัสทรีส์อเมริกา (SolarWorld Industries American Inc.) ซึ่งเป็นบริษัทลูกของโซลาร์เวิลด์ของเยอรมนี ด้านรัฐบาลจีนก็ตอบโต้ด้วยการเปิดการสอบสวนเช่นว่า การสนับสนุนบริษัทผู้ผลิตเทคโนโลยีพลังงานลม แสงอาทิตย์ และอื่นๆ ของรัฐบาลสหรัฐฯ เข้าข่ายเป็นการสร้างกำแพงการค้าหรือไม่
ด้านกระทรวงพาณิชย์จีน นายเสิ่น ตั้นหยาง โฆษกกระทรวงฯ กล่าวว่า หน่วยงานฯ ของสหรัฐฯ ไม่ได้รับฟังเหตุผล ข้อมูลและข้อเท็จจริงที่ทางการจีนให้ นอกจากนี้ การตัดสินใจของสหรัฐฯ ยังไม่ได้สนับสนุนวาระโลก ในการแก้ปัญหาโลกร้อน ความมั่นคงทางสิ่งแวดล้อม
โฆษกกระทรวงฯ ยังได้เรียกร้องให้สหรัฐฯ ทบทวนมาตรการต่างๆ ในทางที่จะช่วยให้ความร่วมมือฯ และการบุกเบิกพัฒนาอุตสาหกรรมพลังงานสะอาดนี้พัฒนาได้ต่อไป
สำหรับบรรดาผู้ผลิตจีนนั้น พบว่ากำหนดภาษีเพื่อตอบโต้การรับเงินอุดหนุนฯ ที่ตั้งขึ้นนี้ สูงขึ้นเป็น 3 เท่า ขณะที่อัตราภาษีนำเข้าฯ ที่กำหนดเพื่อตอบโต้การทุ่มตลาดที่ออกมานี้ ต่ำกว่าที่ประกาศไว้ เมื่อเดือน พ.ค. ที่ผ่านมา โดยจะเรียกเก็บในอัตราร้อยละ 31.78 กับบริษัท ซันเทค พาวเวอร์ โฮลดิงส์ (Suntech Power Holdings Co Ltd) และเก็บที่อัตราร้อยละ 18.32 กับบริษัท ทรินา โซลาร์ (Trina Solar Ltd) ซึ่งอาจจะเริ่มมีผลบังคับใช้ในเดือนพ.ย.นี้ ขณะที่ อีก 59 บริษัท จะเก็บภาษีที่อัตราร้อยละ 25.96 และบริษัทอื่นๆ ที่อัตราร้อยละ 249.96
คณะกรรมาธิการการค้าระหว่างประเทศ (The US International Trade Commission, ITC) มีกำหนดจะลงความเห็นชี้ขาดในเรื่องนี้ ภายในวันที่ 23 พฤศจิกายนนี้ ซึ่งถ้าหากสอบสวนพบว่าสินค้าจากจีนสร้างผลเสียหายให้กับอุตสาหกรรมและผู้ผลิตสหรัฐฯ จริง ก็จะได้ประกาศใช้ฯ แต่ถ้าหากผลสอบสวนสุดท้าย พบว่าสินค้าจากจีนไม่ได้เป็นภัยคุกคามอุตสาหกรรมฯ กระบวนการสอบสวนฯ ก็จะสิ้นสุดลง
เกา จื่อฟาน ประธานฯ ทรินา โซลาร์ เอเนอร์จีย์ (Trina Solar Energy) กล่าวว่ากำลังพิจารณว่า จำเป็นต้องอุทธรณ์ต่อการตัดสินชี้ขาดของกระทรวงพาณิชย์ สหรัฐฯ หรือ คณะกรรมาธิการการค้าระหว่างประเทศ (ไอซีที) หรือไม่ต่อไป และว่าแม้จะไม่เห็นด้วยการข้อสรุปการสอบสวน แต่ก็จะยังเคารพและสนใจที่การตัดสินชี้ขาดครั้งสุดท้ายของไอซีที ขณะเดียวกันในฐานะของผู้ผลิต จะยังคงต้องเดินหน้าพัฒนาเทคโนโลยี นวัตกรรมใหม่เพื่อสร้างพลังงานสะอาดให้กับโลกต่อไป พร้อมกล่าวขอบคุณผู้สนับสนุนสินค้าชาวสหรัฐฯ และหุ้นส่วนคู่ค้าทั้งหลายของตน
บรรดานักวิเคราะห์เศรษฐกิจ ให้ความเห็นว่า จีนมีแนวทางชัดเจนในการให้ความสำคัญกับการผลิตที่ใช้เทคโนโลยีและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งรัฐสนับสนุนอย่างจริงจัง ขณะที่แนวทางการจัดเก็บภาษีสินค้านำเข้าสินค้าจีนของสหรัฐฯ กับแนวทางการกีดกันทางการค้าของสหภาพยุโรปที่จะมีขึ้น จะส่งผลกระทบต่อจีนและผลประโยชน์โดยรวมของการพัฒนาเทคโนโลยีนี้