เอเจนซี—ธนาคารประชาชนจีน หรือธนาคารกลางของจีนประกาศลดอัตราดอกเบี้ยเมื่อวานนี้( 7 มิ.ย.) โดยนับเป็นครั้งแรกในรอบ 4 ปี ความเคลื่อนไหวดังกล่าวตอกย้ำว่าผู้นำจีนกังวลการชะลอตัวเศรษฐกิจจะตกอย่างแรง หรือฮาร์ดแลนด์ดิ้ง
นอกจากนี้ จีนยังตัดสินมาตรการผ่อนปรนที่ไม่เคยปรากฎมาก่อน คือไฟเขียวให้กลุ่มธนาคารมีความยืดหยุ่นมากขึ้นในการกำหนดอัตราดอกเบี้ยของตน กลุ่มนักเศรษฐศาสตร์ชี้ว่าความเคลื่อนไหวดังล่าวเป็นก้าวสำคัญในการปฏิรูปการเงินอย่างพลิกผัน
การประกาศลดอัตราดอกเบี้ยโดยธนาคารกลางจีนเมื่อวานนี้ จะมีผลบังคับใช้ในวันนี้(8 มิ.ย.) โดยหั่นดอกเบี้ยเงินฝากและดอกเบี้ยกู้ยืมระยะเวลา 12 เดือน ลง 25 จุด เป็นมาตรการรับมือกับภาวะชะลอตัวเศรษฐกิจที่กำลังดิ่งเหวลึก สืบเนื่องจากวิกฤตหนี้สินในยูโรโซน เลวร้ายลง
การลดอัตราดอกเบี้ยฯครั้งนี้ ทำให้อัตราดอกเบี้ยจีนปัจจุบัน ได้แก่ ดอกเบี้ยกู้ยืมระยะเวลา 1 ปี เท่ากับ 6.31 เปอร์เซนต์ ส่วนอัตราดอกเบี้ยเงินฝากระยะเวลา 1 ปี เท่ากับ 3.25 เปอร์เซนต์ จากระดับ 3.5 เปอร์เซนต์
การประกาศลดอัตราดอกเบี้ยของพญามังกร ส่งผลต่อตลาดหุ้นทั่วโลก ได้แก่ ตลาดหุ้นที่ยุโรปปิดตัวสูงขึ้น ทั้งนี้โดยมีปัจจัยเสริมจากสัญญาณว่าผู้นำในยูโรโซนจะระดมมาตรการเข้มในการสู้ศึกหนี้สิน หุ้นที่ตลาดนิวยอร์กก็พลอยทะยานสูงขึ้นด้วย
นักเศรษฐศาสตร์บางกลุ่มคาดการณ์ว่า จีนจะลดดอกเบี้ยอีกมากกว่าหนึ่งครั้ง หรือสองครั้งในปีนี้ โดยเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการ “การเงินแบบผ่อนปรนอย่างเฉียบขาด” โดยมาตรการนี้จะรวมไปถึงการลดอัตราเงินสดสำรองอีกหลายรอบ นอกไปจากนี้ รัฐบาลกลางจะเดินหน้ารับรองโครงการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานและการลงทุนอื่นๆ เสนอมาตรการส่งเสริมเพื่อกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ
“ขณะนี้ส่อเค้าว่า ดัชนีเศรษฐกจมหภาคหลายๆตัวที่จะแถลงในสุดสัปดาห์ จะฝ่อแฟบลงมาก ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงฮาร์ดแลนดดิ้ง
นักกำหนดนโยบายระดับสูงสุดคงได้เห็นข้อมูลตัวเลขแล้ว และดูจะวิตกกันอย่างหนัก” มิซุโอะ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์แห่งเสิ่นเจี้ยนกวง กล่าว
ขณะนี้พญามังกรวางเป้าดันอัตราเติบโตเศรษฐกิจ หรือจีดีพี ให้ถึงระดับ 7.5 เปอร์เซนต์ โดยเมื่อปีที่แล้ว(2554) เศรษฐกิจจีนโต 9.3 เปอร์เซนต์ อัตราเติบโตได้ร่วงลงไปที่ 8.1 เปอร์เซนต์ ในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ จากระดับ 8.9 เปอร์เซนต์ของไตรมาสสุดท้ายปีที่แล้ว
เมื่อเดือนที่แล้ว ธนาคารโลกก็แถลงปรับลดตัวเลขคาดการณ์อัตราเติบโตเศรษฐกิจจีน ลงอีก 0.2 จุด ซึ่งทำให้จีดีพีจีนปีนี้จะอยู่ที่ 8.2 เปอร์เซนต์ ถือเป็นระดับเลวร้ายที่สุดนับจากปี 2542 พร้อมกับเรียกร้องให้จีนระดมมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการเงินแบบผ่อนปรน เพื่อช่วยดึงการเติบโตสูงขึ้น
เมื่อไม่นานมานี้ นายกรัฐมนตรีเวิน จยาเป่าก็แถลงว่ารัฐบาลจะหยุดยั้งการผูกขาดของกลุ่มธนาคาร และสร้างอัตราเติบโตที่ยั่งยืนด้วยการปฏิรูปการเงิน
กลุ่มนักวิเคราะห์ชี้ว่าการที่รัฐบาลตัดสินให้กลุ่มธนาคารสามารถเสนอสิทธิพิเศษสำหรับอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก ก็เป็นสัญญาณที่แข็งแกร่งที่บ่งชี้ถึงการเปิดเสรีอัตราดอกเบี้ย ทั้งนี้ในอดีต กลุ่มธนาคารจะเสนออัตราดอกเบี้ยเงินฝากตามอัตราดอกเบี้ยพื้นฐานที่ธนาคารกลางกำหนดเท่านั้น
สำหรับกฎใหม่ได้ไฟเขียวให้ธนาคารเสนออัตราดอกเบี้ยพิเศษ 10 เปอร์เซนต์ ของอัตราดอกเบี้ยพื้นฐาน นอกจากนี้ธนาคารยังสามารถเสนอเงินกู้พิเศษ โดยให้ส่วนลดดอกเบี้ย 20 เปอร์เซนต์ จากอัตราดอกเบี้ยกู้ยืมทั่วไป
“ก็หมายถึงว่าธนาคารจะเสนอราคาที่สูงขึ้นในการดึงดูดเงินฝาก และลดราคาเงินกู้ ซึ่งจะกดดันผลกำไรในการปล่อยกู้ของพวกเขา” สแตนลีย์ หลี่ นักเศรษฐศาสตร์แห่ง Mirae Asset Securities กล่าว
ทั้งนี้ หลายปีมานี้ บรรดาธนาคารในแผ่นดินใหญ่ต่างกลุ่มใจเรื่องอัตราเงินฝากที่ถดถอยลง.