เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ - เขตปกครองตนเองอุยกูร์ซินเจียงคุมเข้มการรักษาความปลอดภัยที่สนามบินในขณะนี้ ซึ่งยังไม่พ้นเขตอันตรายในช่วงครบรอบ 3 ปีการก่อเหตุจลาจล
การเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยที่สนามบินทั้ง 16 แห่งในภูมิภาคซินเจียงเริ่มมาตั้งแต่เมื่อวันพฤหัสฯ (5 ก.ค.) เพื่อป้องกันเหตุการณ์ซ้ำรอยการพยายามจี้เครื่องบินเมื่อเดือนที่แล้ว โดยกระเป๋า ซึ่งผู้โดยสารถือติดตัวไปด้วยถูกเปิดตรวจค้นอย่างละเอียด เช่นเดียวกับไม้ค้ำยัน เก้าอี้รถเข็นและอุปกรณ์ช่วยพยุงเดินอื่น ๆ ของผู้โดยสารพิการ ซึ่งต้องมีเอกสารรับรองจากโรงพยาบาลยืนยันว่า จำเป็นต้องนำขึ้นไปบนเครื่องบินด้วย
ทางการจำเป็นต้องบังคับใช้มาตรการใหม่ดังกล่าว หลังจากเกิดเหตุชาวอุยกูร์ 6 คนพยายามจี้เครื่องบิน ซึ่งมีผู้โดยสารเกือบ 100 คน เ มื่อเครื่องบินทะยานขึ้นจากสนามบินเมืองเหอเถียน มุ่งหน้าไปยังอู๋หลู่มู่ฉี ซึ่งเป็นเมืองเอกของเขตปกครองแห่งนี้เมื่อวันที่ 29 มิ.ย. ที่ผ่านมา โดยผู้ต้องสงสัย 2 คนเสียชีวิตที่โรงพยาบาลในเวลาต่อมา ขณะที่ตำรวจและผู้อยู่ในเหตุการณ์ระบุว่า สลัดอากาศบางคนได้ถอดไม้ค้ำยันอะลูมิเนียมออกเป็นชิ้นส่วน เพื่อใช้เป็นอาวุธ
ผู้คนในเมืองอู๋หลู่มู่ฉีกล่าวว่า เริ่มคุ้นเคย ที่มีตำรวจพร้อมอาวุธคอยเดินตรวจตราตามสถานที่สำคัญ เช่นแกรนด์บาซาร์ และจัตุรัสประชาชนในโอกาส ที่ล่อแหลมต่อการเกิดเหตุร้าย
ขณะที่นายจาง ฉุนเซียน เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์สาขาซินเจียงได้เดินทางมาตรวจการฝึกซ้อมของหน่วยต่อต้านการก่อการร้ายด้วยตนเอง การฝึกซ้อมประกอบด้วยการฝึกการยิงปืนด้วยกระสุนจริง และการช่วยเหลือตัวประกัน โดยนายจางออกคำสั่งให้กวาดล้างกองกำลัง 3 ฝ่าย ซึ่งได้แก่พวกหัวรุนแรงทางศาสนา พวกแบ่งแยกดินแดน และพวกผู้ก่อการร้ายให้สิ้นซาก
ทั้งนี้ เหตุจลาจลจากการต่อสู้กันระหว่างชาวจีนเชื้อสายฮั่นกับชนกลุ่มน้อยเชื้อสายอุยกูร์ ในเมืองอู๋หลู่มู่ฉีเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 5 ก.ค. 2552 ทำให้มีผู้เสียชีวิตเกือบ 200 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวฮั่น
นอกจากนั้น การพยายามจี้เครื่องบินโดยสารเมื่อเดือนที่แล้วยังมิใช่เป็นความพยายามครั้งแรกของผู้ก่อการร้าย โดยกระทรวงพิทักษ์สันติราษฎร์ระบุว่า หญิงสาวชาวอุยกูร์ผู้หนึ่งสารภาพว่า เมื่อเดือนมี.ค. 2552 ได้พยายามระเบิดเครื่องบินโดยสาร ซึ่งบินจากเมืองอู๋หลู่มู่ฉี โดยตนสามารถหลอกลวงเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย นำวัตถุระเบิดขึ้นไปบนเครื่องบินได้สำเร็จ