ผู้จัดการออนไลน์ - จีนมีปัญหาคอร์รัปชั่นไม่น้อย แต่ก็ยังเชือดไก่ให้ลิงดูอยู่เป็นประจำ ล่าสุดคณะกรรมาธิการตรวจสอบวินัยกลางแห่งพรรคคอมมิวนิสต์จีนมีมติขับนายหลิว จื้อจวิน อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงรถไฟออกจากการเป็นสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์ พร้อมส่งฟ้องร้องคดีอาญาข้อหาฉ้อราษฎร์บังหลวงต่อเนื่อง
สำนักข่าวซินหวารายงานข่าวนายหลิว จื้อจวิน เมื่อวันที่ 28 พ.ค.ที่ผ่านมาว่า หลังจากคณะกรรมาธิการตรวจสอบวินัยฯ ทำการไต่สวนมาเป็นเวลา 15 เดือนได้ข้อสรุปว่านายหลิวได้กระทำผิดละเมิดวินัยพรรคฯ อย่างร้ายแรง และให้ถือเป็นคดีอาญา
อนาคตที่ (เคย) สดใส
นายหลิว เป็นผู้มีบทบาทในการพัฒนาเครือข่ายรถไฟความเร็วสูง ซึ่งทำให้ทั่วโลกตะลึงกับเทคโนโลยีการคมนาคมที่พัฒนาเร็วปานฟ้าแลบของจีน เขาใช้นโยบายก้าวหน้าแบบ “กบกระโดด” จนได้รับฉายา “หลิวกระโดด” นายหลิวเข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงรถไฟในปี 2539 และต่อมาขึ้นแท่นรัฐมนตรีฯ ในปี 2546
อย่างไรก็ตามโครงการก่อสร้างฯ ในระหว่างที่นายหลิวดำรงตำแหน่งฯ ถูกวิจารณ์เละว่าไร้คุณภาพไม่ปลอดภัย กอปรกับมีการทุจริตมหาศาล อุบัติเหตุเมื่อเดือนเมษายน พ.ศ. 2551 รถไฟสายปักกิ่ง-ชิงเต่าชนครั้งร้ายแรงในรอบทศวรรษที่มณฑลซานตงเนื่องจากเจ้าหน้าที่ขับเร็วเกินอัตราและรถไฟบรรทุกหนักเกินมาตรฐาน เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 71 ราย บาดเจ็บอีกเป็นจำนวนมาก ทำให้นายหลิวเริ่มถูกตั้งคำถามเรื่องการจัดการฯ
ในช่วงที่นายหลิวดำรงตำแหน่งฯ กระทรวงรถไฟมีแผนการสร้างเส้นทางเครือข่ายรถไฟความเร็วสูงให้ได้ 16,000 กม.ภายในพ.ศ. 2558 มีการระดมเงินลงทุนมูลค่าหลายล้านล้านหยวน และกองทุนเหล่านี้มีการคอร์รัปชั่นกันอื้อซ่า กระทั่งสำนักงานคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดินออกมาแฉ (มี.ค.2554) กรณีที่เงินลงทุนถูกนำไปใช้อย่างไม่เหมาะสมโดยปัจเจกบุคคลหรือบริษัทมากถึง 187 ล้านหยวน ในโครงการรถไฟความเร็วสูงปักกิ่ง-เซี่ยงไฮ้
กระทั่งเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554 นายหลิวถูกตั้งคณะกรรมการฯ สอบสวนและถูกถอดถอนจากตำแหน่งรัฐมนตรี ตั้งแต่นายหลิวร่วงลงจากอำนาจ ปัญหาต่าง ๆ ที่เกาะกินระบบรถไฟจีน ซึ่งฟักตัวมาตั้งแต่ช่วงที่เขาบริหารก็ได้ผุดพรายขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็นหนี้สินมหาศาล จากการระดมทุนสร้างเส้นทางรถไฟความเร็วสูงสายใหม่ ปัญหาอุปกรณ์เสียหายและวัสดุปลอมอีกเพียบ
เมื่อปีที่ผ่านมา กระทรวงรถไฟจีนเจอมรสุมลูกใหญ่จนไม่เหลือภาพลักษณ์ หลังจากเกิดเหตุรถไฟชนที่เมืองเวินโจว มณฑลเจ้อเจียง สังหารผู้คนไป 40 ราย ตามรายงานของรัฐบาลจีน และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกเกือบ 200 คน โศกนาฏกรรมใหญ่ทั้ง 2 เหตุการณ์ดังกล่าว คณะกรรมาธิการฯ ลงความเห็นว่า ต้นเหตุสำคัญก็คือ “นายหลิว”
สัมพันธ์ลับกับนางติง ร่วมฉ้อโกงอื้อ
เรื่องอื้อฉาวสุด ๆ ที่สำนักข่าวซินหวานำมาเปิดโปงก็คือ นายหลิวใช้อำนาจในทางมิชอบเพื่อช่วยนักธุรกิจหญิง “นางติง อี่ว์ซิน” อย่างผิดกฎหมายให้เธอสามารถสะสมทรัพย์ได้มหาศาล
นางติงวัย 57 ปี จากมณฑลซานซีผู้นี้หรือเป็นที่รู้จักในนามติง ซูเหมียว เป็นอดีตผู้อำนวยการบริหารเครือบริษัทจัดการการลงทุนปักกิ่งปั๋วโย่ว รายงานข่าวยังแฉว่า สินทรัพย์บริษัทนางติงเพิ่มสูงจาก 474 ล้านหยวนปี 2551 เป็น 4,500 ล้านหยวนในปี 2553 สื่อจีนแผ่นดินใหญ่เคยรายงานก่อนหน้านี้ว่า นางติงได้รับเงินหลายร้อยล้านหยวน หลังจากช่วยให้บริษัทรายใหม่ชนะการประมูลโครงการต่าง ๆ ของกระทรวงรถไฟซึ่งมีมูลค่าสูงหลายล้านล้านหยวน
นางติงยังเป็นผู้จัดหาสาวรุ่นมาประเคนให้นายหลิวเป็นการตอบแทน ไม่ว่าจะเป็นดาราสาวที่เล่นซีรีส์ภาพยนตร์โทรทัศน์เรื่องความฝันในหอแดง ซึ่งเป็นหนังชุดที่บริษัทของนางติงลงทุนไปประมาณ 50 ล้านหยวน นอกจากนั้นเธอยังได้ซื้อบ้านราคาแพงลิบในฮ่องกงไว้ประดับบารมีด้วย ในปี 2552 บริษัทของนางติงยังได้รับสัมปทานสร้างกำแพงกันเสียงของเส้นทางรถไฟสำคัญเกือบทั้งหมด อาทิ สายอู่ฮั่น-ก่วงโจว ก่วงโจว-ฮ่องกง และเจิ้งโจว-ซีอาน
ทั้งนี้คณะกรรมการตรวจสอบวินัยพรรคคอมมิวนิสต์ได้กักตัวเธอไว้ตั้งแต่เดือนมีนาคมปีที่แล้ว (2554) เพียงไม่กี่สัปดาห์จากนั้นก็จับตัวนายหลิว รายงานข่าวไม่ได้เปิดเผยว่า นางติงมีทรัพย์สมบัติในครอบครองเท่าใด เผยเพียงว่า ความสัมพันธ์แบบปิดระหว่างนายหลิวกับนางติงนั้นนำมาสู่ความสูญเสียทางเศรษฐกิจมหาศาล และส่งผลกระทบเชิงลบต่อสังคมจีน
คณะกรรมาธิการตรวจสอบวินัยกลางฯ ชี้ว่านายหลิว “กระทำผิดศีลธรรม” ซึ่งคำนี้มักจะใช้เรียกสมาชิกพรรคฯ ที่เก็บซ่อนภรรยาน้อยไว้ นอกจากนั้นยังได้ประณามนายหลิวว่าเป็นต้นเหตุให้เกิดคอร์รัปชั่นอื่น ๆ ตามมาอีกมหาศาลกร่อนกินกระทรวงรถไฟจนหมดความน่าเชื่อถือ
สุดท้ายคณะกรรมการกรมการเมืองฯ ได้มีมติขับนายหลิว ออกจากพรรคคอมมิวนิสต์ การตัดสินใจนี้จะได้รับการยืนยันจากคณะกรรมการกลางฯ อีกครั้ง ส่วนคดีความของนายหลิวจะส่งฟ้องร้องตามกระบวนการยุติธรรมต่อไป นอกจากนั้นในคดีนี้มีเจ้าหน้าที่กระทรวงรถไฟระดับสูงอีกอย่างน้อย 8 คนติดร่างแหถูกลงโทษและขับออกในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา และอยู่ในระหว่างการไต่สวน อันได้แก่ นายจัง ซูกวง อดีตรองหัวหน้าฝ่ายวิศวกรของกระทรวงฯ นายหลัว จินเป่า อดีตประธานบริหารบริษัทไชน่า เรลเวย์ คอนเทนเนอร์ ทรานสปอร์ต โค และนายซู ซุ่นหู่ อดีตรองหัวหน้าสำนักงานโดยสารของกระทรวงรถไฟฯ นายจังเป็นสหายสนิทของนายหลิวและนายหลัว คนเหล่านี้ล้วนมีส่วนพัวพันกับคดีของนายหลิวทั้งสิ้น
มุมผู้เชี่ยวชาญ
ศาสตราจารย์หลิน เจ๋อ อาจารย์ประจำโรงเรียนพรรคคอมมิวนิสต์จีน ภายใต้คณะกรรมการกลางพรรคฯ ผู้เชี่ยวชาญด้านการต่อต้านคอร์รัปชั่นเผยว่า ครั้งนี้นายหลิวต้องได้รับการลงโทษสาหัส การขับออกจากพรรคคอมมิวนิสต์หมายความว่า นายหลิวได้สิ้นสุดชีวิตทางการเมือง การลงโทษเจ้าหน้าที่ฯ ผิดวินัยนั้นย่อมหนักกว่าประชาชนธรรมดา อย่างไรก็ดี หลินชี้ว่า คดีนี้ยังไม่น่าจะนำขึ้นสู่ศาลในเร็ววัน เพราะเป็นคดีที่ซับซ้อนและต้องการเวลาไต่สวน หลินเพิ่มเติมว่า “ไม่ว่าเจ้าหน้าที่คนใดจะมีผลงานความสำเร็จยิ่งใหญ่ ไม่ว่าเขามีตำแหน่งสูงส่งเท่าใด จีนก็ไม่สนใจและมุ่งมั่นจัดการปัญหาคอร์รัปชั่นอย่างไม่เกรงหน้าอินทร์หน้าพรหม”
หลี่ เฉิงเอี๋ยน ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยการเมืองสะอาดแห่งมหาวิทยาลัยปักกิ่งเผยว่า นายหลิวน่าจะได้รับบทลงโทษอย่างหนักหน่วง หลังจากการไต่สวนทำให้เห็นว่ารัฐบาลของเรา (จีน) ให้ความสำคัญต่อปัญหาคอร์รัปชั่น การประกาศขับนายหลิวออกจากพรรคฯ เป็นเพียงก้าวหนึ่งของการสอบสวนเท่านั้น ยังต้องรอดูโทษที่เขาจะได้รับหลังศาลตัดสินอีก