ไชน่า เดลี - ทางการจีนกำลังพิจารณาให้นักท่องเที่ยวต่างชาติสามารถแวะชมเมืองหลวงปักกิ่งได้เป็นเวลา 3 วัน หรือ 72 ชั่วโมงโดยไม่ต้องทำวีซ่า นักวิชาการหนุนลดตัวเลขขาดดุลการท่องเที่ยวของจีน
ฟู่ เจิ้งหัว ผู้อำนวยการฝ่ายรักษาความปลอดภัยสาธารณะของกรุงปักกิ่งออกมายอมรับว่าทางการกำลังพิจารณาถึงการปรับเปลี่ยนเพื่ออนุญาตให้นักท่องเที่ยวต่างชาติสามารถเยี่ยมชมเมืองได้เป็นเวลา 72 ชั่วโมง หรือ 3 วันเต็มๆ โดยไม่ต้องมีวีซ่า ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวจะเป็นสัญญาณสำคัญที่แสดงให้เห็นว่าเมืองปักกิ่งเปิดต่อโลกภายนอกอย่างเต็มตัว
ด้านหลิน ซง เจ้าหน้าที่หัวหน้าหน่วยตรวจคนเข้าเมืองของฝ่ายรักษาความปลอดภัยสาธารณะของกรุงปักกิ่งเมื่อวันอาทิตย์ (27 พ.ค.) ก็ออกมาแสดงความเห็นว่า “คาดการณ์กันว่าโครงการนี้จะช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติได้เพิ่มขึ้น”
กระนั้น ฝ่ายรักษาความปลอดภัยสาธารณะของกรุงปักกิ่งรวมถึงคณะกรรมการพัฒนาการท่องเที่ยวของปักกิ่งผู้เสนอนโยบายดังกล่าว กลับปฏิเสธที่จะให้รายละเอียดเพิ่มเติมเมื่อได้รับการติดต่อจากผู้สื่อข่าวของไชน่า เดลี อย่างไรก็ตามผู้เชี่ยวชาญก็ให้ความเห็นว่า นโยบายดังกล่าวน่าจะมีความคล้ายคลึงกันกับนโยบายที่ใช้อยู่ ณ นครเซี่ยงไฮ้ (48 ชั่วโมง) และมณฑลไหหลำ (21 วัน สำหรับคณะนักท่องเที่ยว)
“นับตั้งแต่เซี่ยงไฮ้ผ่อนคลายกฎเกณฑ์ โดยยกเว้นวีซ่าให้กับผู้โดยสารเดินทางผ่าน นครเซี่ยงไฮ้ และเมืองเพื่อนบ้านเช่น หางโจว อู๋ซีก็ได้รับประโยชน์อย่างมาก เนื่องจากนักท่องเที่ยวต่างชาติสามารถเดินทางไปท่องเที่ยวในเมืองเหล่านี้ระหว่าง 48 ชั่วโมงที่เขาแวะพัก” เจี่ยง อี้อี้ ผู้อำนวยการศูนย์พัฒนาการท่องเที่ยวนานาชาติ แห่งสถาบันการท่องเที่ยวแห่งชาติจีนระบุ
“มีชาวต่างชาติมาแวะเปลี่ยนเครื่องบินที่ปักกิ่งจำนวนมาก และโครงการยกเว้นวีซ่าจะทำให้คนเหล่านี้จำนวนมากสามารถท่องเที่ยวไปในนครโบราณแห่งนี้ได้สะดวกขึ้น” เจี่ยงกล่าวเสริม
ด้านนักวิเคราะห์ด้านการท่องเที่ยวผู้ไม่เปิดเผยนามผู้หนึ่ง กล่าวกับไชน่า เดลีว่า การพิจารณายกเว้นวีซ่าให้นักท่องเที่ยวนั้นมีการกล่าวถึงตั้งแต่ปีที่แล้ว โดยเวลานั้นมีการเสนอให้ยกเว้นวีซ่าสำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาในจีนไม่เกิน 7 วัน อย่างไรก็ตามแนวคิดดังกล่าวกลับถูกแขวนในที่สุด
“ข้อเสนอการยกเว้นวีซ่าอันใหม่นี้ถือเป็นการก้าวกระโดดครั้งใหญ่ เนื่องจากนโยบายเกี่ยวกับการออกวีซ่าถือว่ามีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งต่อพัฒนาการของการท่องเที่ยวทั้งขาออกและขาเข้าของจีน” ไต้ ปิน ผอ.สถาบันการท่องเที่ยวแห่งชาติจีนให้ความเห็น
ถึงแม้ว่าจีนจะมีกฎเกณฑ์เกี่ยวกับวีซ่าที่เคร่งครัด และมีข้อตกลงยกเว้นวีซ่ากับประเทศเพียงไม่กี่แห่ง แต่ไต้ ปินระบุว่า ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาจีนกำลังผ่อนคลายนโยบายวีซ่า เหมือนกับที่หลายๆ เมืองทั่วโลกที่กำลังดำเนินนโยบายยกเว้นวีซ่าเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มากขึ้น ยกตัวอย่างเช่น โตเกียวและกัวลาลัมเปอร์
“นโยบายวีซ่าที่เคร่งครัดรังแต่จะส่งผลให้ผู้มาเยือนที่มีศักยภาพโบกมือลา” เขากล่าว
ด้านลี่ ซินเจี้ยน ศาสตราจารย์ด้านการท่องเที่ยวแห่งมหาวิทยาลัยภาษาต่างประเทศที่สองแห่งปักกิ่ง หรือ Beijing International Studies University แสดงความเห็นด้วยกับความเห็นดังกล่าว โดยระบุว่า ในช่วงหลายปีที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศมากขึ้น รวมถึงสหรัฐอเมริกา และญี่ปุ่น เนื่องจากประเทศเหล่านี้ต่างผ่อนคลายนโยบายวีซ่าเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติ
ศ.ลี่ เปิดเผยอีกว่าในปี 2551 ชาวต่างชาติที่เดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศจีน ใช้จ่ายเงิน มากกว่าเงินที่ชาวจีนใช้จ่ายระหว่างเดินทางไปท่องเที่ยวยังต่างประเทศประมาณ 4,700 ล้านหยวน (ราว 23,500 ล้านบาท) ทว่าในปี 2552 หรือปีถัดมานักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางไปต่างประเทศกลับใช้จ่ายเงินมากกว่านักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมาท่องเที่ยวจีนถึง 4,000 ล้านหยวน (ราว 20,000 ล้านบาท) โดยตัวเลขการขาดดุลจากการท่องเที่ยวดังกล่าวพุ่งขึ้นสูงถึง 24,100 ล้านหยวน (ราว 120,500 ล้านบาท) ในปีที่แล้ว (2554)
เจี่ยง อี้อี้ ผู้อำนวยการศูนย์พัฒนาการท่องเที่ยวนานาชาติ ให้ความเห็นต่อกรณีที่มีความกังวลว่า นโยบายยกเว้นวีซ่าอาจทำให้มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาพักอาศัยอยู่ในจีนอย่างผิดกฎหมายเพิ่มขึ้น โดยระบุว่า เธอคิดว่าน่าจะมีผลกระทบไม่มากนัก แต่สิ่งที่สำคัญกว่าคือ นโยบายดังกล่าวจะช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวขาเข้าของจีน