เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ - หัวหน้าสถาบันวิจัยความมั่นคงทางสังคมเสนอ จีนควรเพิ่มอายุผู้เกษียณการทำงานทั่วประเทศเป็น 65 ปีทั้งชายและหญิง เพื่อแก้ไขปัญหาการขาดแคลนกองทุนบำนาญ และการขาดแคลนแรงงานบนแดนมังกร
นายเหอ ผิง ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยความมั่นคงทางสังคม ซึ่งเป็นหน่วยงานในสังกัดของกระทรวงทรัพยากรมนุษย์และความมั่นคงทางสังคมของจีนเสนอในเวทีสัมมนาเกี่ยวกับประชากรสูงอายุที่กรุงปักกิ่งเมื่อวันอาทิตย์ (1 ก.ค.) ว่า นโยบายเพิ่มอายุผู้เกษียณการทำงานนี้ควรเริ่มบังคับใช้ตั้งแต่ปี 2559 และเสร็จสิ้นภายในอีก 33 ปี คือในปี 2588 จากในปัจจุบัน ที่จีนกำหนดให้ผู้เกษียณต้องมีอายุ 60 ปีสำหรับชาย และอายุ 55 ปีสำหรับหญิงในส่วนของเจ้าหน้าที่พลเรือนของรัฐ และอายุ 50 ปีสำหรับหญิงที่ทำงานในภาคอื่น ๆ
ก่อนหน้านี้ นายเฉิน เวินฮุย รองประธานคณะกรรมการกำกับดูแลกฎระเบียบการประกันภัยของจีนเปิดเผยว่า กองทุนบำนาญแห่งชาติกำลังประสบความขาดแคลนมหาศาล แต่มิได้ระบุจำนวนอย่างชัดเจน
อย่างไรก็ตาม ชาวเน็ตคัดค้านข้อเสนอการเพิ่มอายุผู้เกษียณการทำงานของนายผิงอย่างแข็งขัน โดยกว่าร้อยละ 95 ของผู้ถูกสอบถามราว 4,300 คนในการสำรวจของ Cq.qq.com ซึ่งเป็นเว็บข่าวสาร มีที่ทำการในนครฉงชิ่ง ไม่เห็นด้วย พร้อมกับวิตกว่า นโยบายนี้จะทำให้หางานยากขึ้น และต้องการเกษียณอายุการทำงานเร็วขึ้น โดยที่ยังได้รับบำนาญด้วย
การกำหนดอายุผู้เกษียณการทำงานเป็นหัวข้อที่มีการถกเถียงกันมานานในจีน อย่างไรก็ตาม กระทรวงทรัพยากรมนุษย์และความมั่นคงทางสังคมของจีนระบุว่า จะเสนอให้มีการเปลี่ยนแปลงเมื่อทุกภาคส่วนในสังคมบรรลุความเห็นใกล้เคียงกันแล้วเท่านั้น
ขณะที่ผลวิจัยของนักเศรษฐศาสตร์ 2 คนของแบงก์ออฟไชน่า และดอยช์แบงก์เกรตเทอร์ไชน่าเมื่อเดือนมิ.ย. คาดการณ์ว่า ช่องว่างระหว่างหนี้สินในอนาคตกับสินทรัพย์ของกองทุนบำนาญของแผ่นดินใหญ่จะเพิ่มเป็น 18.3 ล้านล้านหยวนในปีหน้า
ปัจจุบัน จีนมีพลเมือง ที่อายุเกิน 60 ปีจำนวน 185 ล้านคน และคาดว่าจะเพิ่มถึง 480 ล้านคนภายในปี 2593 หรือ 1 ใน 3 ของจำนวนประชากรทั้งประเทศ จากข้อมูลในเวทีสัมมนาดังกล่าว
ด้านผลการศึกษาของศูนย์วิจัยกองทุนบำนาญทั่วโลก ซึ่งอยู่ในสังกัดของสถาบันสังคมศาสตร์จีนระบุว่า จำนวนประชากรในวัยทำงานของจีนจะลดลงจาก970 ล้านคนในปี 2553 เหลือ 870 ล้านคนในปี 2593 โดยหลังจากประชากรวัยทำงานมีจำนวนมากถึงจุดสูงสุด 998 ล้านคนในปี 2558 แล้ว จากนั้น ก็จะหดลงเฉลี่ยปีละ 3.66 ล้านคน
