เอเอฟพี - สื่อรัฐบาลจีนเผยวันอาทิตย์ (8 ม.ค.) ชายชาวทิเบตคนหนึ่งเสียชีวิตหลังจากที่เขาและชายอีกคนพยายามจุดไฟเผาตัวในมณฑลเสฉวน ทำให้จำนวนของผู้กระทำอัตวินิบาตกรรมในภูมิภาคเพิ่มขึ้นเป็น 14 คน ในช่วงเวลาอันสั้น
สำนักข่าวซินหวารายงานว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันศุกร์ (6 ม.ค.) ใกล้กับอารามกีรติ เมืองอาป้า มณฑลเสฉวน ซึ่งเป็นเมืองที่มักเกิดเหตุการณ์เผาตัว นับแต่พระหนุ่มฉายาพันธสกจุดไฟเผากายถึงแก่มรณกรรมเมื่อเดือนมี.ค.ปีที่ผ่านมา
ฝ่ายกลุ่มสิทธิมนุษยชนเผยว่า มีพระที่จุดไฟเผาตัวที่ถึงแก่มรณะจำนวน 9 รูป และเป็นแม่ชีอีก 2 รูป ในช่วงปีที่ผ่านมา ณ มณฑลเสฉวน เพื่อประท้วงรัฐบาลจีนที่กดขี่เสรีภาพในการนับถือพุทธศาสนาแบบทิเบต ซึ่งในจำนวนนี้เสียชีวิตอย่างน้อย 7 คน
ซินหวาเผยอีกว่า ผู้ที่จุดไฟเผากายเคยเป็นลามะแล้วลาสิกขาออกมา ขณะที่เจ้าหน้าที่จีนอาวุโสของจีนได้เดินทางลงไปยังพื้นที่เมื่อวันอาทิตย์ เพื่อคุมเข้มการจัดการอารามต่าง ๆ และต่อสู้กับกลุ่มของทะไลลามะ
เหตุการณ์ล่าสุดที่อดีตลามะที่ลาสิกขามาแล้ว 2 คนนี้จุดไฟเผาตัวที่อารามกีรติ ซินหวาเผยว่า คนที่มีอายุ 18 ปีนั้นถึงแก่กรรมในห้องในโรงแรมแห่งหนึ่ง ขณะที่อีกคนวัย 22 ปี ถูกนำตัวเข้ารับการรักษาด่วนที่โรงพยาบาล
กลุ่มฟรีทิเบตในกรุงลอนดอนอ้างข้อมูลจากผู้เห็นเหตุการณ์ระบุว่า ชายวัย 22 ปี นั้นเรียกร้องให้องค์ทะไลลามะผู้นำทางจิตวิญญาณของทิเบตกลับคืนสู่ทิเบตในขณะที่เขากำลังจุดไฟเผาตัว
เปลวเพลิงถูกดับลง และเขาก็ถูกนำตัวไปยังสถานที่ที่ไม่มีใครทราบได้ รายงานของกลุ่มฯ ระบุ
เจ้าหน้าที่หญิงในโรงพยาบาลท้องถิ่นปฏิเสธที่จะบอกเล่าอาการของชายดังกล่าว ขณะที่รัฐบาลและตำรวจก็ไม่มีความเห็นเช่นกัน
โฆษกรัฐบาลท้องถิ่นเผยกับซินหวาว่า ชายคนหนึ่งที่อยู่ในโรงพยาบาลเผยเรื่องราวให้ฟังว่า “ชายสองคนที่จุดไฟผาตัวมีการวางแผนการกันอย่างลับ ๆ มาก่อนแล้ว”
ซินหวาเผยว่า การไต่สวนยังพบว่าทั้งคู่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีลักทรัพย์ ซึ่งหมายรวมถึงคดีพระพุทธรูปในอารามกีรติสูญหาย
สเตฟานี บริกเดน หัวหน้ากลุ่มฟรีทิเบต เผยว่า มันแย่มากที่รัฐบาลต่างประเทศไม่สามารถทำอะไรกับเรื่องนี้ได้เลย แม้ว่าจะมีคนจุดไฟเผาตัวถึง 14 คน แต่ประชาคมโลกกลับล้มเหลวที่จะช่วยเหลือ
“พวกเราเพียงหวังได้ว่า การเรียกร้องคงจะมีต่อไปเรื่อย ๆ ตราบเท่าที่ผู้นำโลกจะเปิดตาที่บอดสนิทขึ้นมามองสถานการณ์ความจริงในทิเบตเสียที” เธอกล่าวในแถลงการณ์
อย่างไรก็ตามองค์ทะไลลามะประณามการจุดไฟเผาตัว ซึ่งขัดต่อหลักความเชื่อของพุทธศาสนา แต่ขณะนี้ชาวทิเบตกำลังทำอัตวินิบาติกรรมกันเป็นประเณีไปเสียแล้ว ภายใต้ข้ออ้างที่ว่าอยู่ภายใต้การปกครองของจีนแล้วถูกกดขี่
ชาวทิเบตหลายคนในจีนกล่าวหารัฐบาลจีนว่า ออกกฎหมายกดขี่เสรีภาพทางศาสนา และกัดกินวัฒนธรรมของทิเบต โดยให้ชาวจีนฮั่นที่เป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศทะลักเข้าสู่พื้นที่ของทิเบต
อย่างไรก็ตามจีนปฏิเสธว่า ชาวทิเบตก็ยังคงมีเสรีภาพในการนับถือศาสนา และชี้ไปที่ความต่อเนื่องในการลงทุนพัฒนาเศรษฐกิจ สร้างความทันสมัยและมาตรฐานการครองชีพที่ดีขึ้นให้กับชาวทิเบต.