xs
xsm
sm
md
lg

ขุดหุ่นทหารม้าสุสานจิ๋นซีครั้งที่ 3 ไขข้อกังขามหัศจรรย์ 2,000 กว่าปีก่อน

เผยแพร่:   โดย: ชัยพร พยาครุฑ

นักโบราณคดีขุดหลุมทหารดินปั้นนักรบของจิ๋นซีฮ่องเต้ พบสิ่งมหัศจรรย์ตอบโจทย์ข้อกังขาทางโบราณคดีมากมาย (ภาพซินหวา)
ผู้จัดการออนไลน์ - สุสานจิ๋นซีฮ่องเต้และนักรบทหารม้าเป็นสิ่งค้นพบมหัศจรรย์ที่สุดทางโบราณคดีของโลกอีกแห่งหนึ่ง องค์การการศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติหรือยูเนสโก้ได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกเมื่อปี 2530 ล่าสุดนักโบราณคดีทำการขุดหลุมหุ่นทหารอารักขาจิ๋นซีฮ่องเต้หลุมที่ 1 ครั้งที่ 3 ในเมืองซีอาน ค้นพบสิ่งอันเป็นประโยชน์ต่อวงการศึกษาโบราณคดีและประวัติศาสตร์ ไขข้อกังขาเกี่ยวกับยุคสองพันปีก่อนได้อย่างมาก

ผู้เชี่ยวชาญเริ่มต้นขุดค้นหลุมหมายเลข 1 ใหม่เมื่อปี 2552 พบตุ๊กตาดินปั้นจำนวน 310 ชิ้น อันประกอบไปด้วยรถม้า อาวุธ และเครื่องไม้เครื่องมือต่าง ๆ มีม้าดินปั้น 12 ตัว และนักรบอีกประมาณ 120 เฉา เหว่ย ภัณฑารักษ์ของพิพิธภัณฑ์สุสานทหารม้าจิ๋นซีเล่าว่า ทุกครั้งที่มีการขุดใหม่จะพบลวดลายอันงดงามบนฝาครอบรถม้าเสมอ

จัง เว่ยซิง นักวิจัยโบราณคดีเผยว่า ทหารในสมัยราชวงศ์ฉิน (221-206 BC) ใช้โล่ป้องกันตัว ซึ่งมีความยาว 60 ซม. กว้าง 40 ซม. สีแดง เขียว และขาว เป็นรูปทรงเรขาคณิตต่างกันไป เชื่อว่าโล่เหล่านี้เป็นของนายทหารระดับสูง เพราะมีขนาดใหญ่สีสันงดงาม นอกจากนั้นเสื้อเกราะอาภรณ์ของหุ่นก็ฉูดฉาดตระการตาขนาดที่นักโบราณคดีหลายคนไม่เคยจินตนาการมาก่อน เพราะส่วนใหญ่ภาพลวดลายบนตัวหุ่นมักจะถูกกาลเวลาทำลายไปจนสิ้น
รูปปั้นสูง 2.2 เมตร ในหลุมที่ 3 นักโบราณคดีเชื่อว่าเป็นนักแสดงที่ให้ความบันเทิงในกองทัพ เชื่อว่าหากต่อเสร็จจะสูงถึง 2.5 เมตร (ภาพไชน่าเดลี)
นายหยวน จงอี้ อดีตภัณฑารักษ์ผู้ดูแลโครงการขุดค้นเผยว่า สิ่งที่ทำให้การขุดค้นประสบความสำเร็จก็คือการจัดระเบียบทหารในสมัยราชวงศ์ฉิน นักโบราณคดีคาดการณ์ว่าในอดีตกองทหารโบราณน่าจะมีหน่วยรบปีกขวา-ซ้ายเพื่อป้องกันศัตรูจากด้านข้าง และการขุดค้นพบในครั้งนี้ก็ยืนยันแล้วว่า กองทหารฉินมีหน่วยปีกคอยรับมือข้าศึกจริง

ซีว์ เว่ยหง นักวิจัยอีกคนที่ทำหน้าที่จากปี 2552-2554 เล่าว่า นักโบราณคดีพบนักรบทหารจำนวนมากมีตาสีดำหรือสีเทา หรือบางหุ่นมีลูกตาสีแดงแต่นัยน์ตาสีดำ ส่วนหุ่นทหารที่เชื่อว่าอยู่ระดับแถวหน้าจะมีการตกแต่งเสื้อเกราะอย่างหรูหราเพิ่มขึ้นด้วย

นักโบราณคดีตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับการเผาตุ๊กตาทหารและม้าดินปั้นไว้ 2 ประการ คือการเผาด้วยวิธีธรรมชาติโดยใช้เชื้อเพลิงจำพวกฟืนและถ่าน กับอีกวิธีนั้นน่าจะเป็นการเผาโดยเจตนา ในระหว่างการขุดหลุมครั้งที่ 3 นี้ นักโบราณคดีพบหลักฐานยืนยันว่า การจุดไฟเผาสุสานน่าจะกระทำอย่างจงใจ และเชื่อว่า เซี่ยงอี่ว์ (232-202 BC) ซึ่งเป็นผู้นำที่สามารถโค่นล้มราชวงศ์ฉินได้สำเร็จ บรรดาทหารของเขาน่าจะเป็นผู้จุดไฟเผาหลุมทหารดินปั้นสุสานจิ๋นซี” เสิน เหมาเซิง หัวหน้าทีมโบราณคดีขุดค้นครั้งที่ 3 ให้ข้อสรุป พร้อมยกความดีในการไขข้อกังขานี้ให้กับการขุดหลุมล่าสุด
มือและแขนเสื้อที่มีสีสันฉูดฉาดสะดุดตาของนักรบหุ่นปั้น (ภาพไชน่าเดลี )
“นอกจากนั้นนักโบราณคดียังค้นพบตุ๊กตาดินปั้นนักแสดง จากหลุมที่ตั้งอยู่แถบตะวันออกเฉียงใต้ของสุสานจำนวน 41 หุ่น ซึ่งแต่งชุดแตกต่างจากทหาร พิจารณาจากสัณฐานแล้วน่าจะพอเดาได้ว่าเป็นหุ่นปั้นนักแสดงเพื่อความบันเทิงในกองทัพ หนึ่งในนักแสดงที่ค้นพบมีส่วนสูง 2 เมตรครึ่ง ตัวมีสีแดง ม่วง และดำ” เสินกล่าว

ข้อมูลจากภัณฑารักษ์เฉาระบุด้วยว่าการขุดหลุมครั้งที่ 3 เริ่มต้นมาตั้งแต่ 13 มิ.ย. 2552 จะลุล่วงในอีก 2-3 ปี โดยการขุดหลุมจะถ่ายทอดให้ประชาชนรับรู้ด้วย ตลอด 3 ปีที่ผ่านมามีผู้คนกว่า 1.4 ล้านคนที่ได้ร่วมเป็นสักขีพยานชมการทำงานของนักโบราณคดีฯ

ความจริงของ “ปิงหมาหย่ง”

จักรพรรดิฉินสื่อหวง หรือจิ๋นซีฮ่องเต้ (259-210 BC) ขึ้นครองรัฐฉินเมื่อพระชนม์ 13 พรรษา เป็นผู้นำรัฐสู่สงครามเมื่อ 22 พรรษา ย่างเข้า 221 ปีก่อนคริสตกาล จิ๋นซีฮ่องเต้ได้ผนวก 6 แคว้นอันได้แก่ ฉี ฉู่ เอี๋ยน ฮั่น เจ้า และเว่ย เข้าเป็นหนึ่งเดียวและสถาปนารัฐที่มีเอกภาพเป็นปึกแผ่นครั้งแรกในประวัติศาสตร์จีน ปฐมจักรพรรดิราชวงศ์ฉินได้ระดมเกณฑ์นักโทษ 700,000 คน เพื่อสร้างสุสานของตนทันทีที่ขึ้นสู่อำนาจ เพื่อให้มั่นใจว่าหลังจากสิ้นพระชนม์ไปแล้วจะบรรทมได้อย่างสันติ การสร้างสุสานกินเวลานานถึง 38 ปี
รายละเอียดใบหน้าและดวงตา (ภาพซินหวา)
สุสานจิ๋นซีฯ ตั้งอยู่แถบภูเขาหลีซาน เขตหลินถง เมืองซีอาน เมืองเอกของมณฑลส่านซี สุสานเป็นสี่เหลี่ยมมีหลังคาเรียบ สูง 76 เมตร ยาว 345 เมตร กว้างจากเหนือจรดใต้ 350 เมตร กินเนื้อที่ 120,750 ตารางเมตร ผลการสำรวจของนักโบราณคดีเผยว่า ส่วนที่เป็นจุดเก็บพระศพของจิ๋นซีจะมีทหารดินปั้นอารักขารายรอบทั้งในและรอบนอก ส่วนตัวสุสานยังไม่มีการขุดค้น ขณะนี้ได้ไล่ขุดหลุมทหารม้าซึ่งค้นพบไกลออกไปทางทิศตะวันออกของสุสาน 1 กม.ก่อน

ทั้งนี้หลุมหมายเลข 1 ค้นพบโดยบังเอิญในเดือนมี.ค. 2517 มีชาวนาคนหนึ่งในหมู่บ้านใกล้ ๆ ขุดบ่อน้ำแล้วพบหุ่นปั้นแตกอยู่ใต้ดิน เมื่อนักโบราณคดีเข้ามาสำรวจก็พบหุ่นปั้นคนเหมือนเป็นทหารและม้าของจิ๋นซีจำนวนมหาศาล หุ่นปั้นเหล่านี้เป็นที่รู้จักในชื่อ ปิงหมาหย่ง (兵马俑)

หลังจากสำรวจ ในปี 2519 ก็พบหลุมที่ 2 ห่างจากหลุมแรกไปทางเหนือ 20 เมตร และหลุมที่ 3 ก็พบห่างจากหลุมแรกไปทางเหนืออีก 25 เมตร หุ่นทหารและม้าถูกจัดวางเรียงตามระเบียบการรบสมัยฉิน เพื่อทำหน้าที่เฝ้าระแวดระวังสุสานหลวงของจิ๋นซี โดยเหล่าทหารปั้นมีรายละเอียดหน้าตา ส่วนสูง กระทั่งอารมณ์ที่แสดงออกบนใบหน้าแตกต่างกันไป

การค้นพบนี้เป็นกระแสสนใจทั้งในและนอกจีน ในปี 2518 คณะมุขมนตรีจีนได้อนุมัติสร้างพิพิธภัณฑ์ขนาดใหญ่ครอบหลุมที่ 1 กินพื้นที่ 16,300 ตารางเมตร และเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมเมื่อ 1 ต.ค. 2522 ทั้งนี้ พื้นที่ทั้งหมดของ 3 หลุมรวมกันแล้วมากกว่า 20,000 ตารางเมตร มีหุ่นปั้นทหาร รถม้า และอาวุธต่าง ๆ กว่า 8,000 ชิ้น และในปี 2523 ก็ได้พบรถม้าหล่อด้วยสำริดชิ้นใหญ่สุดของจีนด้วย
หลุมที่นักโบราณคดีทำการขุดค้นครั้งที่ 3 (ภาพซินหวา)
ในระหว่างปี 2517-2527 มีการขุดพบหุ่นทหารและม้าจำนวน 1,087 หุ่นในหลุมที่ 1 นอกจากนั้นยังมีการค้นพบกระบี่เคลือบกันสนิม ทั้งที่สหรัฐฯเพิ่งจะค้นพบวิทยาการเคลือบลักษณะนี้เมื่อ 200 กว่าปีที่ผ่านมา ทำให้นักโบราณคดีสงสัยกันว่า การเคลือบกระบี่ให้ไร้สนิมในสมัยนั้นมีวิธีการอย่างไร และที่น่าประหลาดใจคือกระบี่ดังกล่าวถูกหุ่นทหารล้มทับจนโค้งงอมาเป็นเวลานับพันปี แต่ครั้นเมื่อยกหุ่นดินปั้นขึ้น กระบี่กลับค่อย ๆ ดีดตัวขึ้นมาในสันฐานตรงตามเดิม

ต่อมาในปี 2528 พิพิธภัณฑ์ได้เริ่มทำการขุดหลุมที่ 2 แต่ใช้เวลาเพียง 1 ปีก็ต้องยุติเนื่องจากมีเทคโนโลยีและอุปกรณ์ที่จำกัด

หุ่นทหารปั้นซึ่งเชื่อว่าอยู่ในลักษณะยืนประจำการนั้น บางส่วนถูกทำลายจนแตกหักจากการขุด หลังจากซ่อมแซมและฟื้นสภาพแล้ว จะได้จัดแสดงในลักษณะเดิมเหมือนกับสมัยฉิน จากการพิจารณาความหนาแน่นของจำนวนทหารแล้ว นักโบราณคดีเชื่อว่า ยังมีหุ่นทหารถูกฝังอยู่อีกมาก

(เรียบเรียงจากไชน่าเดลี)
กำลังโหลดความคิดเห็น