เอเยนซี—ข่าวแพร่สะพัดในสื่อเทศ ระบุเฉิน กวงเฉิง ทนายความ นักรณรงค์สิทธิมนุษยชนชื่อดัง หลบหนีออกจากบ้านที่เขาถูกกักกันตัวไว้ เจ้าหน้าที่ในท้องถิ่นโกรธจัด นำกำลังมาบุกค้นบ้านเฉินกลางดึก
เหลียนเหอเจ่าเป้าแห่งสิงคโปร์ รายงานในเช้านี้ (27 เม.ย.) ว่า เฉิน กวงเฉิง หลบหนีไปยังสถานทูตสหรัฐฯ ที่กรุงปักกิ่ง เมื่อตอนหัวค่ำวานนี้ (26 เม.ย.) เหลียน
เหอเจ่าเป้าได้ส่งอีเมลไปสอบถามที่สถานทูตสหรัฐฯ ในปักกิ่ง แต่ยังไม่ได้รับคำตอบใดกลับมา
เฉิน กวงเฉิง วัย 39 ปี นัยน์ตาบอด นักรณรงค์สิทธิมนุษยชน เขาติดตามการละเมิดสิทธิมนุษยชนในการดำเนินนโยบายลูกคนเดียวในจีนอย่างกัดไม่ปล่อย อาทิ การบังคับทำแท้ง คอร์รัปชัน จนเป็นที่รู้จักระดับโลก เจ้าหน้าที่จีนได้ติดตามควบคุมตัวเขาอย่างเข้มงวด
เฉินถูกตัดสินจำคุก 4 ปี ในความผิดทำลายทรัพย์สินสาธารณะและขัดขวางการจราจรระหว่างการประท้วง และได้รับการปล่อยตัวเมื่อเดือน ก.ย. 2553 นับจากนั้นมา เขาก็ถูกกักกันตัวในบ้านพร้อมทั้งภรรยา มารดา และลูก ซึ่งอยู่ในหมู่บ้านตงซือกู่ มณฑลซันตง มีรายงานข่าวชี้ว่า เขาถูกซ้อมหลายครั้ง จนร่างกายบอบช้ำอ่อนแอลงเรื่อยๆ
เหอ เพ่ยหรง เพื่อนคนหนึ่งที่ช่วยเฉินหลบหนีจากบ้านเผยว่า เฉินได้เตรียมการหลบหนีออกจากบ้านเป็นเวลานานหลายเดือน ระหว่างที่เขาป่วย และเจ้าหน้าที่ที่เฝ้าบริเวณบ้านของเขาก็ตายใจ เนื่องจากไม่เห็นเขาออกมาเคลื่อนไหวใด
เหอ เพ่ยหรง เผยว่า เฉินได้ติดต่อเธอและเพื่อนนักรณรรงค์ 2-3 คน
เฉินได้หลบหนีออกจากบ้านในวันที่ 22 เม.ย.ที่ผ่านมา โดยมาพบกับเพื่อนๆ ที่จุดนัดหมาย จากนั้นก็ขึ้นรถยนต์พาเขาไปซ่อนตัวที่บ้านหลังหนึ่ง
เหอเผยว่า เพื่อนๆ ของเฉินตัดสินใจเปิดเผยเรื่องการหลบหนีของเฉินเมื่อได้ข่าวว่า เจ้าหน้าที่ในซันตงรู้เรื่องเฉินหนีไปแล้ว และได้ส่งเจ้าหน้าที่มาคุกคามสมาชิกในครอบครัวของเขา
เฉิน เข่อกุ้ย หลานของนักรณรงค์ฯ นัยน์ตาบอด ได้คุยโทรศัพท์กับนักรณรงค์ฯ จีน ว่ากลุ่มเจ้าหน้าที่ได้บุกไปที่บ้านของเขา และด้วยความกลัวจะถูกทำร้าย เขาจึงถือมีดทำครัวไว้ป้องกันตัว
“ผมกลัวว่าพวกเขาจะรุมทำร้ายผม หรือซ้อมจนตาย” หลานของเฉินบอกในโทรศัพท์ ซึ่งได้ถูกบันทึกไว้ และนำมาเผยแพร่ออนไลน์
หลังจากนั้นก็ไม่มีใครสามารถติดต่อหลานของเฉินได้อีก
ส่วนภรรยา มารดา และลูกของเฉิน ไม่มีใครรู้ชะตากรรม
เหอ เพ่ยหรงกล่าวว่า สุขภาพของเฉิน กวงเฉิง ย่ำแย่มาก แต่จิตวิญญาณของเขายังแข็งแกร่ง เขาป่วยมา 18 เดือนในบ้านที่ตงซือกู่ โดยมีตำรวจเฝ้าอยู่อย่างหนาแน่น
ฟู่ ซีชิว อดีตนักรณรงค์ประชาธิปไตยเทียนอันเหมิน ที่หลบหนีออกจากจีน ในปี 2539 หลังจากที่ถูกดำเนินคดีเกี่ยวกับความเชื่อศาสนาของเขา ฟู่เล่าว่าเขาได้โทรศัพท์ติดต่อกับเพื่อนๆ ที่พาเฉินหลบหนีไป และเขาก็เป็นผู้ติดต่อกับสมาชิกวุฒิสภาสหรัฐฯ กระทรวงต่างประเทศแห่งสหรัฐฯ และสถานทูตสหรัฐฯ ในปักกิ่ง “เพื่อที่จะหาทางช่วยเหลือเฉิน กวงเฉิง และกลุ่มเพื่อนที่ช่วยเหลือหาที่หลบซ่อนตัวแก่เฉิน”
แต่ฟู่ก็ไม่ยืนยันข่าวลือที่ระบุว่าขณะนี้เฉินอยู่ที่สถานทูตสหรัฐฯ ในปักกิ่ง นอกจากนี้ ฟู่ยังบอกว่าขณะที่เฉินหลบซ่อนตัวอยู่นี้ เขา(เฉิน)ยังยืนยันไม่ต้องการหนีออกนอกประเทศ จะอยู่ในประเทศจีนต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษย-ชนต่อไป
ฟู่เผยว่าเรื่องเฉินหลบหนี ได้แดงออกมาเมื่อเช้านี้ เมื่อมีข่าวว่าเจ้าหน้าที่ได้ไปที่บ้านของเฉินที่หมู่บ้านตงซือกู่ ค้นบ้านเขาและบ้านของพี่ชายเขา คือ เฉิน กวงฝู เฉิน กวงฝูซึ่งเพิ่งกลับบ้านมาหลังจากไปทำงานต่างถิ่น ก็ถูกควบคุมตัวไป
เฉิน กวงเฉิง ส่งจดหมายออนไลน์ ถึงนายกฯ เวิน
เฉิน กวงเฉิง ได้ส่งข้อความออนไลน์ถึงนายกรัฐมนตีเวิน เจียเป่า ยืนยันว่าเขาได้หลบหนีออกมา พร้อมกับเรียกร้องนายกฯ เวิน 3 ประการ
เฉิน กวงเฉินระบุว่า ข่าวลือที่เผยว่าเขาได้หลบหนีไป เป็นเรื่องจริง และยังมีเรื่องที่เลวร้ายมากกว่านั้น
เฉิน กวงเฉิงขอให้นายกฯ เวิน มาถามด้วยตัวเอง และตั้งคณะกรรมการสอบสวน เพื่อระบุว่าใครเป็นผู้ออกคำสั่งส่งคนไปบุกบ้านของเขาและใช้ความรุนแรง โดยที่ไม่มีเอกสารทางกฎหมายใด
เฉินยังเรียกร้องให้นายกฯ เวินดำเนินการตรวจสอบอย่างถึงรากถึงโคน เกี่ยวกับปัญหาทุจริตคอร์รัปชัน และการละเมิดอำนาจของพวกเจ้าหน้าที่พิทักษ์สันติราษฎร์ และให้คำตอบแก่ประชาชน
เฉิน กวงเฉิงเผยว่า มีเจ้าหน้าที่เข้ามาในห้องของเขามากกว่าหนึ่งครั้ง และหลายครั้งยังได้เบ่งว่าเป็นเจ้าหน้าที่พิทักษ์สันติราษฎร์ไม่ต้องยึดถือข้อกฎหมายใดก็ได้ โดยเฉพาะได้กระทำการรุนแรงต่อภรรยาของเขาหลายครั้ง
นอกจากนี้ มีเจ้าหน้าที่จากหน่วยพิทักษ์สันตราษฎร์หลายคนไม่ทราบนาม แต่งกายนอกเครื่องแบบมาเฝ้าดูเขา บางครั้งมากันเป็นร้อยคน ล้อมบ้านของเขา บางครั้งฟ้ายังไม่ทันสว่างดี ก็มาตระโกนเรียกแม่ของเขา หรือไม่ก็ทำให้ลูกของเขาตกใจกลัวลนลาน
เฉิน กวงเฉิง เรียกร้องให้นายกฯ เวิน ปกป้องครอบครัวของเขาด้วย
เฉิน กวงเฉิง “ทนายตีนเปล่า” เรียนกฎหมายด้วยตัวเอง ช่วยประชาชน
เฉิน กวงเฉิง วัย 39 ปี ตาบอดตั้งแต่วัยเด็กเล็กเนื่องจากอาการป่วย เขาไม่ได้ศึกษาวิชากฎหมายในระบบสถาบันใด
หากเรียนความรู้ด้านกฎหมายด้วยตัวเอง และได้นำวิชากฎหมายมาช่วยปกป้องสิทธิประโยชน์ของประชาชน จนได้รับฉายาว่า “ทนายตีนเปล่า”
เฉิน กวงเฉิงได้เปิดโปงด้านดำมืดของ ‘นโยบายลูกคนเดียว’ จนเป็นที่รู้จักระดับโลก รัฐบาลท้องถิ่นเมืองหลินอี๋ บ้านเกิดของเขาได้ดำเนินนโยบายคุมกำเนิดอย่างหยาบช้าสามานย์ ได้แก่ การบังคับให้ผู้หญิงผ่าตัดทำหมัน บังคับให้ผู้หญิงทำแท้ง ฯลฯ เฉิน กวงเฉิง ได้ใช้วิชากกฎหมายช่วยเหลือชาวบ้าน ปกป้องสิทธิของผู้ได้รับความเสียหายหรือถูกทำร้าย และได้เปิดโปงเรื่องเลวร้ายเหล่านี้กับสื่อ
วันที่ 6 ก.ย. 2548 เฉิน กวงเฉิง ถูกจับกุมตัวในปักกิ่ง และเมื่อกลับมายังบ้านที่ซันตง ก็ถูกกักตัวในบ้าน จำกัดการติดต่อกับโลกภายนอก
วันที่ 11 มี.ค. 2549 เฉิน กวงเฉิง ถูกตำรวจจับตัวไป และขาดการติดต่อกับโลกภายนอก ปีเดียวกัน ก็ถูกดำเนินคดีในศาล โดยศาลระบุว่าเขามีความผิดก่อกวนในที่สาธารณะ ถูกตัดสินจำคุก 4 ปี 3 เดือน ปี 2553 จึงได้รับการปล่อยตัว และถูกกักตัวในบ้านมาตลอด