เอเอฟพี - ประธานาธิบดีหม่า อิงจิ่วของไต้หวันลั่น (7 มิ.ย.) ไต้หวันไม่เคยต้องการอยากจะทำสงครามกับแผ่นดินใหญ่ แต่ก็ไม่เคยครั่นคร้ามการศึก
ประธานาธิบดีไต้หวันเดินทางเข้าร่วมชมการฝึกซ้อมรบยิงด้วยกระสุนจริง โดยจำลองสถานการณ์หากว่าไต้หวันถูกจีนแผ่นดินใหญ่บุก ในการนี้หม่า อิงจิ่วได้เผยวาทะไม่เกรงกลัวจีน เพื่อลบล้างคำสบประมาทที่ว่ารัฐบาลของเขาอ่อนปวกเปียกไม่กล้าหือกับจีน ครั้งนี้หม่าได้ชมการซ้อมรับมือและรบด้วยกระสุนจริง มีทั้งภาพการใช้อากาศยานช่วยชีวิต การใช้ปืนใหญ่ และเรือรบ
“พวกเราไม่ได้จ้องหาเรื่องก่อสงคราม แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเราขลาดกลัว” หม่าบอกผู้สื่อข่าวและแขกพยานผู้เข้าร่วมชมการซ้อมรบ ณ ภูเขาเป่าลี่ อันเป็นสมรภูมิซ้อมรบทางการทหารที่ใหญ่สุดของไต้หวัน
ในการซ้อมรบครั้งนี้ใช้รหัสลับ “เหลียนย่ง” ที่หมายถึง ดำเนินการต่อเนื่องตลอดการซ้อม โดยจำลองให้กองกำลังของจีนขึ้นฝั่งทางชายหาดแถบตะวันตกของไต้หวัน และเข้ายึดสมรภูมิใกล้กับตำแหน่งภูเขา
ในการซ้อมครั้งนี้ ทหารราบไต้หวันเข้ายึดจุดหมายสำคัญ โดยได้รับความช่วยเหลือจากเครื่องบินขับไล่ F-16 และเฮลิคอปเตอร์จู่โจมเบลล์ เอเอช-1 ซูเปอร์คอบรา และจรวดต่อต้านรถถัง Javlin
หม่าขึ้นดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีของไต้หวันสมัยที่ 2 ซึ่งเป็น 4 ปีสุดท้ายของเขา หม่ามีแนวโน้มนำสัมพันธ์ไต้หวันไปผูกกับจีนอย่างแนบแน่น โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว การค้า และการลงทุน ผิดกับประธานาธิบดีคนก่อนหน้า นายเฉิน สุยเปี่ยน ผู้ยึดถือนโยบายเป็นอิสระจากจีน นอกจากนั้นหม่ายังถูกวิจารณ์จากฝ่ายค้านว่าไม่ค่อยเดินทางไปชมการซ้อมรบใหญ่ ๆ ของฝ่ายความมั่นคง
แม้ว่าจีนและไต้หวันจะมีสัมพันธ์ดีขึ้นเป็นลำดับภายใต้รัฐบาลหม่า อิงจิ่ว แต่จีนก็ยังไม่ได้บอกว่าจะล้มเลิกการรวมไต้หวันเป็นหนึ่งเดียว หรือไม่ได้บอกว่าจะไม่ใช้กำลังกับไต้หวัน หากไต้หวันประกาศเอกราช
จีนและไต้หวันแบ่งแยกการปกครองนับแต่สิ้นสุดสงครามกลางเมืองเมื่อปี 2492 แต่จีนยังคงมองว่าไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของจีนที่รอการหวนคืนสู่ความเป็นจีนเดียว
ภาพบรรยากาศการซ้อมรบ (เอเอฟพี)