ไชน่าเดลี/ASTVผู้จัดการ – ทางการจีนออกมายอมรับว่า “หวัง กั๋วเฉียง” เลขาธิการพรรคประจำเมืองเฟิ่งเฉิง มณฑลเหลียวหนิง เผ่นออกนอกประเทศจีนตั้งแต่เมษายนที่ผ่านมาแล้ว คาดหอบเมียหนีไปสหรัฐฯ พร้อมเงินคอร์รัปชัน 200 ล้านหยวน หลังชาวเน็ตจีนออกมากดดันหนักจนเรื่องแดง
เจ้าหน้าที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์ของเขตตันตง หน่วยงานที่มีหน้าที่ปกครองและกำกับดูแลเมืองเฟิ่งเฉิง เมืองเล็กทางตะวันออกเฉียงใต้ของมณฑลเหลียวหนิงอีกทีออกมายอมรับกับหนังสือพิมพ์ไชน่าเดลีเมื่อวันอังคาร (28 ส.ค.) ว่า นายหวัง กั๋วเฉียง เลขาธิการพรรคประจำเมืองเฟิ่งเฉิงได้หลบหนีออกนอกประเทศไปตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมาแล้ว
ซ่ง ซีเหมย เจ้าหน้าที่ของเขตตันตง เปิดเผยว่า เธอไม่สามารถยืนยันได้ว่า ข่าวลือที่เผยแพร่ทางอินเทอร์เน็ตระบุว่า นายหวัง กั๋วเฉียง หนีออกนอกประเทศพร้อมกับเงินทุจริตคอร์รัปชันจำนวน 200 ล้านหยวน (ราวหนึ่งพันล้านบาท) เป็นเรื่องจริงหรือไม่ แต่เธอกล่าวว่าเนื่องจากนายหวังเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูง ดังนั้นการตรวจสอบเรื่องดังกล่าวอาจต้องใช้อำนาจสั่งการจากหน่วยงานระดับมณฑล คือ มณฑลเหลียวหนิงเข้ามามาตรวจสอบ
สำหรับเมืองเฟิ่งเฉิง (凤城) หรือที่แปลเป็นไทยได้ว่าเมืองแห่งนกฟินิกซ์ เป็นเมืองเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ใกล้กับชายฝั่งทางทิศเหนือของทะเลเหลือง โดยมีประชากรราว 590,000 คน
เรื่องดังกล่าวตกเป็นข่าวร้อนแรงในโลกอินเทอร์เน็ตในประเทศจีนตั้งแต่วันอาทิตย์ (26 ส.ค.) ที่ผ่านมา โดยมีการแฉว่า “นายหวัง กั๋วเฉียงเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์ประจำเมืองเฟิ่งเฉิง เขตตันตง มณฑลเหลียวหนิงพร้อมกับภรรยาได้หลบหนีออกจากจีนไปยังสหรัฐฯ พร้อมกับเงินกว่า 200 ล้านหยวนแล้ว” จนสื่อมวลชนในประเทศจีนต้องหยิบเรื่องราวดังกล่าวไปสืบเสาะต่อ และในที่สุดทางการจีนต้องออกมายอมรับ
ขณะที่หลังจากข่าวลือแพร่สะพัดออกไป ในเวลาประมาณ 20.00น. ของวันจันทร์ที่ 27 ส.ค. เว็บไซต์ของเทศบาลเมืองเฟิ่งเฉิงก็ออกมาประกาศว่าทางคณะกรรมการพรรคคอมมิวนิสต์จีนประจำเขตตันตงได้เลือกนายหม่า เหยียนชุนเข้ามาเป็นเลขาฯ พรรคประจำเมืองเฟิ่งเฉิงคนใหม่ แทนนายหวังที่ถูกปลดออกจากตำแหน่ง และถูกขับออกจากพรรคคอมมิวนิสต์จีนเมื่อวันที่ 15 ส.ค.
สำหรับนายหวัง กั๋วเฉียง นั้นเข้ารับตำแหน่งเลขาธิการพรรคฯ ประจำเมืองเฟิ่งเฉิงตั้งแต่ปี 2551 และถูกปลดออกจากตำแหน่งในเดือนเมษายน 2555 โดยจากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าในเดือนกรกฎาคม 2553 นายหวังเคยใช้ข้ออ้างในการไปร่วมงานรับปริญญาของบุตรสาวที่สหรัฐอเมริกาเพื่อทำหนังสือเดินทางแบบบุคคลธรรมดา ทว่านายหวังกลับไม่ได้เดินทางไปจริง ต่อมาในเดือนมีนาคม 2555 เขาก็ได้เดินทางไปที่สถานกลสุลสหรัฐฯ ประจำเมืองเสิ่นหยางเพื่อทำวีซ่าสหรัฐฯ แบบ เข้าออกหลายครั้งภายในระยะเวลาหนึ่งปี จนในที่สุดเมื่อวันที่ 24 เมษายน 2555 เขาพร้อมกับภรรยาก็เดินทางออกไปยังสหรัฐฯ ผ่านทางสนามบินเสิ่นหยาง และนับจากนั้นเขาก็ขาดการติดต่อกับคนในประเทศจีนอย่างสิ้นเชิงจนถึงปัจจุบัน
รายงานจากหนังสือพิมพ์เช้าตงฟังระบุว่านายหวังน่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการคอร์รัปชันในโครงการติดตั้งระบบทำความร้อนของเมืองเฟิ่งเฉิง ซึ่งบริษัทชื่อ ไห่เต๋อได้รับสัมปทานในการติดตั้งระบบทำความร้อนกว่าร้อยละ 80 ของเมือง ทว่าระบบกลับมีปัญหาและได้รับการร้องเรียนจากชาวเมืองอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ทางหนังสือพิมพ์รายวันเซี่ยงไฮ้ก็ระบุรายละเอียดเพิ่มเติมว่า บริษัทไห่เต๋อนั้นถูกแปรรูปจากรัฐวิสาหกิจไปเป็นบริษัทเอกชน โดยมีเพื่อนของนายหวังเป็นผู้บริหาร
นักวิชาการออกมาวิเคราะห์ว่า การหายตัวไปของหวังเป็นสัญญาณว่าทางการจีนต้องเร่งดำเนินการโครงการเพื่อป้องกันมิให้เจ้าหน้าที่มีพฤติกรรมทุจริตคอร์รัปชั่นหลบหนี และต้องดำเนินการตามตัวผู้ที่หลบหนีไปแล้วกลับมาดำเนินคดีภายในประเทศให้ได้
