เอเอฟพี - ธนาคารโลกเผยรายงาน (23 พ.ค.) ว่าการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนจะลดลงต่อเนื่องในปีนี้ ชี้ผู้กำหนดนโยบายจีนต้องประสบความท้าทายในการป้องกันการชะลอตัวอย่างรุนแรง
ในขณะที่ตลาดการส่งออกต่างประเทศเริ่มพึ่งพาไม่ได้ จีนก็จำเป็นต้องรักษาระดับการเติบโตเศรษฐกิจไว้ด้วยการกระตุ้นการใช้จ่ายภายใน ธนาคารโลกเผยในรายงานครึ่งปีการพัฒนาเศรษฐกิจเอเชียว่า “ความท้าทายเชิงนโยบายของจีนในระยะใกล้ก็คือ การรักษาระดับการเติบโตไว้ให้ได้ แล้วค่อยให้เศรษฐกิจชะลอลงอย่างช้า”
“แม้โอกาสการชะลอตัวแบบค่อยเป็นค่อยไปยังคงมีอยู่ แต่จีนก็ต้องกังวลว่าภาวะฮาร์ดแลนดิ้ง หรือเศรษฐกิจหดตัวอย่างรุนแรงอาจจะเกิดขึ้น จีนควรมีนโยบายที่เพียงพอสำรองไว้เพื่อป้องกันความเสี่ยง”
ธนาคารโลกทำนายว่า เศรษฐกิจของจีนซึ่งเป็นมหาอำนาจลำดับ 2 ของโลกนั้นจะขยายตัวอยู่ที่ 8.2 เปอร์เซ็นต์ในปี 2555 ลดลงจาก 9.2 เปอร์เซ็นต์เมื่อปี 2554 และ 10.4 เปอร์เซ็นต์ในปี 2553
“การลดลงของอุปสงค์ในประเทศจีนจะส่งแรงกระเพื่อมไปยังภาคการผลิตและเครือข่ายการค้าในเอเชียตะวันออกอย่างรวดเร็ว เนื่องจากจีนเป็นศูนย์กลางการผลิตในย่านนี้”
“ประการต่อมาคือ ความเสี่ยงของตลาดภายในที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากมาตรการควบคุมตลาดอสังหาริมทรัพย์ของจีน แม้ว่าตัวมาตรการจะดูเหมือนค่อยเป็นค่อยไปและมีระเบียบก็ตาม”
ความกังวลเกี่ยวกับการขยายตัวช้านี้เริ่มมีมากขึ้นเรื่อยๆ หลังจากข้อมูลความอ่อนแอทางเศรษฐกิจจีนเมื่อเดือน เม.ย.ประกาศออกมาเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา การเติบโตด้านการผลิตในโรงงานอุตสาหกรรม การนำเข้า การส่งออก การลงทุนสินทรัพย์ถาวร ตลอดจนการปล่อยกู้ของธนาคาร ทุกอย่างล้วนลดลง
นั้บจากนั้นรัฐบาลจีนได้สั่งลดระดับเงินสดสำรองธนาคารลงทันที นักเศรษฐศาสตร์ยังเชื่อด้วยว่าจีนคงต้องงัดมาตรการอื่นๆ ออกมากู้สถานการณ์อีกอย่างแน่นอน
รัฐบาลจีนได้ตั้งเป้ายอดการเติบโตทางเศรษฐกิจไว้ที่ 7.5 เปอร์เซ็นต์สำหรับปี 2555 นี้ โดยมีเป้าหมายหลักๆ เพื่อควบคุมปัญหาตกงาน และเพื่อป้องกันความไม่สงบในสังคม
ธนาคารโลกเผยว่า จีนมีวิธีการที่จะสนับสนุนการใช้จ่ายงบประมาณ แต่ก็ควรจะระงับการใช้จ่ายด้านสาธารณูปโภคพื้นฐานที่ใหญ่โตเอาไว้ก่อน เพราะอาจจะส่งผลกระทบทำให้เกิดเป็นวิกฤตดังเช่นปี 2551 ที่ผ่านมาแล้วก็ได้
“จีนควรจะทบทวนมาตรการทางด้านงบประมาณเพื่อสนับสนุนการบริโภคเป็นลำดับแรก เช่น มาตรการตัดลดภาษี การใช้จ่ายสวัสดิการสังคม และค่าใช้จ่ายทางสังคมอื่นๆ” รายงานฯ ระบุ
ธนาคารโลกเผยด้วยว่า การเติบโตที่ช้าลงเรื่อยๆ ของจีน จะกระชากเศรษฐกิจของประเทศอื่นๆ ให้ตกลงตามกัน ขณะที่การพัฒนาเศรษฐกิจในเอเชียและแปซิฟิกคาดการณ์ให้ขยายตัวอยู่ที่ 7.6 เปอร์เซ็นต์ในปี 2555 ซึ่งลดลงจากปีก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ 8.2 เปอร์เซ็นต์
ผู้ส่งออกโภคภัณฑ์ทั่วภูมิภาคมีประสบการณ์จากยุคเศรษฐกิจเฟื่องในปี 2554 แต่หากว่าเศรษฐกิจจีนลดลงเร็วกว่าที่คิด ย่อมกระทบต่อพวกเขาอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง จะทำให้ราคาของโภคภัณฑ์ทั้งหลายร่วงกรูดลง
ธนาคารโลกชี้ว่า สัญญาณเหล่านี้เตือนให้ประเทศกำลังพัฒนาทั้งหลายในภูมิภาคใส่เกียร์เร่งเดินหน้าลดการพึ่งพาการส่งออก และหันมาฟื้นฟูอุปสงค์ภายในประเทศเพื่อรักษาการเติบโตเอาไว้
“บางประเทศจะต้องกระตุ้นการใช้จ่ายภาคครัวเรือนเพื่อให้คงการเติบโตทางเศรษฐกิจไว้” บรินซ์ ควิลลิน นักเศรษฐศาสตร์และผู้เขียนรายงานหลักของธนาคารโลกเผย