เอเอฟพี - กิจกรรมการผลิตของจีนเพิ่มสูงสุดในรอบ 13 เดือนในเดือนที่ผ่านมา (เม.ย.) อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์ชี้ว่า มหาอำนาจเศรษฐกิจลำดับสองของโลกอย่างจีนอาจจะต้องประสบสภาวะการผลิตตกต่ำสุดในไตรมาส 2 ข้างหน้านี้ได้
ข้อมูลจากสหพันธ์พลาธิการและการจัดซื้อของจีน (CFLP) เผยแถลงการณ์ว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายซื้อ (PMI) ซึ่งเป็นดัชนีชี้วัดกิจกรรมความเคลื่อนไหวภาคอุตสาหกรรมของจีน เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 53.3 ในเดือน เม.ย.ซึ่งขึ้นมาจากเมื่อเดือน มี.ค. ซึ่งอยู่ที่ 53.1
นักวิเคราะห์อธิบายว่า ค่าดัชนี PMI มีเส้นแบ่งระหว่างภาวะเศรษฐกิจที่ขยายตัวแข็งแกร่งและหดตัวที่ระดับ 50 โดยหากเคลื่อนไหวสูงกว่าระดับ 50 แสดงถึงการขยายตัวของเศรษฐกิจ และหากหดตัว ดัชนีจะลดไปต่ำกว่าระดับ 50
ตัวเลขล่าสุดนี้ถือว่าสูงสุดนับแต่เดือน มี.ค.ปีที่ผ่านมา ขณะนั้นค่า PMI อยู่ที่ 53.4 ซึ่งน้อยกว่าผลคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์ 7 คนจากดาวโจนส์นิวส์ไวร์ ที่ระบุว่าจะอยู่ที่ 53.4 อยู่ไม่มาก
อลิสแตร์ ธอร์ตัน นักเศรษฐศาสตร์ของ ไอเอชเอส โกลบอล อินไซด์ ในกรุงปักกิ่ง เผยว่า ตัวเลขดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า กิจกรรมการผลิตของจีนเพิ่มขึ้น แต่ก็เตือนว่า “เร็วเกินไปที่จะยินดี” เพราะยังคงต้องติดตามในเดือนถัดไปเสียก่อน
“เศรษฐกิจจีนยังอยู่ในจุดที่ยากลำบาก การผ่อนคลายนโยบายการเงินลงบ้างในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ก็ทำให้แน่ใจว่าเศรษฐกิจจีนอาจดีดตัวกลับมาดีขึ้นบ้าง” ธอร์ตันเผยในงานวิจัย
“ขณะนี้มีสัญญาณว่าเศรษฐกิจจีนและอีกหลายสิ่งเริ่มมีชีวิตชีวาบ้าง แต่การฟื้นตัวต้องการเวลาอย่างช้าๆ”
จีนคาดการณ์ให้เศรษฐกิจของตนขยายตัวช้าลงในปีนี้ เนื่องจากตลาดส่งออกรายใหญ่ของจีนอย่างสหภาพยุโรปและสหรัฐฯ มีปัญหาวิกฤตหนี้สาธารณะ ทำให้จีนได้รับผลกระทบด้านการผลิตสินค้าเพื่อส่งออกอย่างไม่อาจเลี่ยง
รัฐบาลจีนตั้งเป้าให้เศรษฐกิจจีนในปี 2555 ขยายตัวอยู่ที่ 7.5 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งปีที่แล้วโต 9.2 เปอร์เซ็นต์ และ
ปีก่อนหน้า 10.4 เปอร์เซ็นต์
นักวิเคราะห์หลายคนคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจจีนจะขยายตัวลดลงต่ำในช่วงไตรมาสแรกของปี แต่อีกหลายคนก็ชี้ว่า การฟื้นตัวอาจจะชะงักไปจนกว่าจะเข้าสู่ไตรมาสที่ 2