ปินส์ เวียด รับไม่ได้ มะกันแค่ตั้งคำถาม
ฟิลิปปินส์ลั่นไม่ยอมรับเมืองซานซา ที่จีนประกาศก่อตั้งใหม่ ตลอดจนอำนาจทางการศาลของเมืองฯ ขณะที่เวียดนามเผยว่า การประกาศเมืองใหม่ของจีนละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ ส่วนสหรัฐฯ ก็ส่งเสียงแสดงความกังวลเกี่ยวกับสิ่งที่จีนทำ ชี้ว่าจีนไม่แยแสประเทศอื่น ทั้งที่ปัญหาพิพาทในทะเลจีนใต้ยังคงซับซ้อนและไม่ชัดเจนว่าพื้นที่ส่วนใดใครเป็นเจ้าของ
รอล เฮอร์นันเดซ โฆษกกระทรวงต่างประเทศฟิลิปปินส์ เผยว่า รัฐบาลปินส์ได้แสดงความกังวลและประท้วงอย่างสุดฤทธิ์สุดเดชที่กรุงปักกิ่งตัดสินใจส่งกองทหารรักษาการณ์ไปประจำยังหมู่เกาะซานซา ฟิลิปปินส์ไม่ยอมรับเมืองซานซา ตลอดจนอาณาธิปไตยที่ซานซาขยายเพิ่มแล้วอ้างว่าเป็นของตน
ขณะเดียวกัน นายเลือง แถ่ง หงิ โฆษกกระทรวงต่างประเทศเวียดนามกล่าวว่า เวียดนามได้ประท้วงกระทรวงต่างประเทศจีนหลายครั้ง ว่าการที่จีนก่อตั้งเมืองซานซา ละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ ละเมิดอธิปไตยของเวียดนามเหนือหมู่เกาะพาราเซลและสแปรตลีย์อย่างหนักหน่วง
ฝ่ายโฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ วิกตอเรีย นูแลนด์ ก็ให้สัมภาษณ์คล่าว ๆ ผ่านสื่อว่า “พวกเรายังคงกังวลเกี่ยวกับการกระทำแต่ฝ่ายเดียวของจีน พวกเราบอกแล้วว่าเรื่องนี้มีวิธีแก้ไขได้เพียงทางเดียวคือ การเจรจาไกล่เกลี่ยด้วยวิธีทางการทูต เฉพาะประเทศที่เกี่ยวข้องเท่านั้น”
อย่างไรก็ดี สหรัฐฯเผยจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการอ้างสิทธิ์ในทะเลจีนใต้ แต่ก็มีเอี่ยวอยู่เล็กน้อย ในเรื่องเสรีภาพการเดินเรือผ่านเส้นทางในทะเลจีนใต้ และสิทธิในการรักษาสันติภาพและความมั่นคงโลก
กลุ่มนักคิดด้านวิกฤติการณ์ระหว่างประเทศ ชี้ว่า นอกจากจีนแล้ว ประเทศแนวหน้าผู้อ้างสิทธิ์เหนือทะเลจีนใต้มีเวียดนามกับฟิลิปปินส์ ทั้งสองแข็งขันรุกคืบหวังเอาชัยให้ได้สิทธิ์ครอบครองพื้นที่ มะกันอาจส่งกำลังรุกเข้ามาเพื่อช่วยประเทศที่ขัดแย้งกับจีน เพื่อเป็นการถ่วงดุลอำนาจ กลุ่มผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า การขยายฐานอำนาจของจีนมีความเสี่ยงสูงที่คู่ขัดแย้งจะหันมาร่วมมือกัน
ผู้นำคนแรกของซานซา
นักวิเคราะห์เชื่อว่า ผู้นำคนแรกของซานซา ที่รัฐบาลจีนตั้งเป็นผู้ที่รู้วิธีการถ่วงดุลการพัฒนา ไปพร้อม ๆ กับปัญหาสิ่งแวดล้อม
นายเสี้ยว เจี๋ย นายกเทศมนตรีเมืองซานซา วัย 51 ปี ถูกเลือกขึ้นมาดำรงตำแหน่งเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์ประจำเมืองซานซา
“เป็นเกียรติอันสูงส่งที่ได้เป็นนายกเทศมนตรีเมืองซานซาคนแรก เป็นหน้าที่ใหม่ เป็นความท้าทายและบททดสอบใหม่” เสี้ยวกล่าวในการประชุมสภาประชาชนครั้งแรกเมืองซานซา
บ้านเดิมของเสี้ยวอยู่เมืองเล่ยโจว มณฑลก่วงตง (กวางตุ้ง) เขาใช้เวลา 30 ปีอยู่ที่ไห่หนาน (ไหหลำ) เรียนวิทยาลัยเซาท์ไชน่า ทรอปิคัล คอร์ป ซึ่งต่อมาควบรวมกับมหาวิทยาลัยไห่หนาน ในปี 2525 เสี้ยวได้เป็นอาจารย์ในสถาบันเดิมที่สำเร็จการศึกษา ต่อมาหลังเป็นสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์ในปี 2527 ก็ได้รับสนับสนุนให้ดำรงตำแหน่งอาวุโสด้านเกษตรกรรมที่ไห่หนาน ต่อมาไห่หนานได้ยกฐานะเป็นมณฑลเมื่อปี 2531
ในปี 2536 เสี้ยวถูกส่งตัวเข้ากรุงปักกิ่ง ทำหน้าที่ในเขตชังผิง เพื่อสะสมประสบการณ์ทางการเมือง สองปีต่อมากลับมายังมณฑลไห่หนานและได้ตำแหน่งรองผู้ปกครองอำเภอเฉิงไม่ ไม่นานก็ได้กินตำแหน่งหัวหน้ากรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในปี 2545 และกลายมาเป็นผู้นำกรมเกษตรกรรม
ในครั้งนี้ เสี้ยวนั่งควบสองตำแหน่งคือหัวหน้าพรรคฯและนายกเทศมนตรีเมืองซานซา ขณะที่นายชีว์ สิง ผู้อำนวยการสถาบันระหว่างประเทศศึกษา คาดว่า ซานซาจะต้องเลือกนายกเทศมนตรีในการประชุมพรรคคอมมิวนิสต์ครั้งหน้านี้อย่างแน่นอน
เสี้ยวเป็นบุคคลที่เหมาะสมกับตำแหน่งพ่อเมืองเกิดใหม่ เขาไม่เพียงมีประสบการณ์ทำงานที่ไห่หนาน แต่ยังเคยทำหน้าที่ที่กรุงปักกิ่งมาแล้ว ดังนั้นเสี้ยวมีโอกาสได้ใกล้ชิดผู้นำส่วนกลางที่มีบทบาทในการกำหนดนโยบาย ประสบการณ์ที่ปักกิ่งจะช่วยให้เสี้ยวเข้าใจแผนการและเป้าหมายสำคัญของรัฐบาล กอปรกับเสี้ยวเป็นนักวิชาการอันเลื่องชื่อ ทำให้มั่นใจได้ว่า เขาจะสามารถสร้างสมดุลด้านสิ่งแวดล้อม นิเวศวิทยาและการพัฒนาเมืองซานซาในอนาคตได้
คลอดสัญลักษณ์เชิงอำนาจ ชิงพื้นที่พิพาท
ฝ่ายรัฐบาลปักกิ่งได้ผลิตสัญลักษณ์เชิงอำนาจใหม่เพื่อควบคุมและพิทักษ์พื้นที่ชายฝั่งทะเลในช่วงปลายเดือนก.ค.ที่ผ่านมา เป็นรูปธงชาติ กำแพงเมืองจีน สมอเรือ คลื่นในมหาสมุทร โล่ และช่อมะกอก มีตัวหนังสือภาษาจีน-อังกฤษความว่า “การคุมคุมชายแดนและการพิทักษ์ชายฝั่งของจีน”
สำนักข่าวพีเพิลลิเบอเรชั่นอาร์มี่เดลี่รายงานว่า สัญลักษณ์นี้จะได้นำมาใช้กันถ้วนหน้า ตั้งแต่คณะกรรมาธิการชายแดนและการพิทักษ์ชายฝั่งแห่งรัฐทุกระดับชั้นทั่วประเทศ รวมถึงสำนักงานในเครือไปยันสำนักงานอำนวยการต่าง ๆ ตั้งแต่การซ้อมรบ การฝึกอบรมและกิจกรรมที่เกี่ยวกับต่างประเทศ องค์กรและหน่วยงานทั้งหลายที่เกี่ยวข้องกับการพิทักษ์ชายแดนสามารถใช้สัญลักษณ์นี้ในการตรวจการณ์ และถือว่าบังคับใช้ได้ตามกฎหมายฯ
คณะกรรมาธิการชายแดนฯ อ้างว่า สัญลักษณ์นี้สามารถฟื้นฟูความตระหนักของประชาชนเกี่ยวกับปัญหาความมั่นคงชายแดนและชายฝั่ง และช่วยฟื้นฟูความภักดีและเห็นแก่ส่วนรวมของเจ้าหน้าที่ชายแดนได้ด้วย
สัญลักษณ์นี้บังคับใช้อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม ซึ่งสอดคล้องกับวาระเฉลิมฉลองสถาปนากองทัพปลดแอกประชาชนจีนครบรอบ 85 ปี