เอเจนซี--รายงานวานนี้ (4 ก.ย.) ตำรวจจีนบุกล้อมอารามทิเบตในมณฑลชิงไห่ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (1 ก.ย.) และยังจับตัวลามะโทษฐานติดต่อกับสื่อต่างชาติและมีรูปภาพองค์ทะไล ลามะในครอบครองอีกด้วย
แหล่งข่าวจากชาวทิเบต รายงานว่า กองกำลังความมั่นคงของจีนนับร้อยนาย บุกเข้าไปยังอารามทิเบต Nyatso Zilkar ในชุมชนทิเบต เมืองอี้ว์ซู่ มณฑลชิงไห่ และได้จับกุมตัวลามะทิเบต 4 รูป และอีก 1 รูป ขณะกำลังถ่ายภาพเหตุการณ์ตำรวจบุกเข้ามายังอารามทิเบตฯนี้
ทิเบตพลัดถิ่นในอินเดียคนหนึ่งให้สัมภาษณ์กับวิทยุเอเชียเสรีว่า ชาวทิเบตในท้องถิ่นเชื่อว่า น่าจะมีลามะอีกอย่างน้อย 3 รูป ถูกคุมตัวไป
“ชาวบ้านสงสัยว่า ลามะ 3 รูปที่ถูกจับตัวไปนั้น สาเหตุเพราะพวกเขาติดต่อกับสื่อต่างชาติ และให้รายละเอียดเกี่ยวกับเหตุการณ์ ลามะ 2 รูปเผาตัวตายในเมืองอี้ว์ซู่ เมื่อเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา ส่วนลามะรูปอื่นๆ คงถูกจับเพราะครอบครองรูปภาพขององค์ทะไล ลามะ ผู้นำจิตวิญญาณพลัดถิ่น”
นอกจากนี้ ตำรวจยังยึดคอมพิวเตอร์และดีวีดี จากห้องของลามะด้วย ส่วนลามะที่พยายามเข้าช่วย เพื่อให้หยุดการจับกุมนั้น ต่างถูกทุบตีสาหัส และถูกจ่อปืนขณะขอวิงวอนให้ปล่อยตัวลามะ
เขายังกล่าวอีกว่า “เมื่อวันที่ 1 ก.ย. ตำรวจจีนและเจ้าหน้าที่รักษาความมั่นคง พร้อมรถราว 60 คัน มาที่อารามฯ ในชุมชน Dzatoe เขต Tridu ในเมืองอี้ว์ซู่ และหลังจากนั้นไม่นาน ไฟฟ้าในอาราม และเครื่องมือสื่อสารก็ถูกตัดขาด”
ทางด้านกลุ่มสิทธิมนุษยชน กังวลอย่างมากต่อการจับชาวทิเบตที่นับวันเพิ่มขึ้นมาก และสถานการร์รุนแรงกรณีการเผาตัวของกลุ่มประท้วงรัฐบาลจีน นับตั้งแต่เดือนก.พ. ปี 2552 เป็นต้นมา จนถึงขณะนี้ มีชนชาติทิเบตและลามะ 51 ราย ที่จุดไฟเผาตัว
เมื่อปลายเดือนที่แล้ว (28 ส.ค.) ก็เกิดเหตุตำรวจจีนจับกุมลามะจากอารามทิเบตในชุมชนทิเบตเมืองอาป้า มณฑลซื่อชวน (เสฉวน) และชาวทิเบตคนอื่นๆ ซึ่งสาเหตุอาจเป็นเพราะเกี่ยวข้องกับการประท้วงจุดไฟเผาตัวในบริเวณนี้
นางสเตฟานี บริกเดน ประธานกลุ่มฟรีทิเบตในลอนดอน เผยว่า “สิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานของชาวทิเบต กำลังถูกละเลยจากผู้นำนานาชาติ เพราะกลัวว่าจะมีปัญหากับจีน ถึงเวลาแล้วที่พวกเราจะพูดสนับสนุนและเรียกร้องสิทธิเสรีภาพของชาวทิเบต”
จากข้อมูลกลุ่มฟรีทิเบต และกลุ่มรณรงค์ระหว่างประเทศเพื่อทิเบต (International campaign for Tibet) เผยว่า ชาวทิเบตจุดไฟเผาตัวในจีนตั้งแต่เดือนก.พ. 2552 เป็นต้นมา โดยรายแรกคือ ลามะหนุ่มนามว่า ทาเพย์ จากอารามกีรติ ขณะจุดไฟเผาตัว ก็ป่าวประกาศต่อต้านรัฐบาลจีน และเรียกร้องให้องค์ทะไล ลามะ ผู้นำจิตวิญญาณสูงสุดของทิเบต และเป็นผู้นำรัฐบาลพลัดถิ่นที่ธรรมศาลา ประเทศอินเดีย ให้กลับสู่บ้านเกิด
ฝ่ายรัฐบาลจีน ประณามองค์ทะไล ลามะ ว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ความไม่สงบ และรัฐบาลฯ ยังคงกวาดล้างลามะทิเบตและแม่ชี ที่สนับสนุนองค์ทะไล ลามะ และกลุ่มเคลื่อนไหวปลดปล่อยชาวทิเบต
ทั้งนี้ หลังจากที่ผู้นำคอมมิวนิสต์สถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีน ก็ได้ส่งกองกำลังไปยังทิเบต พร้อมกับประกาศผนวกดินแดนให้อยู่ภายใต้การปกครองของจีน ในฐานะเขตปกครองตนเองชนชาติทิเบต แต่ชาวทิเบตได้ลุกฮือ ต่อต้าน และเกิดสงครามปะทะกันอย่างรุนแรง ระหว่างชาวทิเบตและกองทัพปลดแอกประชาชนจีนในปีพ.ศ. 2502 ฝ่ายทิเบตพ่ายแพ้ ทำให้องค์ทะไล ลามะ ผู้นำจิตวิญญาณสูงสุดทิเบต ต้องลี้ภัยไปยังประเทศอินเดีย และจัดตั้งรัฐบาลพลัดถิ่นที่ธรรมศาลา
ความขัดแย้งระหว่างจีนและรัฐบาลพลัดถิ่นทิเบตยืดเยื้อมาจนถึงปัจจุบัน แม้มีการเจรจาระหว่างสองฝ่ายหลายครั้ง แต่ก็ยังล้มเหลว จีนยังคงกล่าวหาองค์ทะไล ลามะ ว่าเป็นผู้ยุแหย่ศึกรุนแรงและลัทธิแบ่งแยกดินแดน
