เอเอฟพี - สำนักงานรัฐบาลของจีนเผย (9 เม.ย.) อัตราเงินเฟ้อจีนในเดือนมี.ค. ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า ขณะที่นักวิเคราะห์เชื่อว่าเงินเฟ้อจีนยังคงอยู่ในแนวโน้มปรับตัวลดลงต่อเนื่อง
ดัชนีราคาผู้บริโภคหรือซีพีไอ ปรอทชี้วัดเงินเฟ้อของจีนปรับตัวเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 3.6 เปอร์เซ็นต์ปีต่อปีในเดือนมี.ค. ซึ่งเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า (ก.พ.) ซึ่งอยู่ที่ 3.2 เปอร์เซ็นต์ ตัวเลขดังกล่าวถือว่ามากกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์เล็กน้อย ทั้งนี้เหล่านักวิเคราะห์เชื่อว่าเป็นผลมาจากสภาพอากาศย่ำแย่พืชผักผลิตไม่ได้ ผลักดันให้ราคาอาหารเพิ่มสูง ตลอดจนการประกาศขึ้นราคาน้ำมันของรัฐบาล
เงินเฟ้อเป็นหนึ่งในปัญหาเศรษฐกิจใหญ่สุดที่รัฐบาลปักกิ่งกังวล เพราะหากราคาสินค้าปรับตัวสูงขึ้นเรื่อยๆ อาจนำมาซึ่งความไม่สงบในสังคม เงินเฟ้อจีนเคยทุบสถิติพุ่งพรวดอยู่ที่ 6.5 เปอร์เซ็นต์เมื่อเดือนก.ค.ปีที่ผ่านมา หลังจากนั้นก็ค่อย ๆ ปรับตัวลดลง
“ซีพีไอที่เพิ่มสูงขึ้นก็มาจากราคาอาหารที่สูงขึ้น เป็นผลมาจากสินค้าจำพวกพืชผักผลิตได้น้อยกว่าความต้องการบริโภคเพราะสภาพอากาศที่หนาวเย็นในช่วงเดือนมี.ค.” หลี่ ฮุ่ยย่ง นักวิเคราะห์แห่งบริษัทหลักทรัพย์เซินอิ๋นวั่นกั๋วในเซี่ยงไฮ้เผย
ราคาอาหาร โดยปรกติเป็นประเด็นสำคัญที่รัฐบาลจีนกังวล เนื่องจากเป็นประเด็นอ่อนไหวที่สุดสำหรับประชาชนจีน ในเดือนมี.ค. ราคาอาหารจีนเพิ่มขึ้นถึง 7.5 เปอร์เซ็นต์
การประกาศขึ้นราคาน้ำมันของรัฐบาลจีน 2 ครั้ง นับแต่ต้นปีที่ผ่านมา ก็เป็นสาเหตุทำให้ต้นทุนการผลิตเพิ่มขึ้นด้วย หลี่ชี้ว่า อย่างไรเสียทั้งหมดนี้ก็ยังถือว่าเงินเฟ้อจีนอยู่ในช่วงขาลงต่อเนื่อง
“พวกเราเชื่อว่า เงินเฟ้อจีนจะยังคงอยู่ในช่วงปรับตัวลดลงต่อเนื่อง จนกว่าจะถึงเดือนก.ค.ปีนี้ เงินเฟ้อจีนจึงจะเข้าสู่จุดต่ำสุด” หลี่ทำนาย
เงินเฟ้อจีนลดลงต่ำสุดนับแต่ปี 2553 เมื่อเดือนก.พ.ที่ผ่านมา และนักวิเคราะห์ทำนายว่า จะสามารถรักษาระดับเงินเฟ้อให้อยู่ที่ต่ำว่า 4 เปอร์เซ็นต์ได้ในปีนี้อย่างแน่นอน แม้ว่าเดือนมี.ค. ราคาอาหารแพงจะดันเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นบ้างก็ตาม
นายกรัฐมนตรีเวิน จยาเป่าของจีน เคยประกาศในพิธีเปิดการประชุมสภาผู้แทนประชาชนประจำปี ในเดือนมี.ค. เตือนว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคยังคงสูง และเป้าหมายของรัฐบาลจีนต้องเดินหน้าคุมเข้มเงินเฟ้อให้อยู่หมัดน้อยกว่า 4 เปอร์เซ็นต์ให้ได้ในปีนี้
ขณะที่การเติบโตทางเศรษฐกิจจีนเริ่มมีสัญญาณชะลอตัว รัฐบาลจีนก็เริ่มผ่อนคลายมาตรการทางการเงินเพื่อหนุนช่วยผู้ส่งออกและผู้ประกอบการขนาดย่อมที่กำลังไปไม่รอด ในช่วงเศรษฐกิจโลกตกต่ำ
รัฐบาลจีนสั่งธนาคารพาณิชย์ในประเทศปรับลดเงินสดสำรองลง 2 ครั้งในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมา เพื่อให้มียอดเงินสำหรับการปล่อยกู้ช่วยเหลือผู้ประกอบการเพิ่มขึ้น นักวิเคราะห์ชี้ว่า รัฐบาลจีนคงต้องทำอะไรอีกเป็นแน่ในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ “ยังคงมีช่องทางสำหรับธนาคารกลางที่จะปรับลดเงินสดสำรองลงได้อีกในไม่ช้า” ถัง เจี้ยนเหว่ย นักเศรษฐศาสตร์แห่งธนาคารเพื่อการสื่อสารเซี่ยงไฮ้เผย
ดัชนีราคาผู้ผลิต มาตรวัดต้นทุนสินค้าหน้าประตูโรงงานและเป็นตัวชี้วัดนำราคาผู้บริโภคของจีน เดือนมี.ค.ลดลง 0.3 เปอร์เซ็นต์ปีต่อปี
จีนได้ตัดลดการขยายตัวทางเศรษฐกิจอยู่ที่ 7.5 เปอร์เซ็นต์ในปีนี้ จาก 8 เปอร์เซ็นต์เมื่อปีที่ผ่านมา รัฐบาลจีนรับรู้ว่าการส่งออกอันเป็นปัจจัยสำคัญดันการขยายตัวของเศรษฐกิจจีนกำลังประสบปัญหา เนื่องจากตลาดส่งออกในยุโรปประสบปัญหาวิกฤติหนี้สาธารณะ และสหรัฐฯ ก็อยู่ในช่วงฟื้นฟูเศรษฐกิจ
