เมื่อก่อน "ศิลปินดารา" เป็นอาชีพที่ถูกตราหน้าว่า "เต้นกินรำกิน" แต่ปัจจุบันเห็นได้ชัดว่า "ดารา" เป็นอาชีพที่สามารถสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำ สร้างชื่อเสียงโด่งดัง มีแฟนคลับนิยมชมชอบ และตามมาด้วยอภิสิทธิ์ต่างๆ หลายประการ ใครๆ ก็อยากมีผลงานออกจอทีวีบ้าง แม้แต่เหล่าเซเลปไฮโซทั้งหลายก็ยังพิสมัยจะกระโดดเข้ามาเริงระบำบนเวทีแห่งแสงสีนี้
ในวงการบันเทิงแดนมังกร มี "คุณชาย" ตระกูลใหญ่หลายคน ที่มีโอกาสเข้ามาสัมผัสอาชีพนี้ และมีชื่อเสียงโด่งดังจนครอบครัวอาจมีร้อนๆ หนาวๆ เพราะกลัวว่าพวกเขาเหล่านี้จะไม่กลับไปสานต่อธุรกิจครอบครัวที่มีมูลค่านับพันล้านอีกนั่นเอง
เฝิงเส้าเฟิง (冯绍峰)
ดังเปรี้ยงปร้างเพียงชั่วคืน หลังจากกระโดดมารับบท "องค์ชาย 8" ในซีรี่ย์เจาะเวลาทะลุมิติเรื่อง "The Palace" คู่กับสาวหยางมี่ในปี 2011 จนตอนนี้เฝิงเส้าเฟิงกลายเป็นพระเอกที่ถูกพูดถึงมากที่สุดคนหนึ่งของวงการบันเทิง และกลายเป็นแบบฉบับของชายหนุ่มที่สาวๆ ใฝ่ฝันถึง เพราะนอกจากหน้าตาที่หล่อเหลาแล้ว ชาติตระกูลของเขาก็ยังไม่ธรรมดาอีกด้วย
เฝิงเส้าเฟิง เกิดวันที่ 7 ตุลาคม ค.ศ.1978 เป็นลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของนักธุรกิจอุตสาหกรรมสิ่งทอรายใหญ่ของจีน ครอบครัวเขามีโรงงานตั้งอยู่ที่เวินโจว กว่างโจว และฝูโจว ทรัพย์สินโดยรวมทั้งสิ้นไม่ต่ำกว่าพันล้านหยวน และเขาก็เป็นทายาทเพียงคนเดียวของตระกูล แต่เพราะเฝิงเส้าเฟิงใฝ่ฝันที่จะเข้าสู่วงการบันเทิง จึงได้เลือกที่จะเรียนการแสดงที่มหาวิทยาลัย shanghai theatre academy
หลังจากเรียนจบก็มีโอกาสคลุกคลีทำงานอยู่ในวงการบันเทิงมากว่า 10 ปี กระทั่งประสบความสำเร็จอย่างทุกวันนี้ แถมได้ข่าวว่าเขากำลังอินเลิฟอยู่กับ "หนีหนี" นางเอกเรื่อง "Flowers Of War" หนังระดับรางวัลของผู้กำกับจางอี้โหมวอีกด้วย
อู๋จุน (吴尊)
อู๋จุน แม้จะแจ้งเกิดในฐานะนักร้องนักแสดงชื่อดังของไต้หวัน แต่ความจริงแล้วเขาเป็นชาวบรูไนเชื้อสายจีนโดยกำเนิด มีชื่อจริงว่า อู๋จี๋จุน พ่อของเขาอู๋จิ่งเทียน เป็นเจ้าพ่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของบรูไน ลุงของเขา อู๋จิ่งจิ้น เป็นเจ้าของบริษัท Goh Hock Kee Motors ซึ่งเป็นตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ยี่ห้อ ซูซูกิ, เชฟโรเลท และมิตซูบิชิในบรูไน ซึ่งแต่ละปีมียอดขายรถยนต์เฉลี่ยสูงถึง 1 ใน 3 ของยอดขายทั่วประเทศ นอกจากนี้ยังเป็นหนึ่งในผู้บริหารระดับสูงของหนังสือพิมพ์บรูไนไทม์ และติดอันดับ 1 ใน 10 มหาเศรษฐีบรูไนด้วย
หนุ่มหน้ามน อู๋จุน เกิดวันที่ 10 ตุลาคม ค.ศ.1980 จบการศึกษาระดับปริญญาตรีด้านบริหารธุรกิจ จากมหาวิทยาลัย Royal Melbourne Institute of Technology (RMIT University) เมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย หลังจากเรียนจบ อู๋จุนใช้ความรู้ที่ร่ำเรียนมาบริหารธุรกิจสถานออกกำลังกายฟิตเนสของเขาในบรูไนที่ชื่อว่า "Fitness Zone" ก่อนจะมีโอกาสได้ชิมลางงานถ่ายแบบ ได้เล่นละคร กระทั่งมาเป็นหนึ่งในสมาชิกของวงบอยแบนด์สุดฮอตของไต้หวันอย่าง "ฟาเรนไฮน์" อย่างไรก็ตาม ในปี 2011 อู๋จุนได้ประกาศถอนตัวออกจากวงฟาเรนไฮน์เพื่อเบนเข็มสู่การแสดงอย่างเต็มตัว
ม่ายจุ้นหลง (麦浚龙)
ม่ายจุ้นหลง เกิดวันที่ 18 มีนาคม ค.ศ. 1984 เดิมชื่อ ม่ายหยุ่นหรัน ฉายา "เฉินกว้านซีหมายเลข 2" เคยเป็นแฟนกับอาเจียว นักร้องสาววงทวินส์มาก่อน พ่อของเขา ม่ายเส้าถัง เศรษฐีชาวฮ่องกง ดำรงตำแหน่งเป็นประธานบริษัทโทรคมนาคม CCT Telecom Group มีบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์ถึง 4 แห่ง ทรัพย์สินครอบครัวมีไม่ต่ำกว่าพันล้านเหรียญฮ่องกง พี่ชายของเขาเป็นผู้ก่อตั้งนิตยสารชื่อว่า MILK และค่ายเพลง Silly Thing
ม่ายจุ้นหลงเข้าสู่วงการเพลงในปี 2002 โดยสังกัดค่ายเพลงยูนิเวอร์แซล มิวสิค ก่อนจะออกมาสังกัดค่ายเพลงของพี่ชายในปี 2004 ระหว่างนั้นมีการเปิดเผยข้อมูลว่า การทำโปรโมทม่ายจุ้นหลงของยูนิเวอร์แซลนั้น ได้รับเงินสนับสนุนจากพ่อของเขานั่นเอง
อย่างไรก็ตามแม้ว่างานเพลงชุดหลังๆ ของม่ายจุ้นหลงจะเป็นที่ยอมรับมากขึ้น แต่ไม่อาจปฏิเสธได้ว่า สิ่งที่สื่อมวลชนให้ความสนใจยิ่งกว่า ก็คือเรื่องราวความรักระหว่างเขาและอาเจียว ที่ในช่วงนั้นสาวเจ้ากำลังเจอมรสุมภาพลับกระฉ่อนวงการนั่นเอง
หลินฟง (林峰)
หลิงฟง พระเอกลูกหม้อของทีวีบี แจ้งเกิดจากบท "อิ๋งเจิ้น" จิ๋นซีฮ่องเต้วัยหนุ่ม ในภาพยนตร์จีนเรื่อง "เจาะเวลาหาจิ๋นซี" ที่นำแสดงโดยกู่เทียนเล่อเมื่อกว่าสิบปีก่อน ตั้งแต่เข้าวงการบันเทิงมา หลินฟงก็เผชิญกับมรสุมข่าวลือต่างๆ มากมาย รวมไปถึงข่าวลือที่ว่าเขาเป็นเด็กเส้น ทีวีบีถึงได้ผลักดันเขาเป็นพิเศษ เนื่องจากพ่อของเขาก็คือ หลินหวา เศรษฐีที่ดิน ผู้เป็นเจ้าของกิจการอสังหาริมทรัพย์มากมายทั้งในแผ่นดินใหญ่และฮ่องกง และได้รับการขนานนามว่าเป็น "ลีกาชิงแห่งเซี่ยเหมิน"
แต่โดยส่วนตัวแล้ว หลินฟงไม่ค่อยชอบใจนักที่ใครๆ จะพากันสนใจภูมิหลังทางครอบครัวของเขา มากกว่าความสามารถทางการแสดง หลินฟงเคยเดินทางไปเรียนต่อด้านสถาปัตยกรรมศาสตร์ที่สหรัฐฯ แต่ด้วยความที่เขาชื่นชอบการแสดงมากกว่าเป็นนักธุรกิจ จึงได้ตัดสินใจกลับมาเริ่มต้นความฝันทั้งที่เพิ่งเข้ามหาวิทยาลัยที่นั่นได้แค่ปีเดียว
ตัวเขาเองกว่าจะได้มาเป็นพระเอกอย่างทุกวันนี้ ก็ต้องเริ่มต้นจากการเข้าเป็นนักเรียนการแสดงของทีวีบี แล้วก็ไต่เต้าเป็นผู้ประกาศข่าวบันเทิง เป็นตัวประกอบ และขึ้นแท่นพระเอกอย่างทุกวันนี้ ล่าสุดนอกจากภาพยนตร์จอแก้วแล้ว หลินฟงวางแผนเจาะตลาดหนังจอเงินมากขึ้น โดยผลงานที่ฉายในบ้านเราเมื่อเร็วๆ นี้คือ "THE SORCERER AND THE WHITE SNAKE หรือ ตำนานเดชนางพญางูขาว ที่แสดงร่วมกับ หวงเซิ่งอี และเจ็ท ลี นั่นเอง
ในวงการบันเทิงแดนมังกร มี "คุณชาย" ตระกูลใหญ่หลายคน ที่มีโอกาสเข้ามาสัมผัสอาชีพนี้ และมีชื่อเสียงโด่งดังจนครอบครัวอาจมีร้อนๆ หนาวๆ เพราะกลัวว่าพวกเขาเหล่านี้จะไม่กลับไปสานต่อธุรกิจครอบครัวที่มีมูลค่านับพันล้านอีกนั่นเอง
เฝิงเส้าเฟิง (冯绍峰)
ดังเปรี้ยงปร้างเพียงชั่วคืน หลังจากกระโดดมารับบท "องค์ชาย 8" ในซีรี่ย์เจาะเวลาทะลุมิติเรื่อง "The Palace" คู่กับสาวหยางมี่ในปี 2011 จนตอนนี้เฝิงเส้าเฟิงกลายเป็นพระเอกที่ถูกพูดถึงมากที่สุดคนหนึ่งของวงการบันเทิง และกลายเป็นแบบฉบับของชายหนุ่มที่สาวๆ ใฝ่ฝันถึง เพราะนอกจากหน้าตาที่หล่อเหลาแล้ว ชาติตระกูลของเขาก็ยังไม่ธรรมดาอีกด้วย
เฝิงเส้าเฟิง เกิดวันที่ 7 ตุลาคม ค.ศ.1978 เป็นลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของนักธุรกิจอุตสาหกรรมสิ่งทอรายใหญ่ของจีน ครอบครัวเขามีโรงงานตั้งอยู่ที่เวินโจว กว่างโจว และฝูโจว ทรัพย์สินโดยรวมทั้งสิ้นไม่ต่ำกว่าพันล้านหยวน และเขาก็เป็นทายาทเพียงคนเดียวของตระกูล แต่เพราะเฝิงเส้าเฟิงใฝ่ฝันที่จะเข้าสู่วงการบันเทิง จึงได้เลือกที่จะเรียนการแสดงที่มหาวิทยาลัย shanghai theatre academy
หลังจากเรียนจบก็มีโอกาสคลุกคลีทำงานอยู่ในวงการบันเทิงมากว่า 10 ปี กระทั่งประสบความสำเร็จอย่างทุกวันนี้ แถมได้ข่าวว่าเขากำลังอินเลิฟอยู่กับ "หนีหนี" นางเอกเรื่อง "Flowers Of War" หนังระดับรางวัลของผู้กำกับจางอี้โหมวอีกด้วย
อู๋จุน (吴尊)
อู๋จุน แม้จะแจ้งเกิดในฐานะนักร้องนักแสดงชื่อดังของไต้หวัน แต่ความจริงแล้วเขาเป็นชาวบรูไนเชื้อสายจีนโดยกำเนิด มีชื่อจริงว่า อู๋จี๋จุน พ่อของเขาอู๋จิ่งเทียน เป็นเจ้าพ่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของบรูไน ลุงของเขา อู๋จิ่งจิ้น เป็นเจ้าของบริษัท Goh Hock Kee Motors ซึ่งเป็นตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ยี่ห้อ ซูซูกิ, เชฟโรเลท และมิตซูบิชิในบรูไน ซึ่งแต่ละปีมียอดขายรถยนต์เฉลี่ยสูงถึง 1 ใน 3 ของยอดขายทั่วประเทศ นอกจากนี้ยังเป็นหนึ่งในผู้บริหารระดับสูงของหนังสือพิมพ์บรูไนไทม์ และติดอันดับ 1 ใน 10 มหาเศรษฐีบรูไนด้วย
หนุ่มหน้ามน อู๋จุน เกิดวันที่ 10 ตุลาคม ค.ศ.1980 จบการศึกษาระดับปริญญาตรีด้านบริหารธุรกิจ จากมหาวิทยาลัย Royal Melbourne Institute of Technology (RMIT University) เมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย หลังจากเรียนจบ อู๋จุนใช้ความรู้ที่ร่ำเรียนมาบริหารธุรกิจสถานออกกำลังกายฟิตเนสของเขาในบรูไนที่ชื่อว่า "Fitness Zone" ก่อนจะมีโอกาสได้ชิมลางงานถ่ายแบบ ได้เล่นละคร กระทั่งมาเป็นหนึ่งในสมาชิกของวงบอยแบนด์สุดฮอตของไต้หวันอย่าง "ฟาเรนไฮน์" อย่างไรก็ตาม ในปี 2011 อู๋จุนได้ประกาศถอนตัวออกจากวงฟาเรนไฮน์เพื่อเบนเข็มสู่การแสดงอย่างเต็มตัว
ม่ายจุ้นหลง (麦浚龙)
ม่ายจุ้นหลง เกิดวันที่ 18 มีนาคม ค.ศ. 1984 เดิมชื่อ ม่ายหยุ่นหรัน ฉายา "เฉินกว้านซีหมายเลข 2" เคยเป็นแฟนกับอาเจียว นักร้องสาววงทวินส์มาก่อน พ่อของเขา ม่ายเส้าถัง เศรษฐีชาวฮ่องกง ดำรงตำแหน่งเป็นประธานบริษัทโทรคมนาคม CCT Telecom Group มีบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์ถึง 4 แห่ง ทรัพย์สินครอบครัวมีไม่ต่ำกว่าพันล้านเหรียญฮ่องกง พี่ชายของเขาเป็นผู้ก่อตั้งนิตยสารชื่อว่า MILK และค่ายเพลง Silly Thing
ม่ายจุ้นหลงเข้าสู่วงการเพลงในปี 2002 โดยสังกัดค่ายเพลงยูนิเวอร์แซล มิวสิค ก่อนจะออกมาสังกัดค่ายเพลงของพี่ชายในปี 2004 ระหว่างนั้นมีการเปิดเผยข้อมูลว่า การทำโปรโมทม่ายจุ้นหลงของยูนิเวอร์แซลนั้น ได้รับเงินสนับสนุนจากพ่อของเขานั่นเอง
อย่างไรก็ตามแม้ว่างานเพลงชุดหลังๆ ของม่ายจุ้นหลงจะเป็นที่ยอมรับมากขึ้น แต่ไม่อาจปฏิเสธได้ว่า สิ่งที่สื่อมวลชนให้ความสนใจยิ่งกว่า ก็คือเรื่องราวความรักระหว่างเขาและอาเจียว ที่ในช่วงนั้นสาวเจ้ากำลังเจอมรสุมภาพลับกระฉ่อนวงการนั่นเอง
หลินฟง (林峰)
หลิงฟง พระเอกลูกหม้อของทีวีบี แจ้งเกิดจากบท "อิ๋งเจิ้น" จิ๋นซีฮ่องเต้วัยหนุ่ม ในภาพยนตร์จีนเรื่อง "เจาะเวลาหาจิ๋นซี" ที่นำแสดงโดยกู่เทียนเล่อเมื่อกว่าสิบปีก่อน ตั้งแต่เข้าวงการบันเทิงมา หลินฟงก็เผชิญกับมรสุมข่าวลือต่างๆ มากมาย รวมไปถึงข่าวลือที่ว่าเขาเป็นเด็กเส้น ทีวีบีถึงได้ผลักดันเขาเป็นพิเศษ เนื่องจากพ่อของเขาก็คือ หลินหวา เศรษฐีที่ดิน ผู้เป็นเจ้าของกิจการอสังหาริมทรัพย์มากมายทั้งในแผ่นดินใหญ่และฮ่องกง และได้รับการขนานนามว่าเป็น "ลีกาชิงแห่งเซี่ยเหมิน"
แต่โดยส่วนตัวแล้ว หลินฟงไม่ค่อยชอบใจนักที่ใครๆ จะพากันสนใจภูมิหลังทางครอบครัวของเขา มากกว่าความสามารถทางการแสดง หลินฟงเคยเดินทางไปเรียนต่อด้านสถาปัตยกรรมศาสตร์ที่สหรัฐฯ แต่ด้วยความที่เขาชื่นชอบการแสดงมากกว่าเป็นนักธุรกิจ จึงได้ตัดสินใจกลับมาเริ่มต้นความฝันทั้งที่เพิ่งเข้ามหาวิทยาลัยที่นั่นได้แค่ปีเดียว
ตัวเขาเองกว่าจะได้มาเป็นพระเอกอย่างทุกวันนี้ ก็ต้องเริ่มต้นจากการเข้าเป็นนักเรียนการแสดงของทีวีบี แล้วก็ไต่เต้าเป็นผู้ประกาศข่าวบันเทิง เป็นตัวประกอบ และขึ้นแท่นพระเอกอย่างทุกวันนี้ ล่าสุดนอกจากภาพยนตร์จอแก้วแล้ว หลินฟงวางแผนเจาะตลาดหนังจอเงินมากขึ้น โดยผลงานที่ฉายในบ้านเราเมื่อเร็วๆ นี้คือ "THE SORCERER AND THE WHITE SNAKE หรือ ตำนานเดชนางพญางูขาว ที่แสดงร่วมกับ หวงเซิ่งอี และเจ็ท ลี นั่นเอง