รอยเตอร์ส - เจ้าหน้าที่อินเดียเผย (4 ก.ย.) อินเดียและจีนวางแผนจะเริ่มปฏิบัติการซ้อมรบทางการทหารร่วมกันในไม่ช้า ในระหว่างที่นายเหลียง กวงเลี่ยรัฐมนตรีกลาโหมจีน เดินทางเยือนอินเดียเพื่อคลายความวิตกกังวลที่อินเดียคิดว่าจีนกำลังแผ่อำนาจกำลังรบมาทางเอเชียใต้
นายเหลียงเดินทางเยือนกรุงนิวเดลีครั้งนี้ นับเป็นครั้งแรกในรอบแปดปีในการเยือนของผู้นำกลาโหมของจีน โดยนายเหลียงได้พบปะกับรัฐมนตรีกลาโหมของอินเดีย ถกประเด็นความมั่นคงในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก อันเป็นพื้นที่ที่อินเดียต้องแข่งขันชิงทรัพยากรและเพิ่มอิทธิพล ซึ่งจีนเป็นกังวลว่าสหรัฐฯอาจจะเข้ามามีส่วนช่วงชิงในเอเชียด้วย
การเดินทางเยือนของนายเหลียงครั้งนี้ เป็นช่วงเวลาที่ปักกิ่งกำลังจะถ่ายโอนอำนาจผู้นำทางการเมือง ขณะเดียวกันปัญหาขัดแย้งในทะเลจีนใต้ก็ยังไม่สงบ อย่างไรก็ดีนักวิเคราะห์เชื่อว่า การเยือนฯ จะช่วยให้จีนคลายกังวลปัญหาชายแดนที่ติดกับอินเดียลงไปได้บ้าง
"พวกเราได้บรรลุข้อตกลงสำคัญในการสนับสนุนสัมพันธภาพอันดี ตลอดจนยุทธศาสตร์ และความร่วมือระหว่างสองชาติ พร้อมทั้งสนับสนุนการแลกเปลี่ยนและความร่วมมือต่าง ๆ ระหว่างกองทัพฯ" นายเหลียงกล่าวแถลงบริเวณหน้ากระทรวงกลาโหมอินเดีย
มหาอำนาจอาวุธนิวเคลียร์เพื่อนบ้าน จีน-อินเดีย สองประเทศผู้มากไปด้วยประชากรเห็นตรงกันว่า การก่อสงครามยิบย่อยบริเวณชายแดนแถบหิมาลัยเมื่อ 50 ปีที่แล้วไม่เป็นผลดี อย่างไรก็ดีการที่สองชาติกำลังผงาดเป็นมหาอำนาจด้านการทหารอย่างรวดเร็ว หากชาติใดไปผูกสัมพันธ์กับสหรัฐย่อมส่งผลกระทบต่อความมั่นคงในภุูมิภาคเอเชียอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง
ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างจีน-อินเดีย ไม่มีปัญหามา 20 ปี ขณะที่ความสัมพันธ์ด้านการทหารยังคงมีเรื่องไม่ลงรอยเล็กน้อย หลังจากที่สองชาติเริ่มดำริร่วมซ้อมรบสองครั้ง กำหนดเริ่มในปี 2550 โดยมีจำนวนเจ้าหน้าที่ทหาร 100 นาย แต่ก็ต้องระงับไปเมื่อสี่ปีที่แล้ว หลังจากมีการพิพาทกันเรื่องหนังสือเดินทาง
รัฐมนตรีกลาโหมอินเดีย นายเอ เค แอนโทนี เผยว่า จะมีการฟื้นฟูการซ้อมรบขึ้นมาแต่เนิ่น ๆ แต่ก็ไม่ได้บอกระยะเวลาที่แน่ชัด แม้ว่าเรือรบจีนและอินเดียร่วมปฏิบัติการยุทธนาวีเป็นครั้งแรกในเดือนมิ.ย. แต่นั่นก็ไม่ถือว่าเป็นการร่วมซ้อมรบอย่างเป็นทางการ
แอนโทนียังเผยด้วยว่า เขายินดีตอบรับคำเชิญให้ไปเยือนกรุงปักกิ่ง
นอกจากเยือนอินเดีย เหลียงจะได้เยือนศรีลังกาด้วย เหลียงตั้งเป้าลดความวิตกกังวลของอินเดียเกี่ยวกับกองทหารจีน และความช่วยเหลือด้านโครงสร้างสาธารณูปโภคแก่ประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาค พร้อมกับปฏิเสธข่าวลือเกี่ยวกับกองกำลังทหารจีนที่ว่ามาประจำในพื้นที่ของปากีสถานที่อินเดียอ้างสิทธิ์ทับซ้อน
"ผมอยากจะใช้โอกาสนี้อธิบายอีกครั้ง กองทัพปลดแอกประชาชนจีนไม่เคยระดมทหารแม้แต่นายเดียวเข้าไปยังแคชเมียร์" เหลียงกล่าวกับนักข่าวหนังสือพิมพ์อินเดีย
เมื่อเหลียงเยือนศรีลังกาก็ได้เผยอีกว่า การที่จีนพยายามสร้างความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดกับชาติต่าง ๆ ในเอเชียใต้ จีนไม่เคยมีเป้าหมายแอบแฝงเกี่ยวกับชาติที่สาม
ทั้งจีนและอินเดียต่างเห็นพ้องที่จะก้าวไปสู่ความเจริญรุ่งเรืองด้วยสันติวิธี ความสัมพันธ์เชิงธุรกิจกำลังเติบโต การค้าหมุนเวียนคล่องตัวแตะระดับ 75,500 ล้านดอลลาร์ในแต่ละปี เพิ่มขึ้นจากเมื่อทศวรรษที่ผ่านมาซึ่งอยู่ที่ 3,000 ล้านดอลลาร์เป็นจำนวนมาก การค้าเหล่านี้ทำให้จีนชื่นมื่น
อย่างไรก็ดี สภาอินเดียมีความใกล้ชิดกับรัฐบาลเวียดนาม การสำรวจพื้นที่แหล่งทรัพยากรน้ำมันในทะเลจีนใต้เป็นขวากหนามของจีน เพราะจีนอ้างอธิปไตยเหนือพื้นที่ทั้งหมดของทะเล และได้ส่งกำลังทหารไปยังพื้นที่พิพาทแล้ว