เอเอฟพี - ชาวทิเบตอีก 2 รายเสียชีวิตทันทีหลังจากจุดไฟเผาตัวกระทำอัตวินิบาตกรรมทางแถบภาคตะวันตกเฉียงใต้ของจีน กลุ่มสิทธิมนุษยชนฯ เผย (20 เม.ย.) การประท้วงดังกล่าวเป็นการต่อต้านกฎระเบียบของพรรคคอมมิวนิสต์จีน
ขณะนี้ยอดรวมผู้จุดไฟเผาตัวเพิ่มขึ้นเป็น 34 คนแล้ว มีทั้งลามะ แม่ชี และชาวบ้าน นับแต่ต้นปี 2554 เป็นต้นมา ซึ่งชาวทิเบตเหล่านี้มองว่าจีนกดดันเสรีภาพทางวัฒนธรรม และศาสนา
ชาวทิเบตหลายคนที่จุดไฟเผาตัว ทนความเจ็บปวดจากบาดแผลไม่ไหวจนถึงแก่กรรม
กลุ่มสิทธิมนุษยชนในทิเบตเผยว่า การเผาตัวตายรายล่าสุดนี้เป็นชายชาวทิเบต 2 ราย เหตุเกิดในเมืองอาป้า เขตมณฑลซื่อชวน (เสฉวน) เมื่อวันที่ 19 เมษายนที่ผ่านมา
กลุ่มรณรงค์สากลเพื่อทิเบตซึ่งตั้งอยู่ในสหรัฐฯ (ICT) และลามะทิเบตในเขตพื้นที่ต่างเผยพ้องต้องกันว่า ทั้ง 2 ผู้เผาตัวถึงแก่ชีวิตแล้ว
เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้รัฐบาลจีนเพิ่มความเข้มงวดในเมืองบาร์มา ซึ่งเกิดเหตุจุดไฟเผากายบริเวณด้านหน้าของอารามพุทธทิเบต กลุ่มสิทธิมนุษยชนฯ บรรยาย
เจ้าหน้าที่รัฐบาลท้องถิ่นปฏิเสธที่จะให้ความเห็นใดๆ เมื่อสำนักข่าวต่างประเทศติดต่อไปสอบถาม
กลุ่มสิทธิมนุษยชนฯ เผยว่า สองคนที่เสียชีวิตนามว่า โซนัม และโชภัค คีอัพ ซึ่งเป็นชาวบ้านในพื้นที่ มีอายุเพียง 20 ปีเศษเท่านั้น
เมืองดังกล่าวเริ่มมีความตึงเครียดมาตั้งแต่เดือนมกราคม เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจยิงอาวุธใส่กลุ่มผู้ประท้วง ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 1 ราย
จีนพยายามออกกฎฯ คุมเข้มความมั่นคงในทิเบตนับตั้งแต่ปี 2551 เมื่อเกิดเหตุจลาจลครั้งใหญ่ต่อต้านรัฐบาลจีนที่อุบัติในนครลาซา และความรุนแรงลุกลามไปยังพื้นที่ข้างเคียงที่มีชาวทิเบตอาศัยอยู่
เจ้าหน้าที่จีนเผยอย่างเป็นทางการ (19 เม.ย.) ให้ลามะและแม่ชีจำนวน 6,773 รูปที่ขึ้นทะเบียนอย่างถูกต้องตามกฎหมาย สามารถประกอบพิธีในนครลาซาได้
ชาวทิเบตหลายคนเผยว่า จีนได้เหยียบย่ำเสรีภาพทางศาสนาและวัฒนธรรมในทิเบตอย่างรุนแรง ขณะที่จีนออกมาปฏิเสธ โดยให้เหตุผลว่า สิ่งที่จีนทำเพื่อปลดปล่อยสังคมแบบทาสในทิเบต และต้องการพัฒนาเศรษฐกิจ
รัฐบาลจีนประณามทะไลลามะ ผู้นำจิตวิญญาณของทิเบตที่ลี้ภัยอยู่ต่างประเทศว่า เป็นผู้อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ความไม่สงบทั้งปวง และต้องการแบ่งแยกดินแดน