สมาคมเหล็กจีนเผย ครึ่งปีแรก ผู้ผลิตเหล็กกล้าจีน ขาดทุนหนัก

เอเยนซี – ผลกำไรของอุตสาหกรรมผู้ผลิตเหล็กกล้าจีนในช่วง 6 เดือนแรกของปี ลดฮวบเกือบร้อยเปอร์เซนต์ หลายรายลดจากร้อยละ 3.06 มาอยู่ที่ร้อยละ 0.13 เทียบกับช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อนหน้า

สื่อจีนเผย (1 ส.ค.) รายงานผลประกอบการของสมาคมเหล็กและเหล็กกล้าของจีน (CISA) ซึ่งระบุว่า ผลกำไรของอุตสาหกรรมผู้ผลิตเหล็กกล้าจีนในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ ได้รับผลกระทบจากต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น และอุปสงค์ที่หดหายลดต่ำลง

รายงานระบุว่า ผลกำไรของกิจการขนาดกลางและขนาดใหญ่ ลดลงร้อยละ 95.8 เทียบเป็นรายปี โดยในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ เศรษฐกิจชะลอตัวส่งผลต่ออุปสงค์ และราคาถูกเฉือนอย่างเป็นทางการในอุตสาหกรรมระดับสูงกล่าวว่าในวันอังคาร

จาง ฉางฟุ รองประธานสมาคมฯ กล่าวว่า "การทำกำไรของอุตสาหกรรมกำลังอยู่ในช่วงขาดดุล ขณะที่มีกำลังการผลิตมหาศาล จนล้นเกิน และยังมีการลงทุนเพิ่มเกินกว่าการผลิตจริง”

ตามข้อมูลของตามสมาคมเหล็กและเหล็กกล้าจีน ผลกำไรของผู้ผลิตเหล็กกล้ารายใหญ่ของจีนร่วงลงอย่างหนักในช่วง 6 เดือนแรก โดยลดลง 5.45 หมื่นล้านหยวน หรือร้อยละ 95.81 เมื่อเทียบรายปี สู่ระดับเพียง 2.39 พันล้านหยวน ในขณะที่ บริษัท ซึ่งขาดทุนนั้น มีการรายงานการสูญเสียรวมของ 14.25 พันล้านหยวน

นอกจากนี้ ร้อยละ 33.75 ของผู้ผลิตเหล็กกล้ารายใหญ่ของจีน รายงานยอดขาดทุนในช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้ โดยอัตรากำไรจากยอดขายของบริษัทเหล่านี้หดตัวลงมาอยู่ที่ร้อยละ 0.13 จากร้อยละ 3.06 เทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

หลี่ ซินชวง หัวหน้าศูนย์วิจัยและวางแผนอุตสาหกรรมโลหการ กล่าวเมื่อวันอังคารว่า รัฐบาลจะพิจารณาคืนภาษีมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์เหล็กที่ซื้อมาจาก บริษัท ผู้ผลิตเหล็กในประเทศ

เขากล่าวว่า แต่ละปี จีนนำเข้าผลิตภัณฑ์เหล็กชั้นดี ประมาณ 15 ล้านเมตริกตัน และในจำนวนนั้น ครึ่งหนึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ต่างประเทศ ซึ่งเป็นการนำเข้าแบบปลอดภาษี

"หากนโยบายใหม่ที่จะเอื้อประโยชน์ให้กับผู้ผลิตในประเทศดำเนินการได้ ก็จะช่วยลดการนำเข้า ซึ่งบรรดาบริษัท จีนสามารถผลิตผลิตภัณฑ์เหล็กได้ในจำนวน 7-8 ล้านตัน ซึ่งจะสามารถทดแทนการนำเข้า"

นับตั้งแต่ไตรมาสที่สี่ของปี 2554 อุตสาหกรรมเหล็กจีน ได้รับผลกระทบจากราคาที่ลดลงและต้นทุนวัตถุดิบที่สูงขึ้น ซึ่งนำไปสู่สินค้าคงเหลือในประเทศสูง โดยในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา จีนมีสินค้าคงคลังเหล็ก จำนวน12.46 ล้านตัน

ในช่วงครึ่งปีแรก รัฐบาลออกบังคับใช้มาตรการเพื่อควบคุมอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์อย่างเข้มงวด ขณะที่การก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานทางรถไฟและถนนได้ลดลง

นายจางกล่าวว่า เศรษฐกิจโลกชะลอตัวส่งผลต่อความต้องการในตลาด และต้นทุนการผลิตรวมถึงราคาวัตถุดิบปรับตัวสูงขึ้น และแรงกดดันด้านการเงินเป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อผลกำไรที่ลดลง และมีความจำเป็นเร่งด่วนในการปฏิรูปต้นแบบการพัฒนาของอุตสาหกรรมเหล็กกล้าจีน บริษัทต่าง ๆ จึงควรเตรียมพร้อมรับมือความท้าทายที่กำลังเผชิญ

ในอีกด้านหนึ่ง นายจางเปรียบเทียบว่ายอดส่งออกเหล็กกล้าดิบ (Crude Steel) ในช่วงครึ่งปีแรกอยู่ที่ 21.40 ล้านตัน มากกว่าปีที่แล้ว 4.36 ล้านตัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 25.6 ซึ่งแม้จะเพิ่มมากขึ้น แต่ราคาต่อหน่วยเฉลี่ยของการส่งออกผลิตภัณฑ์เหล็กอยู่ที่ 960 ดอลลาร์ต่อตัน ในขณะที่ผลิตภัณฑ์เหล็กนำเข้า มีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 1,326 ดอลลาร์ต่อตัน"

"โครงสร้างการส่งออกจะต้องมีการเปลี่ยนแปลง เพราะบริษัทจีน ไม่สามารถซื้อสินแร่เหล็กในราคาที่สูงจากต่างประเทศ และส่งออกผลิตภัณฑ์เหล็กในราคาที่ต่ำ"