เอเยนซี - หญิงฮ่องกงครองตำแหน่งอายุยืนที่สุดในโลกด้วยอายุเฉลี่ย 86.7 ปี โค่นญี่ปุ่นแชมป์เก่า 26 สมัย ที่ตกมาเป็นอันดับ 2 เนื่องจากผลพวงของเหตุการณ์สึนามิในปีที่ผ่านมา ผู้เชี่ยวชาญชี้ชาวฮ่องกงอายุยืนเพราะอาหารและความก้าวหน้าด้านการรักษาพยาบาล แต่ห่วงปัญหาประชากรสูงอายุล้นเมือง
เมื่อวันที่ 27 ก.ค. ที่ผ่านมา หนังสือพิมพ์ต้ากงเป้าฮ่องกงรายงานว่า เขตปกครองพิเศษฮ่องกงก้าวขึ้นมาครองแชมป์ดินแดนที่มีอายุเฉลี่ยของสตรีสูงที่สุดในโลกแทนประเทศญี่ปุ่น ด้วยอายุเฉลี่ย 86.7 ปี
โดยข้อมูลจากสำนักงานสถิติฮ่องกงบ่งชี้ว่า อายุเฉลี่ยของประชากรสตรีเพิ่มมากขึ้นกว่า 8 ปีเมื่อเทียบกับ 25 ปีก่อน ขณะที่อายุเฉลี่ยของชาวฮ่องกงเพศชายก็มีอัตราเพิ่มขึ้นเช่นกัน สะท้อนให้เห็นว่าประชากรมีสุขภาพที่ดีขึ้น และเนื่องจากอายุเฉลี่ยของเพศหญิงยืนยาวกว่าเพศชาย เพศหญิงจึงมีสถิติเป็นม่าย หย่าร้าง หรือแยกกันอยู่กับคู่ครองสูงกว่าเพศชาย โดย 15 ปีที่ผ่านมาจำนวนสตรีฮ่องกงที่พักอาศัยตามลำพังเพิ่มขึ้นมากกว่า 1 เท่าตัว ซึ่งในจำนวนนั้นเป็นหญิงอายุตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไปมากที่สุด
นับตั้งแต่ ค.ศ. 1985 เป็นต้นมา ผู้หญิงชาวญี่ปุ่นครองแชมป์อายุยืนที่สุดในโลกต่อเนื่องมาถึง 26 ปี อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 26 ก.ค. กระทรวงสาธารณสุขและแรงงานของญี่ปุ่นแถลงว่า ปีที่ผ่านมาอายุเฉลี่ยหญิงชาวญี่ปุ่นอยู่ที่ 85.9 ปี ลดลง 0.4 ปีจากปีก่อนหน้า รั้งอยู่ในอันดับที่ 2 ส่วนอายุเฉลี่ยชายชาวญี่ปุ่นในปีที่ผ่านมาก็ลดลงมาอยู่ที่ 79.44 ปี โดยสาเหตุสำคัญเป็นผลกระทบมาจากเหตุการณ์สึนามิที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 11 มี.ค. 2011 ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต ประกอบกับหลังเหตุการณ์อัตราการฆ่าตัวตายของสตรีญี่ปุ่นที่อายุมากกว่า 20 ปีสูงขึ้น โดยกระทรวงสาธารณสุขและแรงงานของญี่ปุ่นคาดการณ์ว่าหากไม่เกิดเหตุการณ์สึนามิดังกล่าว อายุเฉลี่ยของประชากรชาวญี่ปุ่น เพศหญิงจะอยู่ที่ 86.24 ปี ส่วนเพศชายจะอยู่ที่ 79.7 ปี
ต่อกรณีที่ประชากรชาวฮ่องกงอายุยืนมากขึ้น อี๋ว์ ต๋าหมิง แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์ผู้สูงอายุ ตั้งข้อสังเกต 3 ข้อดังนี้คือ ประการแรก การคมนาคมในฮ่องกงมีความสะดวกสบาย อาหารการกินอุดมสมบูรณ์และหลากหลาย ส่งผลให้ชาวฮ่องกงมีสุขภาพดี ประการต่อมา ระบบการรักษาพยาบาลในฮ่องกงมีความทันสมัย ประชาชนใช้เวลาเพียง 15-20 นาทีก็สามารถเดินทางไปรับการรักษาถึงโรงพยาบาลได้ อีกทั้งทุกคนสามารถเข้าถึงการรักษาพยาบาลที่เท่าเทียมกัน ประการสุดท้าย ฮ่องกงมีระบบกำจัดน้ำทิ้งที่ครบวงจร ซึ่งเป็นการลดความเสี่ยงในการเกิดโรคระบาดได้
นอกจากนี้ หลิว เหลียงอี้ รองผู้อำนวยการมหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเอ้าเหมิน(มาเก๊า) ก็ให้ความเห็นต่อกรณีผู้หญิงฮ่องกงอายุยืนยาวว่าน่าจะมาจากปัจจัยพื้นฐานในด้านระบบการรักษาพยาบาลและการดูแลป้องกันสุขภาพ นอกจากนี้หากมองในแง่แพทย์แผนจีน สตรีฮ่องกงนิยมดื่มชาเย็นซึ่งช่วยลดธาตุไฟในร่างกาย ส่งผลดีต่อการป้องกันการเกิดโรคและทำให้ร่างกายฟื้นฟูจากความเจ็บป่วยเร็วขึ้นด้วย
อย่างไรก็ตาม สถิติดังกล่าวก่อให้เกิดกระแสความกังวลด้วยเช่นกัน สำหรับฮ่องกงซึ่งเป็นเมืองที่อัตราการเกิดต่ำ การที่ประชากรอายุยืนขึ้นจะทำให้จำนวนผู้สูงอายุมากขึ้น ซึ่งหมายถึงอัตราความต้องการด้านการรักษาพยาบาลที่เพิ่มมากขึ้นด้วยเช่นกัน