เอเจนซี--ขณะที่กระแสต่อต้านญี่ปุ่นในจีน ขยายวงและรุนแรงอย่างกลัว ภาพการต่อต้านญี่ปุนในจีนที่ออกสู่สายตาชาวโลกในปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา กลุ่มประท้วงในหลายๆเมืองเที่ยวจู่โจมผลประโยชน์ปฏิปักษอย่างหน้ามืดตามัว ทั้งการเผารถยนต์พังร้านค้าญี่ปุน ทำร้ายแม้ชาวจีนด้วยกันที่ขับรถยนต์ญี่ปุ่น
สื่อจีนกลุ่มหนึ่งถึงกับอึ้งตะลึงงัน ลดท่าทีสายเหยี่ยวที่แข็งกร้าวในการเสนอข่าว และหันมาเทศน์กลุ่มต่อต้านญี่ปุ่นอย่างรุนแรง
ในบทบรรณาธิการของเว็บไซต์ข่าว Beijing Youth Daily เมื่อวันเสาร์(14 ก.ย.) ชี้ว่า “การทำลายรถยนต์ยี่ห้อญี่ปุ่นในจีน เป็นการละเมิดกฎหมาย
“ต้องขีดเส้นกันแล้ว การแสดงความรักกำลังทำลายความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง”
เมื่อวานนี้(15 ก.ย.) บทความแสดงความคิดเห็นของสำนักซินหวา ระบุ “การแสดงความรักชาติ ต้องเป็นไปอย่างมีสติปัญญา”
เน็ตอีสต์ ยักษ์ใหญ่เว็บท่าข่าวสารของแผ่นดินใหญ่ ก็ออกมาเตือนในวานนี้ “ขณะนี้ ความรักชาติกำลังถูกนำมาแอบอ้างในการก่ออาชญากรรม มีการปล้นสะดมร้านค้าในหลายๆเมือง ทั้งใน ฉังซา ซีอัน ชิงเต่า ฯลฯ”
บทบรรณาธิการของหนังสือประชาขน (พีเพิล เดลี) ซึ่งเป็นกระบอกเสียงพรรคคอมมิวนิสต์จีน ระบุการกระทำรุนแรงด้วยความโกรธแค้นได้เหยียบย่ำระบบกฎหมายของประเทศ ทำลายสังคมจีนอย่างน่าอดสู และชาวโลกกำลังหัวเราะเยาะจีน “ขณะนี้ ใครต่อใคร กำลังหัวเราะเยาะ สมเพช “ลัทธิรักชาติ” ในจีน” พร้อมทิ้งท้ายว่า สาธารชนต้องออกมาปกป้องเกาะเตี้ยวอี๋ว์ด้วยวิถีอารยะ
ขณะเดียวกัน กลุ่มสื่อจีนบางกลุ่มหันมาเสนอรายงานด้วยท่าทีที่อ่อนลง ลดท่าทีแข็งกร้าวแบบสายเหยี่ยว ซึ่งก่อนหน้านี้ สื่อบางกลุ่มถึงกับเรียกร้องให้มีการเตรียมการทหารเพื่อปกป้องหมู่เกาะเตี้ยวอี๋ว์ ดินแดนพิพาทระหว่างจีนและญี่ปุ่น สำหรับชาวญี่ปุ่นเรียกหมู่เกาะนี้ว่า “เซนกากุ”
อย่างไรก็ตาม ศาตราจารย์ จั้น เจียง ผู้สอนวิชาการหนังสือพิมพ์ ที่ Beijing Foreign Studies University ชี้ว่า สื่อจีนบางกลุ่มยังเป็นพวกมือถือสากปากถือศีล โดยขณะเรียกร้องให้กลุ่มประท้วงสงบสติอารมณ์ แต่ก็ยังมิวายปั่นกระแสลัทธิรักชาติโหมกระพือ
อาจารย์จั้น ว่าองค์กรข่าวสายเหยี่ยว อย่าง โกล์บอล ไทม์ส (Global Times) หนังสือพิมพ์ในเครือ พีเพิล เดลรวมหัวกับกลุ่มผู้นำทหารที่ไร้ความรับผิดชอบ ปั้นกระแสลัทธิรักชาติ เพื่อผลประโยชน์ของตัว
พญามังกรยังขู่ฟอดๆ
ในวันนี้(17 ก.ย.) พีเพิล เดลี เสนอบทความแสดงความคิดเห็น เตือนญี่ปุ่นว่า เศรษฐกิจญี่ปุนได้ถดถอยมาตั้งแต่ทศวรรษ 1990 และยังต้องเผชิญหน้ากับปัญหาเศรษฐกิจต่อไปอีกนานสืบเนื่องจากวิกฤตการเงินโลกและผลกระทบจากแผ่นดินไหวเมื่อปีที่แล้ว หากจีนใช้มาตรการคว่ำบาตร โต้ตอบศึกพิพาทกรรมสิทธิเหนือหมู่เกาะเตี้ยวอี๋ว์ ญี่ปุนก็จะยิงบอบช้ำหนักยิ่งขึ้นไปอีก
ในบทแสดงความคิดเห็น ระบุว่า โดยหลักการแล้ว ปักกิ่งคัดค้านมาตรการคว่ำบาตรเศรษฐกิจเพื่อแก้ไขข้อพิพาทระหว่างประเทศ และใช้ความระมัดระวังมากในการตัดสินดำเนินมาตรการนี้ โดยเป้าหมายของมาตรการคว่ำบาตรการค้า จะรวมไปถึง อุตสาหกรรมการเงิน การผลิต การส่งออก การลงทุนของญี่ปุนในประเทศจีน รวมทั้งการนำเข้า “วัตถุดิบเชิงยุทธศาสตร์” ซึ่งดูจะอ้างถึง ธาตุหายากที่ใช้ในอุตสาหกรรมไฮเทคหลายประเภท
“ญี่ปุนอยากสูญเสียทางเศรษฐกิจไปอีก 10 ปี อย่างนั้นหรือ? ญี่ปุ่นรับได้หรือ ที่จะต้องตกอยู่ในภาวะถดถอยนาน 20 ปี ?” คำถามในบทแสดงความเห็นในพีเพิล เดลี ซึ่งเผยแพร่เฉพาะในพีเพิล เดลี ฉบับต่างแดน
ทั้งนี้ การคว่ำบาตรการค้าระหว่างสองยักษ์ใหญ่เศรษฐกิจเอเชีย จีนและญี่ปุนนี้ อาจจะส่งผลกระทบไปทั่วภูมิภาค ขณะที่กลุ่มชาติตะวันตกคาดหวังว่าเอเชียจะช่วยฟื้นวิกฤตการค้าโลก
จีนประกาศความสำเร็จ ภารกิจแสดงอธิปไตยเหนือเกาะพิพาท
ในวันนี้ สื่อจีนรายงานว่า ภารกิจลาดตระเวนหมู่เกาะพิพาทเตี้ยวอี๋ว์ “ประสบความสำเร็จ” ในการแสดงอธิปไตยเหนือดินแดนแล้ว
ในวันศุกร์(14 ก.ย.) จีนได้ส่งเรือลาดตระเวนไปยังเกาะเตี้ยวอี๋ว์ เพื่อ “บังคับใช้กฎหมายเหนือดินแดน” หลังจากที่รัฐบาลญี่ปุ่นได้ผลักดันข้อพิพาทเหนือหมู่เกาะเตี้ยวอี๋ว์ ซึ่งญี่ปุ่นเรียกเซนกากุ เป็นประเด็นแห่งชาติ
แต่จีนก็ยังให้ฝูงเรือ 6 ลำ ซึ่งมีเรือลาดตระเวนรวมอยู่ด้วย ลาดตระเวนรอบหมู่เกาะที่จีนอ้างกรรมสิทธิฯต่อไป
“การส่งเรือลาดตระเวนไปเยือนเกาะเตี้ยวอี๋ว์ และเกาะรอบๆ เป็นการแสดงกรรมสิทธิเหนือดินแดน หยุดการล่วงล้ำเขตแดน ปกป้องผลประโยชน์น่านน้ำจีน” เสี่ยว ฮุ่ยอู่ รองผู้อำนวยการหน่วยลาดตระเวนเขตแดนสมุทร (China Marine Surveillance-CMS) บอกกับสำนักข่าวซินหวา
ในวันศุกร์(14 ก.ย.) เจ้าหน้าที่ในโตเกียวได้เรียกทูตจีนมาพบ และยื่นหนังสือประท้วงจีน ยืนยันว่าสิ่งที่จีนทำนั้น เป็นการบุกรุกเขตแดนในน่านน้ำที่ญี่ปุนครองกรรมสิทธิอยู่