เอเอฟพี - เศรษฐกิจจีนขยายตัวได้แบบช้าสุดในรอบ 3 ปีนับแต่เกิดวิกติการเงินครั้งรุนแรงของโลก ข้อมูลจากรัฐบาลจีนเผย (13 ก.ค.) ตัวเลขจีดีพีที่ลดลงนี้รัฐบาลจะต้องเร่งขยับมาตรการกระตุ้นให้ยิ่งยวดขึ้น
สำนักงานสถิติแห่งชาติจีนเผยว่า จากเดือนเม.ย.ถึง มิ.ย. หรือไตรมาส 2 จีดีพีชี้วัดอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจแดนมังกรลดลงมาอยู่ที่ 7.6 เปอร์เซ็นต์ปีต่อปี นับเป็นตัวเลขที่ตกต่ำสุดจากไตรมาสแรกของปี 2552 ซึ่งขณะนั้นขยายตัวอยู่ที่ 6.6 เปอร์เซ็นต์
“การชะลอตัวทางเศรษฐกิจของจีนมีสาเหตุหลักมาจากสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจระดับโลก ที่ต่างก็ถอยร่นร่วงกรูด อันจะส่งผลต่อความต้องการสินค้าจากต่างประเทศให้ลดลง” นายเซิ่ง ไหลอวิ้น แห่งสำนักงานสถิติแห่งชาติจีนเผย
“ความต้องการบริโภคภายในประเทศลดลงเมื่อรัฐกระชับมาตรการคุมเศรษฐกิจมหภาค โดยเฉพาะอย่างยิ่งการควบคุมภาคอสังหาริมทรัพย์เพื่อผ่อนคลายความร้อนแรงของตลาดฯ ที่ต้องดันอย่างต่อเนื่อง”
การชะลอตัวต่ำของเศรษฐกิจจีนในไตรมาสที่ 2 ทำให้ค่าเฉลี่ย 2 ไตรมาส ของปีลดลงมาอยู่ที่ 7.8 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น
อย่างไรก็ตาม เซิ่งเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจจีนจะกลับมามีเสถียรภาพได้อีก และจีนจะสามารถไปสู่เป้าหมายที่ตั้งไว้ ให้เศรษฐกิจทั้งปีขยายตัวที่ 7.5 เปอร์เซ็นต์
“ผมเชื่อว่า เศรษฐกิจจีนจะยังคงรักษาระดับและเติบโตต่อเนื่องในครึ่งหลังของปี” เซิ่งชี้ให้เห็นศักยภาพทางด้านการลงทุน การบริโภคและการส่งออก เหล่านี้จะยังคงช่วยให้เศรษฐกิจจีนที่เหลืออีกครึ่งปีขยายตัวได้อย่างแน่นอน
“พวกเรามั่นใจมากว่าจะบรรลุเป้าในปี 2555 นี้ได้ตามคาดหมาย”
อย่างไรก็ตาม เป้าหมายเฉลี่ยที่จีนตั้งไว้สำหรับปีที่ผ่านมาซึ่งอยู่ที่ 7.5 เปอร์เซ็นต์ เอาเข้าจริงก็ทะลุเป้าไปเติบโตอยู่ที่ 9.2 เปอร์เซ็นต์ ส่วนปี 2553 ก็ขยายอยู่มากถึง 10.4 เปอร์เซ็นต์
ถัง เจียนเหว่ย นักเศรษฐศาสตร์ของธนาคารเพื่อการติดต่อสื่อสารในเซี่ยงไฮ้ เผยว่า ผลจากตัวเลขการขยายตัวไตรมาส 2 นั้น ถือว่าไม่เหนือความคาดหมาย อย่างไรก็ดีเชื่อว่านักวางแผนเศรษฐกิจในจีนจะสามารถเร่งการขยายตัวทางเศรษฐกิจได้
“พวกเราหวังว่าเงื่อนไขทางเศรษฐกิจในครึ่งหลังของปีจะค่อย ๆ ขยับตัวดีขึ้นกว่าครึ่งแรก” ถังกล่าวกับเอเอฟพี
“อย่างไรก็ตาม เราก็เพิ่งจะได้เห็นการลงทุนจากเดือนมิ.ย.ค่อย ๆ มีเสถียรภาพขึ้น เนื่องจากนโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลจีน”
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา รัฐบาลจีนได้ตัดลดอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 2 ในระยะเวลาเดือนเดียว กอปรกับย้อนไปเดือนธ.ค.ปีที่ผ่านมา รัฐบาลจีนก็ได้สั่งให้ธนาคารลดการเก็บเงินสดสำรองธนาคารลงจวบจนเดี๋ยวนี้ก็ 3 ครั้งแล้ว
การตัดลดเงินสดสำรองธนาคารจะมีประโยชน์คือให้ธนาคารปล่อยเงินกู้ออกไปกระตุ้นให้เศรษฐกิจไหลเวียนได้
ผู้นำจีนให้คำมั่นว่า จะผลักดันมาตรการสำคัญ นายกรัฐมนตรีเวิน จยาเป่าของจีนเรียกร้องให้รัฐบาลเห็นว่า การผลักดันการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศเป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญอันดับแรก ๆ
การชะลอตัวทางเศรษฐกิจในจีนยังส่งผลกระทบไปยังเศรษฐกิจโลก ที่ยังคงชอกช้ำจากภาวะวิกฤติการเงินในปี 2551-52 ยังไม่หายดี
อัตราการจ้างงานในสหรัฐฯ มหาอำนาจเศรษฐกิจอันดับ 1 ของโลกยังคงอ่อนแอ ฝ่ายยุโรปเองก็ยังคงมีปัญหาเรื่องวิกฤติหนี้สินสาธารณะ
เหริน เสียนฟัง แห่งสถาบันไอเอชเอส โกลบอล อินไซต์ เผยรายงานระบุว่า เศรษฐกิจไตรมาส 2 ของจีน ถือว่าเป็นการชะลอตัวต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่ 6 แล้ว
อย่างไรก็ดีเธอเผยว่า รัฐบาลจีนก็ยังคงยึดมั่นในนโยบายเก่าฯ อาทิ การตัดลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก การตัดลดเงินทุนสำรองธนาคาร และอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ เพื่อให้เศรษฐกิจอยู่ในระดับที่ตั้งเป้า
“อย่างไรก็ตาม เราคาดว่าปีนี้เศรษฐกิจจีนน่าจะโตทั้งปีที่ 7.9 เปอร์เซ็นต์”
นอกจากตัวเลขการขยายตัวทางเศรษฐกิจแล้ว สำนักสถิติยังได้เผยตัวเลขการค้าปลีก ที่เป็นตัวชี้วัดการใช้จ่ายผู้บริโภคในเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้นมา 13.7 เปอร์เซ็นต์ เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า แต่หากเทียบกับเดือนก่อนหน้าถือว่าลดลง 0.1 เปอร์เซ็นต์
ผลผลิตจากโรงงานอุตสาหกกรมจีนยังคงช้าลง อยู่ที่ 9.5 เปอร์เซ็นต์ปีต่อปีในเดือนมิ.ย. ลดลงจากระดับ 9.6 เปอร์เซ็นต์ในเดือนก่อนหน้า
