เอเอฟพี - วิทยุฟรีเอเชียแห่งสหรัฐอเมริกาเผยว่า ลามะทิเบต 2 รูปจุดไฟเผาตัวในนครลาซา อันเป็นกรณีการเผากายที่เกิดขึ้นในนครหลวงของทิเบตเป็นครั้งแรก
รายงานข่าวระบุว่า ลามะ 2 รูปจุดไฟเผากายเมื่อวันอาทิตย์ (27 พ.ค.) บริเวณด้านหน้าวัดโจคัง อันเป็นศูนย์กลางแสวงบุญทางพุทธศาสนาแบบทิเบตในนครลาซา อันเคยเกิดเหตุจลาจลครั้งใหญ่มีผู้คนล้มตายจำนวนมากมาแล้วเมื่อปี 2551
วิทยุฟรีเอเชียเผยว่า สองลามะที่กระทำอัตวินิบาตกรรมจุดไฟเผากายเป็นกลุ่มลามะหนุ่มจำนวนน้อยที่ต้องการประท้วงต่อต้านกฎระเบียบของรัฐบาลจีน จึงจุดไฟเผากายด้านหน้าวัด และดูเหมือนว่าจะมรณภาพในกองเพลิง
พยานในเหตุการณ์เล่าว่า “กองกำลังรักษาความปลอดภัยมาถึงบริเวณเกิดเหตุอย่างรวดเร็ว รีบเร่งดับไฟและกันกลุ่มนักท่องเที่ยวออกจากบริเวณ”
“ภายใน 15 นาที พื้นที่ดังกล่าวก็กลับมาสะอาดเอี่ยม ไร้ร่องรอยประดุจหนึ่งว่าไม่เคยเกิดเหตุร้ายใดๆ”
วิทยุฟรีเอเชียยกรายงานข่าวของแหล่งข่าวใกล้ชิดว่า สถานการณ์ในนครลาซาขณะนี้ตึงเครียดมาก ในเมืองนั้นคลาคล่ำไปด้วยตำรวจและกองกำลังรบกึ่งทหาร
ชาวบ้านในลาซาคนหนึ่งให้สัมภาษณ์กับเอเอฟพี (28 พ.ค.) ว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจแห่กันมามหาศาลในเมือง ทำการตรวจบัตรประชาชนบริเวณท้องถนน ขณะที่สัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่ถูกตัดขาด
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงในลาซายังปฏิเสธการแถลงข่าว “ขณะนี้พวกเรายังตรวจสอบเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ชัดเจน ให้ทุกท่านคอยจนกว่าจะมีการแถลงข่าว” เจ้าหน้าที่ไม่เผยนามคนหนึ่งกล่าว
ขณะนี้ยอดผู้จุดไฟเผากายในจีนมีมากกว่า 30 รายแล้ว โดยส่วนมากเป็นชาวทิเบตและจุดในพื้นที่ที่มีชาวทิเบตอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก นับแต่ครั้งแรกเมื่อเดือน มี.ค. 2554 ลามะนามพันธสกจุดไฟเผากายเพื่อเป็นการประท้วงรัฐบาลจีนที่ชาวทิเบตเห็นว่า กดขี่เสรีภาพทางศาสนาและวัฒนธรรม
ร็อบบี บาร์เนต ผู้เชี่ยวชาญด้านทิเบตแห่งมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย ในนิวยอร์ก เผยว่า เหตุการณ์เผาตัวล่าสุดเป็นครั้งแรกที่เกิดขึ้นในนครลาซา นับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์จลาจลนองเลือดเมื่อปี 2551 ก่อนที่จะมีการลุกลามไปยังบริเวณอื่นๆ
“ครั้งนี้เป็นเหตุการณ์แรกในรอบ 4 ปี นับเป็นการก้าวถอยหลังของรัฐบาลจีน” บาร์เนตกล่าว
“การจุดไฟเผาตัวนับเป็นปัญหาที่กวนใจรัฐบาลจีนเพราะว่า การประท้วงรูปแบบนี้ยากที่จะป้องกัน”
ขณะนี้สื่อจีนยังไม่ได้กล่าวถึงเหตุการณ์ล่าสุด และชาวเน็ตยังสามารถใช้คำค้นเกี่ยวกับวัดโจคังได้เป็นปกติ